หลังจากเสร็จสิ้นการทดสอบยานในภารกิจ Crew Dragon Demo-2 ของ SpaceX ซึ่งเป็นการทดสอบขั้นสุดท้ายก่อนที่จะรับรองยาน Crew Dragon 2 ให้เป็น Human-rating โดยที่การรับรอง Human-rating หมายถึงยานที่ได้รับการรับรองนั้นมีความสามารถที่จะรับและขนส่งนักบินอวกาศไปสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้ได้อย่างปลอดภัยภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดไว้ หมายความว่า Human-rating มีหลายระดับตั้งแต่ Human-rating ระดับที่ส่งมนุษย์ขึ้นไปในวงโคจรได้ไปจนถึง Human-rating ระดับส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์อย่าง Apollo และจรวด Saturn-V แต่ Human-rating ที่ Crew Dragon กำลังจะได้รับ คือ NASA CCP Human-rating หรือการรับรองว่ายานสามารถขนส่งนักบินไปสถานีอวกาศนานาชาติได้นั่นเอง
โดยในภารกิจ Crew Dragon Demo-2 เป็นการส่งนักบินอวกาศสองคน คือ Douglas Hurley และ Robert Behnken ไป International Space Station เป็นเวลาประมาณ 2 เดือน จากนั้นจึงกลับโลก ซึ่ง NASA จะประกาศจบภารกิจ Crew Dragon Demo-2 ในวันที่ 2 สิงหาคม 2020 นี่ ถือเป็นการประกาศความสำเร็จของภารกิจ Demo-2 ซึ่งนั่นจะทำให้ยาน Crew Dragon-2 ได้กลับมาเป็น Launch system ของ NASA อีกครั้งหลังจากที่ไม่มี Launch system เป็นของตัวเองมานานกว่า 9 ปีแล้วตั้งแต่ปลดประจำการกระสวยอวกาศทุกลำไปในปี 2011 และต้องพึ่งยาน Soyuz ของรัสเซียแทน
ยาน Dragon Endeavour ได้มาถึงโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้วและกำลังจะถูกนำไปตรวจสอบและประเมินผลเพื่อเตรียมรับรองยาน Crew Dragon ให้เป็น Human-rating spacecraft ในโครงการ Commercial Crew Program ของ NASA หรือ NASA CCP โดยที่มาตรฐานของ Human-rating ของ NASA CCP กำหนดไว้ว่า
- ความน่าจะเป็นที่ยานจะเกิดความผิดพลาดระหว่างการบินต้องไม่สูงไปกว่า 1 ใน 500
- ความน่าจะเป็นที่จะเกิดความเสียหายจาก Micrometeorites และขยะอวกาศระหว่างที่อยู่ในวงโคจรในห่วงเวลา 210 วันจะต้องไม่เกิน 1 ใน 270
- ยานจะต้องสามารถทนความเร่งที่ 3 g ได้โดยไม่เกิดความเสียหาย
แต่ถึงแม้ว่า Crew Dragon จะได้ Human-rating certification จาก NASA นั่นก็ไม่ได้ความว่าหน่วยงานอวกาศจะต้องยึด Human-rating certification จาก NASA ไปด้วย อย่างเช่น Roscosmos ที่ก็มีมาตรฐาน Human-rating เป็นของตัวเองและ Crew Dragon ก็ยังไม่ได้รับการทดสอบมาตรฐาน Human-rating ของ Roscosmos
ภารกิจหลัง Crew Dragon ได้รับการรับรองให้เป็น Human-Rating
ภารกิจ Crew-1 เป็นภารกิจตามหลัง Demo-2 ซึ่งจะปล่อยหลังจากที่ Crew Dragon ได้รับการรับรองให้เป็น Human-rating โดยถูกวางแผนไว้ว่าจะปล่อยไม่เกินวันที่ 21 กันยายน 2020 ด้วยยาน Crew Dragon รหัส C207 ซึ่งเป็นยานอันใหม่ที่ SpaceX กำลังสร้างซึ่งจะทำหน้าที่ส่งลูกเรือชุด Expedition 64 ขึ้นไป ISS กับภารกิจ Crew-1 นับได้ว่าเป็นภารกิรแรกของ Commercial Crew Program อย่างเป็นทางการของ NASA และ SpaceX
