1 เมษายน 2025 อีกหนึ่งภารกิจการสำรวจอวกาศเอกชนกำลังจะเริ่มต้นขึ้น นั้นก็คือภารกิจ Fram2 โดยมีกำหนดปล่อยตัวจากฐานปล่อย LC-39A ที่ NASA Kennedy Space Center ในฟลอริดา ภารกิจนี้มีเป้าหมายที่จะท้าทายขีดจำกัดของการสำรวจอวกาศ และเปิดเส้นทางใหม่สำหรับการสำรวจขั้วโลกจากอวกาศนั่นก็คือวงโคจรบินตัดขั้วโลกหรือ Polar Orbit เป็นครั้งแรก
ย้อนกลับไปในวันที่ 13 สิงหาคม 2024 SpaceX ได้ประกาศเตรียมทำภารกิจ Fram2 ซึ่งจะเป็นเที่ยวบินอวกาศเชิงพาณิชย์ที่นำมนุษย์ไปสู่วงโคจรขั้วโลกภารกิจแรก และได้เปิด เว็บไซต์ของภารกิจ ที่มีรายชื่อและวัตถุประสงค์ของภารกิจในครั้งนี้
เหตุการณ์ในตอนนั้นก็ทำให้คนในวงการอวกาศได้รู้จักกับชื่อของ Chun Wang มหาเศรษฐี Crypto ที่ใช้สัญชาติมอลตา ที่เป็นผู้จ่ายเงินและออกแบบภารกิจนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ SpaceX ได้สร้างประวัติศาสตร์ในการทำภารกิจเชิงพาณิชย์พลเรือนล้วนครั้งแรกในภารกิจ Inspiration4 และการทำ EVA หรือออกไปนอกยานอวกาศครั้งแรกในภารกิจ Polaris Dawn ซึ่งในรอบนี้ จะถือว่าเป็นอีกหนึ่งภารกิจที่มีความท้าทายและต้องเตรียมตัวเยอะพอสมควร

โครงการนี้เดิมทีถูกกำหนดไว้เป็นช่วงก่อนสิ้นปี 2024 แต่ภายหลังมีการเลื่อนออมาเป็นช่วงเมษายน 2025 และแน่นอนว่า ณ ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าภารกิจนี้นั้นถูกขายในมูลค่าเท่าไหร่ แต่หากอ้างอิงจากตัวเลขในภารกิจ Inspiration4 นั้นเที่ยวบินส่วนตัวกับยาน Dragon มีมูลค่าประมาณ 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 6,700 ล้านบาท
ภารกิจการสำรวจขั้วโลกครั้งแรกจากอวกาศโดยมนุษย์
Fram2 เป็นภารกิจอวกาศเชิงพาณิชย์ที่ดำเนินการโดย SpaceX ใช้ยาน Crew Dragon และจรวด Falcon 9 โดยภารกิจนี้นำทีมลูกเรือ 4 คนที่ประกอบไปด้วยพลเรือนทั้งหมด ซึ่งได้รับการคัดเลือกโดย Chun Wang ผู้นำภารกิจและผู้สนับสนุนด้านการเงินหลักของโครงการ
ลูกเรือประกอบด้วย Chun Wang สัญชาติมอลตา เป็นผู้บัญชาการภารกิจ ผู้ให้ทุนสนับสนุน และผู้นำการปฏิบัติการภาพรวม ต่อมาคือ Jannicke Mikkelsen สัญชาตินอร์เวย์ เป็น ผู้บัญชาการยาน มีประสบการณ์ด้านการถ่ายทำภาพยนตร์ในสภาวะสุดขั้ว เช่น บริเวณอาร์กติก
นอกจากนี้ยังมี Eric Philips สัญชาติออสเตรเลีย รับตำแหน่งเป็นผู้เชี่ยวชาญภารกิจ นักสำรวจขั้วโลกที่มีประสบการณ์นำทางในพื้นที่รุนแรง และสุดท้าย Rabea Rogge สัญชาติเยอรมนี รับตำแหน่งเป็นผู้เชี่ยวชาญภารกิจอีกคน เขาเป็นนักบิน วิศวกรหุ่นยนต์ และนักผจญภัยที่มีประสบการณ์ด้านการควบคุมการบิน

