ความคืบหน้าของการร่วมเพศกันบนอวกาศ

ถ้าเราพูดถึงเรื่องการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ไม่ว่าจะสัตว์หรือพืช จะตัวเล็กขนาดเท่าแบคทีเรียหรือจะมีขนาดตัวที่ใหญ่กว่าวาฬสีน้ำเงินเจ้าแห่งมหาสมุทร (ในตอนนี้) ก็ไม่พ้นต้องมีการสืบสานสายพันธ์ หรือสปีชีย์ของตัวเองไว้เพื่อให้อยู่รอดหรือเพราะเหตุผลอื่น ๆ  อย่างไรก็ตามการสืบพันธุ์จำเป็นสำหรับทุกชีวิต ปกติก็ต้องสืบพันธุ์บนพื้นโลกกันอยู่แล้ว แต่ถ้าเกิดในอวกาศขึ้นมาล่ะ น้ำสวาทจะลอยไปลอยมาไหม จะบรรเลงทวงท่าได้อย่างใจปราถนาไหม บทความนี้มีคำตอบ

ลองจินตนาการเล่น ๆ ถ้าสมมติว่าเรามีอะไรอะไรกันบนอวกาศ พื้นที่ที่ไร้น้ำหนักของโลก และในสภาวะที่ไร้น้ำหนักนั้น ของเหลวที่อยู่ในร่างกายของเราต่างก็ลอยเคว้งคว้าง ไร้ทิศทาง

ที่สำคัญในสภาวะไร้น้ำหนักยังทำให้ความดันของเราต่ำลง ส่งผลให้เลือดในร่างกายของเราไหลเวียนช้าและชะลอการผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (นั้นทำให้เราเหนื่อยง่ายและเกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงได้ นักบินอวกาศจึงต้องฝึกร่างกายอย่างหนัก) อีกทั้งยังมีตารางเวลาที่รัดกุมแถมยังมีการตรวจสอบต่าง ๆ เกือบตลอดเวลา ถ้าเกิดจะมีอะไรกันจริง ๆ บนนั้น นักบินอวกาศก็คงต้องมีความกระเหี้ยนกระหือรืออยู่พอควร

คู่รักใจกล้า ท้าภารกิจเสียว

ถ้าเกิดเราอยากจะลองไปเสียวในอวกาศ ท่ามกลางดวงดารานับล้าน ๆ ดวง ที่จ้องมองเราอยู่ แต่มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดไว้ ไหนจะปัญหาเรื่องการที่คนสองคนจะตัวติดกันชั่วระยะหนึ่ง เพื่อที่จะปฏิบัติภารกิจเสียวสวาทนี้ ปัญหาและข้อจำกัดมีมากมาย แต่ก็มีผู้กล้าที่จะลองความเสียวนี้

ชื่อของเธอคือคุณ Vanna Bonta ที่ขอปฏิบัติภารกิจแสนยิ่งใหญ่นี้ด้วยตัวเธอเองและแฟนหนุ่มของเธอ เธอเป็นหญิงสาวนักเขียนที่อาศัยอยู่ในดินแดนแห่งศิลปะ เต็มไปด้วยกลิ่นอายของอารยธรรมโรมัน ประเทศอิตาลี ด้วยความที่เธออาศัยในเมืองแห่งศิลปะ การได้ร่ายรำทวงท่าสุดสวาท ในห้วงอวกาศ ก็เป็นอีกหนึ่งศิลปะที่เธออยากสร้างมันให้วิจิตรงดงาม

Vanna Bonta และสามีของเธอ Allen Newcome ในชุด 2suit บนเครื่องบิน Zero G force 1 boeing 737 ที่มา – Spacefreighters Lounge

คุณ Vanna  เธอได้ออกแบบชุด 2suit สำหรับปฏิบัติภารกิจสุดเสียวบนอวกาศ สำหรับเธอและสามีของเธอเอง ซึ่งพวกเขาได้นำมาทดสอบในสภาวะไร้น้ำหนักบนเครื่องบิน Zero G force 1 boeing 737 และทำการบินให้อยู่ในสภาวะแบบไร้น้ำหนักโดยที่พวกเขาจะบินขึ้นไปเหนือระดับน้ำทะเล 38,000 ฟุต หรือ 11.58 กิโลเมตรเหนือระดับน้ำทะเล ในรัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา

ทั้งสองคนได้ตั้งเป้าหมายในการทำภารกิจครั้งนี้คือพวกเขาจะต้องกอดและจูบกันให้ได้ภายในเวลาอันสั้น (30 วินาที) ในสภาวะที่ไร้น้ำหนัก โดยสองรอบแรก พวกเขาจะต้องปรับตัวให้คุ้นเคยกับสภาวะไร้แรงโน้มถ่วงให้ได้อย่างรวดเร็วที่สุด รอบที่ 3 พวกเขาถูกขัดจังหวะโดยลูกทีมและเจ้าหน้าที่ทีมงานที่ขึ้นไปในเที่ยวบินครั้งนี้ด้วย (แหม่ เซ็งจริง)

