จะเป็นไปได้หรือไม่ วิธีสร้าง Lightsaber จากภาพยนตร์สู่โลกแห่งความจริง

มหากาพย์สงครามหนังอวกาศที่เปลี่ยนแปลงโลกของภาพยนตร์ไปตลอดกาลตั้งแต่ 1977 ที่หนังเรื่อง Star Wars ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์สหรัฐ ค่ำคืนที่หนังเข้าฉายไปนั้นมันเปลี่ยนเช้าวันรุ่งขึ้นไปอย่างตลอดกาล เมื่อจากหนังที่ไม่มีใครต้องการจะฉายกลายเป็นหนัง Block Buster ที่ขึ้นหิ้งตลอดกาลและได้รับเสียงวิจารณ์และคำตอบรับที่ดีมากถึงขั้นจากหนังที่จบภายในตอนกลายเป็นหนังภาคต่อที่ยาวนานและต่อเนื่องมากที่สุดเรื่องหนึ่ง

สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงวงการภาพยนตร์นั้นก็คือการมาของ กระบี่แสงหรือ Lightsaber นั้นเอง

Lightsaber ในภาพยนตร์

อาวุธประจำกายของเหล่าเจไดและซิธคือ Lightsaber ซึ่งมันคือดาบที่เกิดจากการรวมตัวและบีบบิดแสงด้วย Force ของแร่ภายในที่ตัวดาบ ซึ่งทำให้แสงนั้นถูกบีบอัดและมีความเข้มสูง ไม่มีสิ่งใดตัดผ่านลำแสงนี้ได้ สิ่งที่ต่อสู้ฟาดฟันกับ Lightsaber ได้อย่างสมศักดิ์ศรีคงจะเห็นเพียงแต่ Lightsaber ด้วยกันเองเท่านั้น ซึ่งการสร้าง Lightsaber นั้นเป็นกระบวนการของเหล่าเจไดที่มีจิตใจสูงส่งเท่านั้นจึงจะสามารถทำมันออกมาได้ ซึ่งเชื่อว่าดาบแต่ละเล่มนั้นมีแร่ที่แตกต่างกันไปตามสี ทำให้ Force ของดาบนั้นมีพลังส่งเสริมเจไดผู้ถือ พลังที่จะควบคุมดาบ และพลังอื่นๆอีกมากมายตามศรัทธาของเจได

Lightsaber เป็นดาบที่มีความร้อนสูงเนื่องจากเกิดจากลำแสงเลเซอร์ที่ได้รับการบีบอัดจาก Force ของแร่ ทำให้มันสามารถตัดเหล็กแผ่นหนาๆได้อย่างสบาย อีกทั้งยังสามารถสะท้อนกระสุนของเลเซอร์บลาสเตอร์ได้อีกด้วย

Luke Skywalker กับดาบของพ่อของเขาที่ Ben Kenobi มอบให้

เป็นไปได้หรือที่จะสร้าง Lightsaber ในโลกความเป็นจริง

ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจธรรมชาติของแสงก่อน แสงเป็นรูปแบบหนึ่งของพลังงาน พลังงานเป็นสิ่งที่ประหลาดเพราะเรารับรู้มันจากผลลัพท์ที่มันสร้างขึ้น ถึงเราจะรับรู้ได้ ตรวจจับได้ แต่เราก็มองไม่เห็นพลังงานอยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นพลังงานศักย์ที่อยู่ภายในลูกแอปเปิ้ลบนยอดต้นไม้ หรือ มองเห็นพลังงานความร้อนในขนมปังที่อยู่เตาอบ แน่นอนว่าไม่มีใครมองเห็นสิ่งเหล่านี้ แม้แต่แสง เราไม่สามารถมองเห็นแสงได้ แต่เรารับรู้ว่ามีแสงสว่างจากการสะท้อนจากวัตถุอื่นแล้ววิ่งเข้ามาในดวงตาของเรา หากวัตถุนั้นสะท้อนแสงได้น้อยก็จะรู้สึกรับรู้ว่ามันมืด หากมันสะท้อนได้มากเราก็จะรู้สึกมันสว่าง ถ้าไม่สะท้อนเราก็จะมองไม่เห็นอะไรเลย ซึ่งนี้คือเรื่องพื้นฐานง่ายๆที่คนส่วนใหญ่มักไม่เข้าใจกัน ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เราเข้าใจได้ในทันทีว่า หาก Lightsaber ได้จริง เราจะมองไม่เห็นลำดาบเหมือนตอนที่ Ben Kenobi ฟัดดาบสู้กับ Darthvader