สำหรับบุคคลที่น่าสนใจมาก ๆ ในภารกิจนี้ก็คงหนีไม่พ้น Chun Wang บุคคลที่เราไม่มีประวัติของเขามากนัก แต่รู้ว่า Chun Wang เกิดที่เทียนจิน ประเทศจีน เป็นนักธุรกิจด้าน Ctypto Currency ที่มีบทบาทสำคัญในวงการ Blockchain เขาเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง F2Pool หนึ่งในกลุ่มขุด Bitcoin ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และ Stakefish ซึ่งเป็นผู้ให้บริการตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรม Ethereum เขาเริ่มต้นเส้นทางในวงการ Blockchain แต่ปี 2011

หลังจากย้ายมาอยู่ที่ประเทศในไทยในปี 2015 และเกาหลีใต้ในเวลาต่อมา Wang ได้ Citizenship ของของมอลตาและ Saint Kitts and Nevis ในปี 2023 ผ่านการลงทุน โดยปัจจุบันเขาอยู่ที่ Svalbard ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมสุดขั้วที่สุดในโลก ความสนใจด้านอวกาศของเขาเริ่มขึ้นจากภารกิจ Inspiration4 ในปี 2021 และทำให้เขาตัดสินใจเป็นนักบินอวกาศเอกชนรายแรกที่มีพื้นเพจากวงการ Crypto
จากโพสต์ของ Wang นั้นพบว่าเขาเดินทางเข้าออกประเทศไทยบ่อยครั้ง แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ที่ประเทศไทยเป็นหลัก ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เขาเพิ่งโพสต์ว่าได้ เดินทางออกจากประเทศไทย ไปยังสหรัฐอารับเอมริเรตส์
เราจะเห็นว่าทุกคนนั้นมีความสนใจในการผจญภัยและอินกับเรื่องราวเกี่ยวกับขั้วโลกอย่างมาก โดยเฉพาะการตั้งชื่อภารกิจ Fram2 นั้นก็ตั้งมาจากชื่อเรือ Fram ที่ใช้ในการสำรวจอาร์ติกและแอนตาร์กติกาในช่วงปี 1893-1912 ในหลากหลายการเดินทาง ซึ่งก็เหมือนกับภารกิจ Fram2 ที่จะเป็นการเดินทางไปยังทั้งขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ แต่เป็นจากบนอวกาศนั่นเอง
ทำไมการสำรวจอวกาศโดยมนุษย์ไม่ใช้วงโคจรขั้วโลก
แม้วงโคจรแบบ Polar Orbit นั้นจะเป็นที่นิยมสำหรับภารกิจตระกูลสำรวจโลก เนื่องจากมันทำให้ดาวเทียมหรือยานอวกาศสามารถบินผ่านทุกจุดบนโลกได้ และยังออกแบบวงโคจรให้สัมพันธ์กับดวงอาทิตย์ หรือ Sun-Synchronosus Orbit ที่ช่วยให้ตัวยานได้เจอกับแสงอาทิตย์อยู่ตลอดเวลา แต่ที่ผ่านมา ไม่มีภารกิจอวกาศที่มีมนุษย์บนยานที่เข้าสู่วงโคจรขั้วโลกแบบตัดขั้วโลกจริง ๆ เลย แม้ว่าภารกิจ Vostok 6 ของสหภาพโซเวียตในปี 1963 จะมีความชันวงโคจร หรือ Inclination สูงถึง 65 องศา แต่ก็ยังไม่ใช่วงโคจรขั้วโลกเต็มรูปแบบ สาเหตุที่ไม่มีภารกิจดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนหน้านี้มีหลายปัจจัย
อย่างแรกก็คือ การปล่อยจรวดสู่วงโคจรขั้วโลกต้องใช้พลังงานมากกว่า เพราะไม่ได้ใช้ประโยชน์จากการหมุนของโลกช่วย ศูนย์กลางอวกาศหลักของสหรัฐฯ เช่น NASA Kennedy Space Center ตั้งอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร ซึ่งไม่เหมาะสำหรับการปล่อยเข้าสู่วงโคจรขั้วโลก ส่วนรัสเซียนั้น แม้จะมีฐานปล่อยอยู่ในละติจูดที่สูง ที่ทำให้การปล่อยสู่วงโคจรขั้วโลกง่ายขึ้นมาบ้าง แต่เนื่องจากการออกแบบภารกิจที่ทำให้เป็นการใช้วงโคจรที่มี Inclination สูงแต่ไม่ถึง 90 องศาแทน