ลูกเรือของ Expedition 64 ประกอบไปด้วยนักบินอเมริกันจำนวน 3 คน และนักบินสัญชาติญี่ปุ่นของ JAXA (องค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่น) จำนวน 1 คน เดิมทีลูกเรือของ Expedition 64 ที่จะไปกับภารกิจ Crew-1 จะเป็นนักบินอเมริกัน 2 คน รัสเซีย 1 คน และญี่ปุ่นอีก 1 คน แต่ Roscosmos (องค์การอวกาศสหพันธรัฐรัสเซีย) ยังไม่ทันได้รับรองให้ยาน Crew Dragon เป็น Human-rating spacecraft ซึ่งตาม Protocol แล้วจึงทำให้ Roscosmos ไม่สามารถส่งนักบินสัญชาติรัสเซียขึ้นไปกับเที่ยวบิน Crew-1 ได้ NASA จึงต้องส่งนักบินอวกาศของตัวเองอีกคนขึ้นไปแทน โดยลูกเรือของ Expedition 64 คือ
- Michael Hopskins, NASAตำแหน่งผู้บัญชาการภารกิจ
- Victor Glover, NASA ตำแหน่งนักบิน
- Shannon Walker, NASA ตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญภารกิจ
- Soichi Noguchi, JAXA ตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญภารกิจ
โดยมีนักบินสำรองเพียงแค่คนเดียวคือ Kjell N. Lindgren ตำแหน่งผู้บัญชาการภารกิจ
Michael Scott Hopkins ผู้บัญชาการภารกิจ Crew-1 ในอดีตเคยเป็นลูกเรือของภารกิจ Expedition 37/38 ไปกับภารกิจ Soyuz TMA-10M ในวันที่ 25 กันยายน 2013 ร่วมกับนักบินอวกาศรัสเซียอีกสองคน สู่สถานีอวกาศนานาชาติเพื่อไปแทนที่ Expedition 37 และกลับโลกในวันที่ 10 มีนาคม 2014 รวมระยะเวลาอยู่ในอวกาศ 166 วัน Crew-1 จะเป็นภารกิจที่สองของเขา
Victor J. Glover นักบินอวกาศสัญชาติอเมริกันสังกัด NASA ตำแหน่งนักบินภารกิจ Crew -1 ในอดีตเป็นนักบินเครื่องบินรบ F/A-18 ถูกมอบหมายให้เป็นนักบินของภารกิจ CCP ภารกิจแรก (USCV-1) ซึ่งก็คือ Crew-1 ในเดือนสิงหาคม 2018 Crew-1 นับเป็นเที่ยวบินสู่อวกาศเที่ยวบินแรกของเขา
Shannon Walker นักบินอวกาศสัญชาติอเมริกันสังกัด NASA ตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญประจำภารกิจ ในอดีตเป็นลูกเรือของ Expedition 24/25 ซึ่งเดินทางไป ISS กับยาน Soyuz TMA-19 เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2010 ไปกับนักบินอวกาศ NASA และ Roscosmos อีก 1 คน และกลับโลกในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2010 รวมเวลาที่อยู่ในอวกาศทั้งหมด 163 วัน Crew-1 จะเป็นภารกิจที่สองของเขา
Soichi Noguchi นักบินอวกาศสัญชาติญี่ปุ่นสังกัด JAXA ตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญประจำภารกิจ สัญชาติญี่ปุ่นสังกัด JAXA ในอดีตเคยเป็นลูกเรือของภารกิจกระสวยอวกาศ STS-114 ในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญภารกิจซึ่งเดินทางไป ISS กับกระสวยอวกาศ Atlantis ในปี 2013 เพื่อไปสมทบลูกเรือ Expedition 7 ที่กำลังจะแทนที่ลูกเรือ Expedition 6 โดยเขาเดินทางกลับโลกในอีก 13 วันต่อมา นอกจากนี้เขายังเป็นลูกเรือของ Expedition 22/23 ซึ่งเดินทางไป ISS กับยาน Soyuz TMA-17 ทำให้เขาเป็นนักบิน JAXA คนแรกและนักบินสัญชาติญี่ปุ่นคนแรกที่ได้เดินทางกับยาน Soyuz โดยเขาอยู่ในอวกาศเป็นเวลา 163 วันกับลูกเรือ Expedition 22/23 และเดินทางกลับโลกในวันที่ 1 มิถุนายน 2010 ภารกิจ Crew-1 จะเป็นภารกิจที่ 3 ของเขา
Crew-1 จะเป็นเที่ยวบินแรกของ Commercial Crew Program อย่างเป็นทางการโดยก่อนหน้านี้ NASA ได้ประกาศว่าจะปล่อยเที่ยวบินแรกของ CCP ชื่อว่า USCV-1 ในปี 2016 แต่ก็เลื่อนมาเรื่อย ๆ จนถึงปี 2020 ที่ประกาศให้ Crew-1 เป็นภารกิจแรกอย่างเป็นทางการของ CCP
Crew-2 Mission