ฉากที่ Ben Kenobi ได้ดวลดาบกับ Darthvader ภายใน Death Star

สำหรับในหนังอาจอ้างได้ว่าเป็นเพราะ Force ทำให้เรามองเห็นลำแสง แต่ในความเป็นจริงเราไม่สามารถมองเห็นลำแสงได้นอกจากมันจะสะท้อนกับฝุ่นที่ล่องลอยในชั้นอากาศที่มากเพียงพอจะทำให้เห็นรูปร่างของลำดาบได้ แต่เราไม่สามารถมองเห็นดาบได้ในอวกาศ เพราะลำแสงเหล่านี้ไม่มีอะไรสะท้อนแสงพวกมันมาสู่ตาของพวกเราได้เลย

อีกปัญหาหนึ่งของ Lightsaber คือมันเป็นแสง และเราควบคุมแสงไม่ได้

มนุษย์รู้จักการสร้างแสงสว่างตั้งแต่สมันยุคหินเก่าด้วยการสร้างไฟ ไฟคือแสงสว่างในยุคแรก ต่อมาเอดิสันได้ประดิษฐ์หลอดไฟขึ้นมา มันคือสิ่งประดิษฐ์ที่ทดแทนแสงสว่างจากเปลวเพลิงและปลอดภัยมากกว่าเปลวไฟอย่างแน่นอน จนถึงทุกวันนี้เรามีแสงสว่าง เราสามารถแปลงพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานแสงได้ แต่เรายังไม่สามารถควบคุมแสงโดยการอัดแสงลงไปในกระป๋องแล้วให้มันอยู่ในนั้นได้ หรือหยุดมันให้หยุดนิ่งเหมือนที่ไคโร เรนหยุดกระสุนบัสเตอร์ของโพที่ยิงใส่เขาในหนัง

หากเราควบคุมแสงไม่ได้ แปลว่าเราไม่สามารถควบคุมขนาดของใบดาบได้ ซึ่งหากเราควบคุมขนาดของใบดาบไม่ได้ มันคือความฉิบหายของเจไดอย่างแท้จริง

นึกภาพคุณเปิดดาบจะฟันศัตรูแต่มันไปฟาดเพดานบ้านคุณจนพังพินาศแล้วล่วงลงมาทับเจไดอย่างคุณดับอนาถลงข่าวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์สิ มันไม่ใช่เรื่องสนุกเลยใช่มั้ยละ

นั้นคือปัญหาที่แก้ไขไม่ได้ และคงอีกนานกว่าจะคิดวิธีแก้ได้ เพราะมันไม่มีแรงหรืออนุภาคที่สามารถหยุดแสงได้

สุดท้ายแสงก็คือแสง มันคือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และเราเอาแสงมาฟันกันไม่ได้

เนื้อดาบที่เปลี่ยนไปเมื่อแสงเป็นตัวเลือกที่แย่

อย่างที่กล่าวไปนั้นแหละ แสงมันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเป็น Lightsaber ที่ดีได้ แต่ Lightsaber ยังเป็นไปได้อยู่นะ เราลองหาอนุภาคหรือสสารสักอย่างที่มีคุณสมบัติที่ดีคล้ายกับ Lightsaber ในภาพยนตร์ สิ่งที่ได้คือ เราต้องเปลี่ยนไปใช้พลาสม่าเป็นใบดาบแทนที่แสง

ทำไมเราถึงเลือกที่จะใช้พลาสม่าเป็นใบดาบแทนแสงละ? เราต้องรู้จักคุณสมบัติของพลาสม่ากันก่อน พลาสม่านั้นคือกลุ่มแก๊สที่ถูกทำให้ร้อนจัดจนอิเล็กตรอนหลุดออกจากวงโคจรของอะตอม มันจะกลายสภาพเป็นเฟสพลาสม่า ไม่ใช่ในสถานะแก๊สอีกต่อไปเพราะสมบัติของมันคือนำไฟฟ้า

ถ้าเราลงเรื่องเกี่ยวกับเฟสพลาสม่ามากเกินไปมันจะกลายเป็นบทความเกี่ยวกับเฟสของสสารบนโลกนี้ที่มีการแบ่งออกเป็นร้อยกว่าเฟสแทน Lightsaber ดังนั้นเอาเป็นว่าเราจะจบเรื่องสมบัติของเฟสพลาสม่าที่ไม่จำเป็นไว้แค่นี้ กลับมากันต่อว่าทำไมเราถึงเลือกพลาสม่ามาเป็นใบดาบ