สถานีอวกาศนานาชาติโคจรอยู่ที่ความชันวงโคจร 51.6 องศา การออกแบบแบบนี้ช่วยให้สถานีฯ โคจรผ่านฐานปล่อยสำคัญ ๆ ของโลก โดยเป็นการหาจุดร่วมระหว่างวงโคจรที่ส่งยานไปง่าย กับวงโคจรที่สมเหตุสมผลในการใช้งานจริง วงโคจรขั้วโลกต้องผ่านพื้นที่ที่มีประชากรสูง ก็คือผ่านทุกจุดบนโลกบ่อย ๆ ทำให้มีความเสี่ยงต่อเหตุฉุกเฉินและขยะอวกาศ ภารกิจ Fram2 ถือเป็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ที่ช่วยให้การบินสู่วงโคจรขั้วโลกเป็นไปได้จริง
การเตรียมตัว ภารกิจสำรวจขั้วโลก
วงโคจรขั้วโลกเป็นเส้นทางสำคัญสำหรับดาวเทียมที่ต้องการสำรวจโลกแบบครอบคลุมทั้งใบ ไม่ว่าจะเป็นการเฝ้าสังเกตสภาพอากาศ การศึกษาสภาพแวดล้อม หรือการสอดแนมทางทหาร สำหรับการบินอวกาศของมนุษย์ Fram2 จะให้มุมมองใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยเฉพาะบริเวณขั้วโลกที่นักบินอวกาศบนสถานีอวกาศฯ ไม่สามารถมองเห็นได้
Jannicke Mikkelsen บอกว่า “ขั้วโลกเป็นพื้นที่ที่ไม่สามารถมองเห็นได้จากสถานีอวกาศนานาชาติ นี่คือโอกาสสำคัญในการเปิดประตูสู่การสำรวจและค้นพบทางวิทยาศาสตร์ใหม่ ๆ” Fram2 มีเป้าหมายหลัก ได้แก่การ ศึกษาสภาพแวดล้อมของขั้วโลกจากอวกาศ ทดลองด้านสุขภาพของมนุษย์ เช่น การสร้างภาพเอ็กซ์เรย์ในสภาวะไร้น้ำหนัก และการศึกษาปรากฎการณ์ที่เรียกว่า STEVE
ปรากฏารณ์ STEVE หรือ Strong Thermal Emission Velocity Enhancement เป็นปรากฏการณ์ทางแสงในชั้นบรรยากาศโลกที่มีลักษณะคล้ายแสงออโรรา แต่มีคุณสมบัติแตกต่างออกไป STEVE ปรากฏเป็นแถบแสงสีม่วงอมชมพูที่ทอดยาวไปตามแนวเหนือ-ใต้ บางครั้งมีแถบสีเขียวเป็นลายเส้นขนานอยู่ด้านข้าง ปรากฏการณ์นี้มักเกิดขึ้นที่ละติจูดต่ำกว่าที่แสงออโรรามักเกิดขึ้น นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า STEVE เกิดจากการเร่งตัวของอนุภาคในชั้นไอโอโนสเฟียร์ ส่งผลให้เกิดการเรืองแสงเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและความเร็วของอนุภาคในพลาสมาสนามแม่เหล็กโลก

เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2025 ที่ผ่านมา ลูกเรือได้เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการฝึกที่สำนักงานใหญ่ของ SpaceX ในแคลิฟอร์เนีย ซึ่งได้แก่ การฝึกจำลองการทำงานของยานอวกาศ และสถานการณ์ฉุกเฉิน (ลูกเรือยังต้องเดินทางไปร่วมการฝึกในสภาพแวดล้อมสุดขั้วที่อลาสกาด้วย) การเตรียมด้านวิทยาศาสตร์ เช่น การสังเกตโลกจากอวกาศ โดยใช้กล้องและอุปกรณ์ที่ติดตั้งเพิ่มในส่วน Cupola ของยาน Dragon
Chun Wang ได้ออกมา โพสต์เพิ่มเติมบอกว่า ในยาน Dragon นั้นยังได้รับการติดตั้งช่องจ่ายไฟ USB เพิ่มเติม และจะมีการนำเอา Power Bank ขนาดรวมกันมากกว่า 1 kWh เพื่อไปใช้เป็นพลังงานให้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้แก่ iPad mini 4 เครื่อง iPhone 2 เครื่อง และคอมพิวเตอร์อีก 3 เครื่อง รวมถึงอุปกรณ์ทดลองต่าง ๆ ซึ่งทุกคนก็จะต้องได้รับการฝึกรับมือด้านความปลอดภัยเพิ่มเติมด้วย

Fram2 จะเดินทางขึ้นสู่อวกาศด้วยจรวด Falcon 9 และยาน Crew Dragon หมายเลข 207 หรือ “Resilience” ที่ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะกับภารกิจโดยมีการเพิ่มโมดูล Cupola แบบเดียวกับที่ใช้ในภารกิจ Inspiration4 เพื่อให้มุมมองกว้างขึ้นสำหรับการถ่ายภาพและการศึกษาภูมิศาสตร์ของโลก ซึ่งยานลำเดียวกันนี้เคยถูกใช้ในภารกิจ Crew-1, Inspiration4 และ Polaris Dawn
วงโคจรของภารกิจนี้อยู่ที่ 90 เอียงจากเส้นศูนย์สูตร และโคจรที่ระดับความสูง 425–450 กิโลเมตรเหนือพื้นโลก (สูงกว่าวงโคจรของสถานีอวกาศนานาชาติเล็กน้อย) ในหนึ่งรอบการโคจรจะใช้เวลา 93 นาที ภารกิจนี้ได้รับการออกแบบมาให้เดินทางใกล้กับในช่วง Equinox ซึ่งเป็นช่วงที่กลางวันและกลางคืนเท่ากัน และเป็นช่วงที่เกิดงออโรราเยอะ

เบื้องต้นนั้น ณ ช่วงเวลาประมาณ 10 วันก่อนการปล่อย ในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของโครงการได้บอกว่าระยะเวลาของภารกิจจะกินเวลาประมาณ 3-5 วัน ซึ่งตัวเลขนี้ต้องรอการยืนยันอีกทีว่าจะเป็นกี่วันกันแน่ สามารถติดตามอัพเดทล่าสุดเกี่ยวกับภารกิจได้ทางบัญชี X ของ Fram2 และหลังจากภารกิจเสร็จสิ้นพวกเขาจะกลับมาลงจอด นอกชายฝั่งแปซิฟิกของสหรัฐฯ
ภารกิจ Fram2 นั้นนับว่าเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่และผลักดันความเป็นไปได้ ซึ่งจริง ๆ ก็แอบน่าคิดว่ามนุษย์เริ่มต้นสำรวจอวกาศมาตั้งแต่ยุค 60 แต่ผ่านมากว่า 60 ปี กลับไม่เคยมีมนุษย์คนใดโคจรผ่านขั้วโลกเหนือเลย ซึ่งก็น่าตื่นเต้นที่ในยุคการสำรวจอวกาศเอกชน เราจะได้เห็นภารกิจในแนว ๆ นี้เกิดขึ้นอีกเยอะมากในอนาคต
เรียบเรียงโดย ทีมงาน Spaceth.co