ดาวเทียมสำรวจ Suomi NPP (Suomi National Polar-orbiting Partnership) ของ NOAA และ NASA ตรวจพบว่าลมในพื้นที่ไฟป่าของรัฐแคลิฟอร์เนียกำลังเริ่มเปลี่ยนทิศทางไปทางมหาสมุทรแปซิฟิกเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2020 และในวันที่ 10 กันยายน 2020 กลุ่มควันไฟก็ได้กระจายตัวไปกว่า 2,000 กิโลเมตรนอกชายฝั่งแคลิฟอร์เนียคลอบคลุมพื้นที่ไปเกือบ 2,500,000 ตารางกิโลเมตรแล้วอ้างอิงจากข้อมูลของ NASA Worldview และ NASA Earth Observing System Data and Information System (EOSDIS) ซึ่งเป็นฐานข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมขนาดใหญ่ของ NASA ซึ่งข้อมูลต่าง ๆ ที่มาจาก EOSDIS เป็นข้อมูลที่อัพเดตตลอดเวลาจึงทำให้นักวิทยาศาสตร์จำนวนมากสามารถติดตามภาพถ่ายดาวเทียมของเหตุการณ์ต่าง ๆ บนโลกได้
นอกจากนี้ Ozone Mapping Profiler Suite (OMPS) บนดาวเทียม Suomi NPP ยังตรวจพบการเคลื่อนที่ของ Particulate Matters หรือโมเลกุลขนาดเล็กในอากาศที่เราเรียกกันว่า P.M. รวมถึงแก๊สต่าง ๆ เช่น Carbon Dioxide และ Carbon Monoxide ซึ่งเป็นอันตรายต่อสภาพอากาศและสิ่งมีชีวิตเป็นอย่างมาก โดยบริเวณที่เกิดไฟป่านั้นมีความเข้มข้นของของฝุ่น P.M. ในระดับที่สูงมาก
จากงานวิจัยเผยแพร่ในวารสาร Nature Geoscience เมื่อปี 2017 พบว่า Particulate Matter และ Aerosols จากไฟป่าซึ่งเกิดจากการเผาไหม้วัตถุธรรมชาติอย่างเช่น ท่อนไม้ จะปลดปล่อยฝุ่นประเภท Aerosols และ P.M. มากกว่าการเผาไหม้ทั่วไปกว่า 3 เท่า นอกจากนี้ยังพบว่าไฟป่าทำให้ดกิด Byproducts จำพวก Methanol, Benzene, Ozone และอื่น ๆ อีกมากมายซึ่งล้วนเป็นแก๊สที่เป็นอันตรายต่อการหายใจถึงแม้จะในปริมาณน้อยก็ตาม แต่หากไฟป่าครั้งนี้ยังคงดำดนินต่อไป ผลกระทบระยะยาวจะเริ่มปรากฏโดยเฉพาะโรคทางเดินหายใจ
สามารถติดตามสถานการณ์ไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนียผ่านฐานข้อมูลของ NASA ได้ที่ Earth Observing System Data and Information System (EOSDIS) Worldview
เรียบเรียงโดย ทีมงาน SPACETH.CO
อ้างอิง