  1. เรามองเห็นพลาสม่าได้
  2. เราควบคุมพลาสม่าได้

แค่สองคุณสมบัตินี้ก็ทำให้มันกลายสภาพเป็นดาบที่ดีกว่าแสงเป็นเท่าตัว แล้วทำไมเราสามารถมองเห็นพลาสม่าได้ เพราะว่ามันป็นสสาร ไม่ใช่พลังงานดังนั้นเราจังสามารถมองเห็นมันได้ครับ

การมองเห็นดาบคือสิ่งที่มีประโยชน์อย่างมากเพราะว่าทำให้เจไดนั้นรู้ว่าการฟาดดาบไปในแต่ละครั้งนั้นตนฟาดลงไปในตำแหน่งไหน เพราะ Lightsaber นั้นแทบไม่มีมวลเหมือนดาบจริงดังนั้นการเหวี่ยงในแต่ละครั้งจำเป็นต้องมองเห็นปลายดาบ เอาจริงการมองเห็นอาวุธของตัวเองย่อมมีประโยชน์ละนะ

อีกอย่างคือเราสามารถควบคุมพลาสม่าได้ง่ายกว่าแสงมาก ๆ เพียบเราใช้คุณสมบัติด้านแม่เหล็กไฟฟ้าและอนุภาคเล็กน้อยก็ควบคุมมันได้อย่างง่ายดายทำให้ Lightsaber มีขนาดที่เหมาะสมและพร้อมจะสู้เคียงข้างเจไดอย่างคุณ

แล้วเราจะสร้างพลาสม่าอย่างไรละ มันง่ายมากเพราะในชั้นบรรยากาศของโลกเรานั้นมีแก๊สออกซิเจนและไนโตรเจนมากมายเราอาจสร้างเทอร์โบปั๊มคล้ายใบพัดในเครื่องยนต์จัมโบ้เจ็ทที่ใช้กันบนเครื่องบินมาติดที่ท้ายด้ามดาบเพื่อเร่งความเร็วของอากาศเพื่อสร้างชั้นพลาสม่าเข้มข้นขึ้นที่รูปล่อยแก๊สก็ได้หรือทำให้อากาศรอบดาบสั่นพ้องด้วยความถี่ธรรมชาติซึ่งทำให้ชั้นอากาศร้อนจัดจนกลายสภาพเป็นพลาสม่าก็ได้

ปัญหาที่ยังคงไร้ทางออกคือ มันคือพลาสม่ามันเป็นเหมือนกลุ่มหมอกของแก๊ส ระยะห่างระหว่างอะตอมจึงกว้างมาก การดวล Lightsaber แบบนี้อาจทำให้คุณไม่พอใจนักเพราะดาบนั้นทะลุผ่านกันเหมือนชั้นอากาศธาตุไม่มีผิด

อีกสิ่งหนึ่งคือดาบมันจะร้อนจนบ้าคลั่งจนกระทั้งเจไดที่ใช้งานมันอาจตายได้เลยถ้าหากไม่สวมชุดป้องกันความร้อนแบบที่นักผจญเพลิงหรือนักวิทยาศาสตร์ภูเขาไฟใช้งานกัน ซึ่งมันคงไม่เท่ใช่มั้ยละ

พลังงานที่จำเป็นสำหรับดาบ

หากคุณจะสร้างพลาสม่าคุณต้องมีพลังงานที่เพียงพอสำหรับมัน ซึ่งต้องเป็นแหล่งจ่ายไฟที่ไม่ธรรมดาเหมือนถ่านไฟฉายตรากบแน่นอน

เพราะถ้าคุณเอา Lightsaber ต่อสายติดกับแหล่งจ่ายไฟภายนอก ถ้าสายพันกันหรือสายขาดก็เท่ากับจบ มันคงไม่สนุกและเท่ใช่มั้ยละถ้ามีสายระโยงระยางระเกะระกะไปหมด กระบวนท่าทั้งหลายมันจะใช้งานได้อย่างไรเล่า ดังนั้นแหล่งจ่ายไฟสำหรับ Lightsaber ควรอยู่ภายในด้ามดาบเลย ซึ่งคำถามคือควรเป็นอะไรละ