รอบต่อ ๆ มาพวกเขาเริ่มจะปรับตัวได้และพยายามกอดกันแต่ก็ถูกขัดจังหวะเรื่อย ๆ จนกระทั้งรอบที่ 8 พวกเขาทั้งคู่ได้ประสบความสำเร็จในการทำภารกิจโดยพวกเขาได้ติดชุดสูทของตัวเองกับอีกฝ่ายและจูบกันเสร็จภายในช่วงระยะเวลาอันสั้นและกลับลงมาที่พื้นเครื่องบินเหมือนตอนก่อนเริ่มได้ นับว่าเป็นก้าวเล็ก ๆ ที่สำคัญกับการที่จะมี sex บนอวกาศในสภาวะไร้แรงโน้มถ่วงได้

แล้วจะมีอารมณ์จริง ๆ เหรอ

แต่ก็อย่างที่รู้กันดี ถึงแม้ว่าเราจะมีชุด 2suit  ที่สามารถทำให้ตัวของทั้งสองคนติดกันได้แล้ว ก็ยังเป็นเรื่องที่ยากอยู่ดีสำหรับการที่จะมีกิจกรรมร่วมรักขึ้นบนสภาวะที่ไร้น้ำหนัก ขนาดแค่กอดจูบกันยังต้องใช้การทดสอบถึง 8 ครั้งกว่าจะสำเร็จ เราก็ยังมีศัตรูตัวสำคัญอีกหลายตัว ยกตัวอย่างศัตรูที่น่ากลัวอันดับต้น ๆ ก็คงไม่พ้น กฎของแรงปฏิกิริยาของ เซอร์ ไอแซค นิวตัน (Sir Isaac Newton) หรือกฎของนิวตันข้อที่สาม ที่กล่าวไว้ว่า แรงที่วัตถุที่หนึ่งกระทำต่อวัตถุที่สอง ย่อมเท่ากับ แรงที่วัตถุที่สองกระทำต่อวัตถุที่หนึ่ง แต่ทิศทางตรงข้ามกัน

ลองนึกภาพการดัน กระแทก ผ่าน Newton’s Cradle ที่มา – Shutterstock

จากภาพด้านบน จะเห็นได้ว่าแรงที่ลูกเหล็กกระแทกลูกเหล็กอีกลูก จะทำให้เกิดแรงกระแทกจากลูกเหล็กลูกนั้นกับอีกลูก ซึ่งทั้งสองแรงนี้มีทิศทางตรงกันข้าม แต่มีขนาดที่เท่ากัน นั้นทำให้เวลาที่เราผลักอีกคนออกไปทำให้เรามีแรงเด้งออกมาด้วย ลองจินตนาการถึงความยุ่งเหยิงในกิจกรรมร่วมรักดูสิ คนหนึ่งดันเข้าอีกคนก็จะดันออก คนหนึ่งผลักคนหนึ่งดึงเข้าหา มันอาจจะกลายเป็นประสบการณ์โล้สำเภาที่ยอดเยี่ยมในชีวิตคู่รักคู่หนึ่งเลยก็ได้

เกิดอะไรขึ้นเมื่อน้ำ (ตา) แตก

ถ้าพูดถึงเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ สิ่งที่มันจะต้องเกิดและจะต้องมีอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นก่อนทำ ระหว่างทำ หรือหลังทำก็คือ ของเหลว ไม่ว่าจะเป็นเหงื่อจากกายของทั้งสอง น้ำอย่างว่า (ผู้ชายน่าจะรู้ดี) หรือแม้กระทั้งน้ำลาย สิ่งที่เป็นของเหลวทั้งหมดที่ใช้ในการทำกิจกรรมของผู้ใหญ่แบบนั้น อาจจะสร้างปัญหาอันยิ่งใหญ่ให้กับทั้งสองคนในระหว่างทำกิจกรรมได้

นักบินอวกาศ Chris Hadfield เขาได้ทดลองหยดน้ำบนสภาวะเกือบไร้น้ำหนัก ตามคลิปด้านบน ปรากฎว่าน้ำที่เขาหยดลงไปบนเปลือกตาของเขาไม่หยดลงมาที่พื้น แต่กลับเกาะติดและกลิ้งไปมาบนใบหน้าของเขาแทน

ถึงแม้เราจะหยดเพิ่มขึ้นมากเท่าไหร่ น้ำที่หยดออกมาจะเกาะ และกลิ้งไต่ไปตามใบหน้า ตามร่างกายของเขาตลอด และนี้ก็อาจจะทำให้เราต้องใช้ผ้าขนหนูหรือกระดาษทิชชู่ในการช่วยซับน้ำต่าง ๆ ที่กลิ้งไปมาบนร่างกายของอีกฝ่ายระหว่างทำกิจกรรมอย่างว่าไปด้วย

