ความบาดหมางของ 2 ขั้วมหาอำนาจอย่างอเมริกาและสหภาพโซเวียต ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อให้เกิดสงครามเย็นขึ้นมา ซึ่งสงครามเย็นที่ว่าก็มิใช่การที่ทั้ง 2 ฝ่ายผลิตน้ำแข็งยักษ์มาขว้างปากัน แต่มันคือสงครามทางจิตวิทยาที่มีการแข่งขันกันทางด้านต่าง ๆ มากมาย หนึ่งในนั้นก็คือการแข่งขันกันทางด้านเทคโนโลยีอวกาศ
การแบ่งแยกของทั้งสองฝ่าย ในสมัยสงครามเย็น – History.com
สหภาพโซเวียตจึงผุดโครงการวอสตอค โครงการที่จะส่งมนุษย์ขึ้นไปโคจรรอบโลกเป็นครั้งแรกขึ้นมา จึงทำให้ทางรัฐบาลต้องเฟ้นหาบุคคลที่จะมาเป็นมนุษย์อวกาศคนแรกที่จะออกไปโคจรรอบโลก แต่ไม่ใช่ใครก็สามารถเป็นมนุษย์อวกาศคนแรกของโลกได้ คน ๆ นั้นจะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่ทางรัฐบาลกำหนด
ภาพการปล่อยจรวด Vostock 1 – Wikipedia
กริกอรี่ เนลูบอฟ ชายผู้เป็นกัปตันและนักบินในกองทัพอากาศโซเวียตในขณะนั้น เขาได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในนักบินอวกาศ 20 คนในวันที่ 7 มีนาคม ค.ศ. 1960 พร้อมกับยูริกาการิน ทั้ง 20 คนจะต้องได้รับการฝึกหนักเพื่อให้ตนได้รับคัดเลือกเป็นนักบินอวกาศคนแรกของโลก แต่การแข่งขันก็คือการแข่งขัน หากฝ่ายใดช้าก็จะถูกเบียดออกนอกลู่ สหภาพโซเวียตที่มีสหรัฐฯจี้ตูดมาติด ๆในขณะนั้นจึงตัดจำนวนคนจาก 20 คน ให้เหลือเพียง 6 คนและแน่นอนว่า กริกอรี่ ก็คือหนึ่งในนั้น
ภาพของ Grigori Nelyubov – Spacefacts.de
จากภารกิจก่อนหน้าที่ได้มีการส่งสุนัขไลกาขึ้นสู่ห้วงอวกาศ ณ วันที่ 3 พฤศจิกายน ค.ศ. 1957 ทำให้ทางสหภาพโซเวียตรู้ว่าชุดอวกาศจะต้องถูกทำขึ้นมาเป็นพิเศษเฉพาะของแต่ละคนเท่านั้นซึ่งต้องใช้เวลาในการทำนานพอสมควรแต่กำหนดการในการปล่อยยานวอสตอคนั้นได้ถูกกำหนดไว้แล้วและเหลือเวลาน้อยเต็มที ทำให้ต้องตัดคนเหลือเพียง 3 คน และกริกอรี่ ก็คือหนึ่งในนั้นอีกตามเคย ความฝันของเขาใกล้จะเป็นจริงเต็มที แต่ราวกับตื่นจากฝันดีเพราะในวันที่ 10 เมษายน ค.ศ. 1961 ก็ได้มีการประกาศชื่อผู้ที่ได้รับคัดเลือก นั่นก็คือ ยูริ กาการิน ไม่ใช่ชื่อเขา..
หนังสือพิมพ์ลงข่าวของยูริ กาการิน – cnet.com
แต่กริกอรี่ ก็ยังไม่สิ้นหวัง เพราะภายหลังจากนั้นเขาก็ได้ถูกฝึกหนักเพื่อเตรียมตัวสำหรับภารกิจอื่น แต่แล้วภารกิจนั้นก็ถูกเปลี่ยนแปลง เขาเครียดจัดจนแพทย์สั่งงดให้ฝึกในวันที่ 19 เมษายน ค.ศ. 1963 ซึ่งวันนี้นั่นเองที่กลายมาเป็นจุดเปลี่ยนของเขา จากการที่แพทย์แนะนำให้เขาอยู่บ้านพักผ่อน เขาได้ออกไปหาเครื่องดื่มแอลกอฮอลดื่มและได้มีปัญหากับสายตรวจ ทำให้ในที่สุดเขาก็ถูกปลดออกจากการเป็นนักบินอวกาศ เขาถูกส่งไปประจำที่กองทัพอากาศที่ไกลออกไปทางตะวันออก เขาเริ่มดื่มจัดและซึมเศร้า หนทางในการกลับไปเป็นนักบินอวกาศของเขาช่างมืดมัว
เช้าวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1966 กริกอรี่ไม่ได้กลับมาที่บ้าน ซิไนด้า คอสตินา ภรรยาของกริกอรี่พบร่างอันแหลกเหลวของเขาที่รางรถไฟ จากการสืบสวนทำให้ทางการสรุปว่า กริกอรี่ เสียชีวิตเพราะเมาแล้วร่วงลงไปถูกรถไฟทับตาย แต่ภรรยาของเขาปักใจเชื่อว่านี่คือการฆ่าตัวตาย
กริกอรี่ เนลูบอฟ จากไปด้วยวัยเพียงแค่ 31 ปี ไม่มีใครบอกได้ว่าการตายของเขาคืออุบัติเหตุหรือการฆ่าตัวตายกันแน่ เขาเป็นชายที่มากไปด้วยความสามารถ ความฝันอันพรั่งพรู และร่างกายอันแข็งแรงที่ถูกฝึกมาเพื่อภารกิจเสี่ยงตาย สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเหลือเลย นี่คงเป็นอีกหนึ่งหลักฐานที่พิสูจน์ว่ามนุษย์เป็นเพียงเศษเสี้ยวของผงธุลีเท่านั้น สุดท้ายพวกเราก็ต้องกลับสู่ดินกันทุกคน
แด่ชายผู้มากไปด้วยความฝันและความทะเยอทะยาน กริกอรี่ เนลูบอฟ นักบินอวกาศ ผู้ไม่เคยได้ขึ้นสู่อวกาศ
เรียบเรียงโดยทีมงาน SPACETH.CO
อ้างอิง
