Biomass เผยข้อมูลชุดแรกของผืนป่าทั่วโลก จากอเมซอน แอฟริกา อินโดนีเซีย จนถึงแอนตาร์กติกา

29 เมษายน 2025 ดาวเทียม Biomass ถูกปล่อยขึ้นสู่วงโคจรจากฐานปล่อยในเฟรนช์เกียนา โดยมีเป้าหมายที่ทะเยอทะยานที่สุดภายใต้โปรแกรม Earth Explorer ของ ESA คือการวัดปริมาณชีวมวลจากบนอวกาศให้แม่นยำในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพื่อไขปริศนาว่า “โลกเก็บคาร์บอนไว้ที่ไหน” และ “ป่าทำหน้าที่อะไรในสมดุลภูมิอากาศของโลก” ซึ่งเราเคยสรุปในบทความ รู้จักกับ Biomass ดาวเทียมตรวจวัดความหนาแน่นของผืนป่า ดวงใหม่ของ ESA

สองเดือนให้หลัง ในช่วงที่ดาวเทียมยังอยู่ระหว่างกระบวนการ Commissioning หรือการปรับจูนระบบต่าง ๆ ESA ก็ปล่อยภาพชุดแรกออกมาในงาน Living Planet Symposium และได้ถูกนำมาลงในรายงาน Biomass satellite returns striking first images of forests and more

Décollage champ large, le 29/04/2025. | Wide view lift-off. 04/29/2025.

จุดเด่นที่สุดของ Biomass คือ P-Band Synthetic Aperture Radar หรือ SAR ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการใช้เรดาร์ย่านคลื่นนี้ในดาวเทียมวงโคจรโลก P-Band มีความยาวคลื่นประมาณ 70 เซนติเมตร ยาวกว่าระบบเรดาร์ที่ใช้ใน Sentinel-1 หรือดาวเทียมสำรวจโลกอื่น ๆ มาก และยิ่งคลื่นยาวเท่าไร ความสามารถในการทะลุทะลวงก็ยิ่งสูง เรดาร์นี้สามารถทะลุผ่านใบไม้ กิ่งไม้ และแม้แต่เรือนยอดป่าฝนเขตร้อนหนาแน่น ลงไปถึงโครงสร้างของต้นไม้ เช่น ลำต้นและกิ่งหลัก ทำให้สามารถวัด “Woody Biomass” ซึ่งเป็นตัวแทนโดยตรงของปริมาณคาร์บอนที่สะสมอยู่ในพืชพรรณไม้บนพื้นโลก

เปิดภาพป่าฝนในประเทศโบลิเวียและแอมะซอน ปอดของโลก

ภาพแรกที่เปิดเผยออกมานั้นคือภาพที่แสดงพื้นที่ป่าฝนในประเทศโบลิเวียในอเมริกาใต้ แม้ภาพที่เปิดตัวจะยังไม่ได้รับการปรับเทียบเต็มที่ แต่รายละเอียดที่แสดงออกมาก็ชวนให้ตื่นเต้นอย่างที่สุด สิ่งที่ ESA แสดงให้เห็นก็คือ Biomass ไม่ได้แค่ “มองเห็น” พื้นที่ป่า แต่มันกำลัง ถอดรหัสสิ่งที่อยู่ใต้ป่า ทั้งชั้นดิน Floodplain โครงสร้างแม่น้ำ ไปจนถึงพื้นที่ภูเขาไฟ รวมพื้นที่กว้าง 60 กิโลเมตรและยาว 90 กิโลเมตร

ภาพแสดงผืนป่าในประเทศโบลิเวีย แต่ละสีแสดงข้อมูลที่เก็บได้แตกต่างกันว่าเป็นพื้นที่ลักษณะใด ที่มา – ESA

ภาพจากเรดาร์ Biomass แสดงสีสันที่สร้างจาก Polarisation Channels ต่างกัน ได้แก่ สีเขียวแสดงป่าฝน สีแดงแสดงพื้นที่ป่าชายน้ำ, สีม่วงน้ำเงิน แสดงทุ่งหญ้า และสีดำแสดงแม่น้ำและทะเลสาบ ในภาพเดียวกันนี้ มองเห็น “แม่น้ำ Beni” ที่ไหลจากเทือกเขา Andes สู่ลุ่มน้ำ Amazon ได้อย่างคมชัด แสดงให้เห็นว่าระบบเรดาร์ของ Biomass ตรวจจับโครงสร้างลำน้ำที่ปกคลุมด้วยเรือนยอดไม้ได้แม่นยำเพียงใด

ภาพถ่ายในบริเวณเดียวกันในย่านแสงที่มองเห็นได้ (บน) กับข้อมูลจากดาวเทียม Biomass ที่มา – ESA