เพลียง่ายกว่าเดิม

นอกจากนี้ยังมีปัญหาด้านการทรงตัว ในสภาวะที่เกือบไร้น้ำหนักบนสถานีอวกาศ เรามักจะสูญเสียการทรงตัว และมวลของกล้ามเนื้อไปทำให้เกิดอาการอ่อนเพลียง่าย กล้ามเนื้ออ่อนแรงและลีบ การออกกำลังกายทุกวันในขณะที่ใช้ชีวิตอยู่บนสถานีอวกาศจึงสำคัญมากสำหรับนักบินอวกาศ ซึ่งส่วนโดยเฉลี่ยแล้วพวกเขาจะออกกำลังกายเฉลี่ยวันละ 2 ชั่วโมงโดยใช้เครื่องมือยกน้ำหนักที่สร้างขึ้นมาเป็นพิเศษ และนอกจากนั้นมวลกระดูกของนักบินอวกาศจะลดลงประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์ ในทุก ๆ เดือนที่เขาใช้ชีวิตอยู่ในอวกาศ หากพวกเขาไม่ออกกำลังกาย อาจจะก่อให้เกิดโรคกระดูกพรุนภายหลังจากที่พวกเขาได้กลับมาใช้ชีวิตบนโลก

The Cycle Ergometer with Vibration Isolation System: CEVIS ที่มา – NASA

จากการที่เราสูญเสียมวลของกล้ามเนื้อและกระดูกไปทำให้ ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ที่มีส่วนช่วยในการสร้างฮอร์โมนเพศชายลดน้อยลง นั้นเป็นผลทำให้เพศชายมีปริมาณตัวอสุจิที่น้อยลง น้องชายแข็งตัวได้ไม่ดีพอที่จะทำกิจกรรมแบบนั้น (แบบที่ทุกคนคิดนั้นแหละ) และที่สำคัญคือความต้องการทางเพศจะลดลงเป็นอย่างมาก จะเห็นได้ว่าชีวิตส่วนใหญ่ของนักบินอวกาศ บนสถานีอวกาศนั้นเต็มไปด้วยตารางงานที่แน่นหนา และเวลาที่หายไปกับการออกกำลังกายเพื่อป้องกันกล้ามเนื้อลีบและโรคกระดูกพรุน แค่นี้ก็ไม่มีเวลาและอารมณ์ที่จะมาเล่นจ้ำจี้มะเขือเปาะแปะกันบนพื้นที่ที่เสมือนว่าไร้น้ำหนักของโลกแล้ว

แม้จะเสร็จกันแล้ว แต่การสืบพันธุ์จริง ๆ จะเป็นอย่างไร

และปัญหาที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างก็คือ รังสีหรืออนุภาคที่อยู่นอกโลก ทำให้การสอดใส่หรือแม้แต่จะปลดผ้าออกนั้นมักเต็มไปด้วยอันตรายจากรังสีที่มองไม่เห็น เช่นรังสีคอสมิก ซึ่งมันจะส่งผลโดยตรงถึงเซลล์ของมนุษย์และก่อให้เกิดมะเร็งและโรคอื่น ๆ โดยปกติแล้วรังสีพวกนี้มันจะถูกกลั่นกรองด้วยชั้นบรรยากาศของโลก และสถิติจาก European Space Agency นั้นกล่าวว่านักบินอวกาศนั้นได้รับความเสี่ยงต่อการได้รับอันตรายจากรังสีคอสมิกเพิ่มขึ้นถึง 30% เมื่อใช้ชีวิตอยู่ในอวกาศ นั้นอาจจะหมายถึงชีวิตทั้งผู้ที่เป็นพ่อและแม่ที่มีเพศสัมพันธ์บนอวกาศและอาจจะมีผลต่อพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตที่กำลังจะถือกำเนิดขึ้นในท้องของคุณแม่บนอวกาศก็ได้

อย่างไรก็ตาม การมีเพศสัมพันธ์บนอวกาศนั้นก็ยังเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและมีปัญหาที่เยอะ แถมยังต้องกับคำถามวิชาสุขศึกษาในเรื่องการสืบพันธ์ุและคำถามวิชาชีววิทยาเรื่องของการแบ่งเซลล์และการสืบพันธ์ุของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีกระดูกสันหลัง พันธุกรรมที่อาจจะเกิดการเปลี่ยนไป โรคที่อาจจะตามมา และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่นาซ่าจะต้องหาคำตอบของคำถามพวกนี้ให้ได้ ก่อนที่จะส่งมนุษย์ขึ้นไปทำอะไรกันและคลอดลูกกันบนอวกาศจริง ๆ

ไม่งั้นก็คงต้องออกแบบท่าใหม่ ๆ เพื่อนำไปใช้บนอวกาศในอนาคตข้างหน้าแทน

อ้างอิง

Can Humans Have Sex in Space? – ThoughtCO.com

Do Astronauts Have Sex?

Outer Space Sex

 

 

มายด์ - บรรณาธิการและนักเขียน นิสิตปี 1 ภาคฟิสิกส์ จุฬาฯ สนใจเรื่องอวกาศ วิทยาศาสตร์ BLACKPINK อดีตไอดอลที่ออกวงการมาแล้ว และในปัจจุบันนี้เป็น Atomic Queen Ambassador of Physics 2019