แน่นอนว่าความคิดแรก ๆ ของทุกคนคือ RTG (Radioisotope thermoelectric generator) ทำไมละเพราะมันง่ายแต่พลังงานที่ได้มันยังต่ำอยู่ 90% ของพลังงานที่มันปล่อยออกมาคือความร้อนอีกแทบไม่ถึง 10% คือพลังงานไฟฟ้า มันแทบไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่ได้รับเลยนอกจากทำให้ด้ามดาบร้อนอย่างไร้ประโยชน์ เมื่อนั้นความคิดสุดบรรเจิดจึงเกิดขึ้น ทำไมไม่ใช้แบตเตอรี่ละ แต่ไม่ใช่แบตเตอรี่ธรรมดาเหมือนถ่านไฟฉายตรากบ มันคือ Microbattery

เราเชื่อว่าเทคโนโลยีแบตเตอรี่ในอนาคตอีก 20 ปีข้างหน้าจะพัฒนามากพอจะสร้าง Microbattery ที่สามารถจ่ายไฟกำลังสูงได้และใช้งานได้นานเพียงพอกับความต้องการของเจไดและมนุษยชาติ

ร้อนแรงแค่นี้ทนได้มั้ย

พลาสม่าเป็นกลุ่มหมอกที่ร้อนจัด ร้อนพอๆกับพื้นผิวของดวงอาทิตย์เลยละ เมื่อร้อนขนาดนี้เรียกได้ลยว่าแทบไม่มีวัสดุใดบนโลกนี้จะทนความร้อนของ Lightsaber ได้เลยละ เมื่อจะสร้าง Lightsaber มาทั้งที แต่ด้ามดาบโดนความร้อนจนละลายใส่มือของคุณที่กำลังสู้กับหุ่นดรอยมันคงไม่ใช่ฉากต่อสู้ที่ดีเท่าไหร่นัก

ปัจจุบันวิทยาศาสตร์ของเราก้าวไกลไปอย่างมาก วัสดุศาสตร์ในปัจจุบันสามารถสร้างวัสดุที่สามารถทนความร้อนได้สูงมากกว่า 5,000 c นั้นคือเซรามิก

ทุกวันนี้เรานำเซรามิกมาใช้ในยานอวกาศมากขึ้นในสิ่งที่เรียกว่าฉนวนกันความร้อน เนื่องด้วยเซรามิกนั้นเป็นของแข็ง แข็งแรงมีความยืดหยุ่นมากกว่าคาร์บอนไฟเบอร์ที่ใช้ในกระสวยอวกาศพอตัวและมันเป็นฉนวนความร้อนและไฟฟ้าที่ดีมาก ๆ มันจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่มักใช้เป็นโล่กันความร้อน อย่างยาน Dragon ก็ใช้เซรามิกเป็น Heat Shield เพราะไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย ทนความร้อนได้ดีกว่าโลหะผสม เป็นการลงทุนระยะยาวที่ดี ถึงแม้สุดท้ายเราจะเปลี่ยนมันทุกครั้งที่จะนำมันขึ้นบินใหม่ก็ตาม

Image result for Heat Shield dragon

หรือจะเป็นโล่กันความร้อนที่ติดไปกับยาน MESSENGER ที่เดินทางไปเพื่อสำรวจดาวพุธ ซึ่งแน่นอนว่าดาวพุธนั้นเป็นดาวที่อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มาก ๆ จนความร้อนของมันอาจทำลายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกภายในยานให้พังเสียหายได้ โล่กันความร้อนจึงมีบทบาทที่สำคัญมากในภารกิจนี้

บทสรุป

แม้แนวโน้ในปัจจุบันต่าง ๆ จะทำให้เรายังไม่สามารถสรุปออกมาได้อย่างชัดเจนว่าเราสามารถสร้าง Lightsaber แบบในหนังขึ้นมาได้จริง ๆ แต่ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เจริญก้าวหน้าขึ้นทุกวันนี้จะไม่มีประโยชน์เลยหากมันถูกนำมาใช้เพื่อเข่นฆ่าเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง ทั้งเทคโนโลยี อำนาจและอาวุธเหล่านี้มาพร้อมกับความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ที่จะสามารถตัดสินการอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ในอนาคตได้ เพราะในจักรวาลแห่งความจริง ไม่มี Bright หรือ Dark Side มีแต่สิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ที่คิดเข้าข้างตัวเองและเชื่อว่าตัวเองนั้นถูกเสมอ

อ้างอิง

How close are we to building a real lightsaber – Independent

Building a real lightsaber – Space.com

How to build a real lightsaber – I fucking love science

Lightsaber – Star Wars wikipedia

Can you build a real lightsaber – Michio Kaku

Jirasin Aswakool | Researcher Assistant | นักวิจัยอยากผันตัวกลับมาทำงานสื่อสารวิทยาศาสตร์