นักดาราศาสตร์ใช้หอสังเกตการณ์ European Southern Observatory’s Paranal Observatory เพื่อที่จะตรวจสอบดาวเคราะห์นอกระบบที่อยู่ในบริเวณที่นักดาราศาสตร์เรียกว่า Neptunian Desert
มันเป็นการค้นพบดาวเคราะห์นอกระบบที่นักดาราศาสตร์เองก็ไม่คิดว่าจะไปเจอมันตรงบริเวณนั้น มันเป็นบริเวณที่นักดาราศาสตร์คิดว่าจะไม่มีดาวเคราะห์ที่มีขนาดประมาณดาวเนปจูนที่สามารถโคจรรอบดาวฤกษ์ของพวกมันภายในเวลาน้อยกว่าสี่วัน ดาวเคราะห์ที่เพิ่งค้นพบใหม่นี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า NGTS-4b และมีชื่อเล่นว่า “The Forbidden Planet”
Neptunian Desert คืออะไร
พูดง่าย ๆ คือมันเป็นชื่อเรียกโซนอันตรายของดาวเคราะห์นอกระบบ สำหรับนักวิทยาศาสตร์และนักดาราศาสตร์ มันเป็นโซนบริเวณที่ใกล้กับดาวฤกษ์มาก และในบริเวณนี้จะได้รับผลกระทบจากการแผ่รังสีของดาวฤกษ์ใจกลางอย่างรุนแรง ทำให้ดาวเคราะห์ที่อยู่บริเวณนั้นไม่สามารถคงสภาพชั้นบรรยากาศของตัวเองไว้ได้ และอาจจะทำให้ตัวมันเองแตกสลายหรือกลายเป็นดาวเคราะห์ที่ตายไปแล้วได้
และในโซนนี้นักดาราศาสตร์ยังเชื่อว่าจะไม่สามารถพบดาวเคราะห์ที่มีขนาดใหญ่มากกว่าดาวเนปจูนได้
ทำความรู้จักกับ Forbidden
จากการร่วมมือของนักดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Warwick ที่นำโดย Dr. Richard West ทีมงานผู้เชี่ยวชาญคุณ Peter Wheatley คุณศาสตราจารย์ Dr. Danial Bayliss และ Dr. James McCormac จากมหาวิทยาลัย Warwich ได้ยืนยันการมีอยู่ของดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง ชื่อของมันคือ The Forbidden Planet
คุณ Richard West นักดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Warwich ในสหรัฐฯ กล่าวว่าดาวเคราะห์ดวงนี้จะต้องมีความทนทานเป็นอย่างมาก เพราะมันอยู่ในโซนที่เราคาดว่าดาวเคราะห์ขนาดเท่าเนปจูนไม่สามารถอยู่รอดได้ มันน่าทึ่งอย่างมากที่เราพบดาวเคราะห์ที่กำลังโคจรผ่านดาวฤกษ์ที่มีแสงน้อยกว่า 0.2% ซึ่งไม่เคยมีการค้นพบแบบนี้มาก่อน เพราะปกติที่เราทำการค้นพบมาจะมีค่าแสงมากกว่า 1% เสมอ และเรายังใช้แค่กล้องโทรทรรศน์บนพื้นดิน NGTS ซึ่งใช้ระยะเวลาบันทึกภาพทั้งหมด 272 คืน นับตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม 2016 ถึง 5 พฤษภาคม 2017 และยังมีกล้องเล็ก ๆ อีก 12 ตัวที่ใช้ในการสังเกตการณ์
ดาวเคราะห์ดวงนี้โคจรรอบดาวฤกษ์ที่ชื่อว่า NGTS-4 มีระยะห่างประมาณ 920 ปีแสงจากโลก ดาวเคราะห์ดวงนี้ใช้เวลาในการโคจรรอบดาวฤกษ์ของมันเพียง 1.3 วันบนโลกเท่านั้น มันมีมวลมากกว่าโลกถึง 20 เท่าและมีรัศมีมากกว่าโลก 3 เท่า และที่น่าประหลาดใจไปกว่านั้นคือ มันยังคงสามารถรักษาชั้นบรรยากาศของมันไว้ได้อย่างดีทั้งที่มันอยู่ใกล้กับดาวฤกษ์ของมันขนาดนั้น
นักวิจัยยังเชื่อว่าดาวเคราะห์ดวงนี้อาจจะก่อตัวขึ้นในเขตบริเวณอื่นและถูกดึงเข้ามาในโซนของดาวฤกษ์ดวงนี้ภายในระยะเวลานับล้านปีที่ผ่านมา ซึ่งตอนแรกมันอาจจะเกิดมาด้วยขนาดที่ใหญ่กว่านี้และตอนนี้มันก็กำลังสูญเสียองค์ประกอบ สูญเสียชั้นบรรยากาศไปทีละเล็กทีละน้อยจากความร้อนและรังสีของดาวฤกษ์ของมันเอง
ดาวเคราะห์ดวงนี้ถูกค้นพบครั้งแรกในข้อมูลที่รวบรวมโดย the Next-Generation Transit Survey telescope ที่ตั้งอยู่ในภูเขาของทะเลทรายอาตากามา ในประเทศชิลี และทีมนักวิจัยใช้กล้องโทรทรรศน์ในช่วงรังสีอื่น ๆ เพื่อทำการสังเกตการณ์และติดตามมานาน ซึ่งทำให้พวกเขามีความมั่นใจมากขึ้นในการตรวจจับและตรวจสอบคุณสมบัติของ NGTS-4b
และพวกเขาหวังที่จะสร้างงานวิจัยใหม่เพื่อค้นหา “Forbidden Planet” ใหม่ ๆ และตอนนี้พวกเขากำลังรวบรวมข้อมูลและทำการสังเกตการณ์เพิ่มเติมเพื่อดูว่าเราจะสามารถเห็นดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ ในบริเวณที่เรียกว่า Neptunian Desert ได้อีกหรือไม่ ซึ่งบางทีเราเราอาจจะได้เห็นและค้นพบดาวเคราะห์ Forbidden Planet ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นอีกมากมาย
อ้างอิง
NGTS-4b: A sub-Neptune transiting in the desert
The ‘Forbidden’ planet has been found in the ‘Neptunian Desert’