Crew-2 เป็นภารกิจที่สองของโครงการ Commercial Crew Program สู่ International Space Station โดยเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2020 ใน Press Release ที่ 20-076 NASA ได้ประกาศนักบินที่จะเดินทางไปกับเที่ยวบิน Crew-2 ทั้งหมด 4 คน คือ
- Shane Kimbrough, NASA ตำแหน่งนักบินและผู้บัญชาการภารกิจ
- Megan McArthur, NASA ตำแหน่งนักบิน
- Akihiko Hoshide, JAXA ตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญภารกิจ
- Thomas Pesquet, ESA ตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญภารกิจ
โดยมีนักบินสำรองเพียงคนเดียว คือ Matthias Maurer, ESA สัญชาติเยอรมัน ตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญภารกิจ
Crew-2 กำหนดการปล่อยคือฤดูใบไม้ผลิปี 2021 ซึ่งเป็นภารกิจหลังภารกิจ Crew-1 โดยลูกเรือของ Crew-2 จะอยู่ในอวกาศเป็นเวลา 6 เดือนในฐานะลูกเรือ Expedition โดยจะมีลูกเรืออีก 3 คนจากยาน Soyuz มาสมทบ ซึ่งจะทำให้จำนวนลูกเรือบน ISS เป็น 7 คนเต็มขีดจำกัดของสถานีพอดี
Shane Kimbrough นักบินอวกาศสัญชาติอเมริกันสังกัด NASA ในอดีตเคยเป็นลูกเรือของภารกิจ STS-126 สู่ ISS กับกระสวยอวกาศ Endeavour ในปี 2008 และเป็นลูกเรือของ Expedition 49/50 ในปี 2016 สู่ ISS อีกครั้งกับยาน Soyuz ของรัสเซีย รวมเวลาที่อยู่ในอวกาศทั้งหมด 189 วัน และ EVA อีกกว่า 6 ครั้ง
Megan McArthur นักบินอวกาศสัญชาติอเมริกันสังกัด NASA ในอดีตเคยเป็นลูกเรือของภารกิจ STS-125 กับกระสวยอวกาศ Atlantis ในภารกิจซ่อมบำรุง Hubble Space Telescope ครั้งสุดท้ายในปี 2009 รวมเวลาที่อยู่ในอวกาศทั้งสิ้น 12 วัน ภารกิจ Crew-2 จะเป็นภารกิจแรกสู่ ISS ของเธอ
Akihiko Hoshide นักบินอวกาศสัญชาติญี่ปุ่นสังกัด JAXA ในอดีตเคยเป็นลูกเรือของ STS-124 บนกระสวยอวกาศ Discovery ในปี 2008 และยังเคยเป็นลูกเรือของภารกิจ Expeditions 32/33 กับยาน Soyuz ด้วยในปี 2012 นอกจากนี้ Hoshide ยังเคยเป็นคนบังคับแขนกลเพื่อเชื่อมต่อ Cargo Dragon CRS-1 ลำแรกของ SpaceX เข้ากับ ISS อีกด้วย รวมระยะเวลาที่อยู่ในอวกาศทั้งสิ้น 140 วัน ภารกิจ Crew-2 จะเป็นภารกิจที่ 3 ของเขา
Thomas Pesquet นักบินอวกาศสัญชาติฝรั่งเศสสังกัด ESA ในอดีตเคยเป็นลูกเรือของ Expedition 50/51 เดินทางสู่ ISS ด้วยยาน Soyuz MS-03 ในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2016 นอกจากนี้ Pesquet ยังเคยทำ EVA กับ Shane Kimbrough ผู้บัญชาการของภารกิจ Crew-2 ระหว่างที่เขาและ KImbrough อยู่บน ISS อีกด้วย (Pesquet เป็นลูกเรือ Expedition 50/51 ส่วน Kimbrough เป็นลูกเรือ Expedition 49/50 เลยเจอกันพอดี) ในวันที่ 2 มิถุนายน 2017 Thomas Pesquet ก็ได้เดินทางกลับโลก รวมระยะเวลาในอวกาศทั้งหมด 196 วัน ภารกิจ Crew-2 จะเป็นภารกิจที่ 2 ของเขา
สุดท้ายนี้ Crew-2 ใช้ยาน Crew Dragon Endeavour รหัส C206 ซึ่งเป็นยานลำเดียวกับที่ใช้ในภารกิจ Demo-2 จึงจะทำให้ภารกิจ Crew-2 เป็นภารกิจแรกที่เอายานมาใช้ขนส่งมนุษย์ใหม่นั่นเอง
แถม: ESA เรียกภารกิจ Crew-2 ว่า Alpha Centauri ซึ่งเป็นธรรมเนียมของฝรั่งเศสที่จะเรียกภารกิจอวกาศตามชื่อกลุ่มดาวหรือดาวฤกษ์ ก่อนหน้านี้ภารกิจ Expedition 49/50 ESA ก็เรียกว่า Proxima Centauri
เรียบเรียงโดย ทีมงาน SPACETH.CO
อ้างอิง
NASA Announces Astronauts to Fly on SpaceX Crew-2 Mission to Space Station