ภาพที่สองเปรียบเทียบพื้นที่เดียวกันในโบลิเวีย ด้านบนเป็นดาวเทียม Sentinel-2 ที่ใช้ Optical Sensor จับภาพด้วยแสงที่มนุษย์มองเห็น ส่วนด้านล่างคือภาพจากเรดาร์ P-band ของ Biomass ความแตกต่างที่สำคัญคือ Sentinel-2 แสดงแค่ผิวของเรือนยอด แต่ Biomass มองลงลึกถึงโครงสร้างของป่า โดยเฉพาะใน Floodplain ที่ Optical Sensor มักไม่สามารถแยกแยะได้เพราะ Canopy หรือเรือนยอดหนาและอาจมีเมฆบัง แต่เรดาร์ของ Biomass ไม่เพียงแค่ทะลุผ่านได้ แต่ยังให้ข้อมูลที่มีความหมายต่อการวัดปริมาณคาร์บอนอีกด้วย

ผืนป่าแอมะซอนที่ถูกส่องทะลุโดย P-band ของ Biomass เผยให้เห็นรายละเอียดที่ชัดเจน (ภาพนี้ถูกหมุนเพื่อให้ถูกแสดงผลในแนวนอน) ที่มา – ESA

ภาพที่สามแสดงพื้นที่ทางตอนเหนือของบราซิล ซึ่งยังคงเป็นส่วนหนึ่งของแอมะซอน แต่มีภูมิประเทศที่ซับซ้อนมากขึ้น โทนสีชมพูและแดงที่ปรากฏทางตอนล่างของภาพบ่งบอกถึงพื้นที่ Wetlands และ Floodplains ที่ถูกน้ำท่วมเป็นช่วง ๆ ตลอดปี ในขณะที่พื้นที่สีเขียวเข้มทางตอนเหนือเป็นป่าทึบบนเนินเขาและภูมิประเทศที่ขรุขระมากขึ้น สีและ Texture ของภาพบอกเล่าเรื่องของการเปลี่ยนแปลงภูมิประเทศและชนิดพืชพรรณได้ชัดเจนยิ่งกว่าการถ่ายภาพด้วยกล้องธรรมดา

ป่าเขตร้อนในแถบภูเขาไฟของอินโดนิเซีย

Halmahera คือเกาะในอินโดนีเซียที่ซ่อนภูเขาไฟไว้ใต้เรือนยอดดิบชื้น แนวเขาที่เห็นในภาพนี้ถูกสร้างขึ้นจากภูเขาไฟโบราณหลายลูก บางลูกยัง active อยู่จนถึงทุกวันนี้ เช่น Mount Gamkonora ที่เห็นอยู่ใกล้ชายฝั่งด้านบนของภาพ ความโดดเด่นของภาพนี้คือการแสดงให้เห็นว่าแม้แต่ในป่าฝนที่ซับซ้อนที่สุด เรดาร์ของ Biomass ก็ยังสามารถทะลุผ่าน canopy แล้วเผยให้เห็น topography ด้านล่างได้อย่างแม่นยำ ความสามารถนี้เปิดทางใหม่ในการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างระบบนิเวศกับธรณีวิทยาในภูมิภาคเขตร้อน

ภาพแสดงเกาะภูเขาไฟในอินโดนิเซีย ภาพนี้แสดงให้เห็นถึง Togography ของพื้นที่ (ภาพนี้ถูกหมุนเพื่อให้ถูกแสดงผลในแนวนอน) ที่มา – ESA

ป่าทึบกับสายเลือดของแม่น้ำ Ivindo

ต่อมาที่แอฟริกากันบ้างแม่น้ำ Ivindo คือลำน้ำสายสำคัญที่ไหลผ่านใจกลางป่าดิบในประเทศกาบอง ภาพนี้แสดงแม่น้ำและสาขาย่อยที่แผ่ขยายเหมือนเส้นเลือดใหญ่เลี้ยงผืนป่า โทนสีเขียวในภาพบ่งบอกถึงความหนาแน่นของ Biomass ที่สูงมาก และพื้นผิวภูมิประเทศที่มีความต่อเนื่อง สะท้อนถึงระบบนิเวศที่ยังสมบูรณ์ แม้ในภาพจะไม่มีเส้นขอบเขตชัดเจนแบบแผนที่ แต่ลวดลายของแม่น้ำและพื้นป่าบอกเล่าเรื่องราวของระบบธรรมชาติได้อย่างแม่นยำ

แม่น้ำ Ivindo สายสำคัญในกาบอง ตะวันตกของแอฟริกาถูกถ่ายโดย Biomass ที่มา – ESA

แม่น้ำและทะเลสาบโบราณในชาด

ภาพจากพื้นที่ภูเขา Tibesti ทางตอนเหนือของชาดนี้ คือหนึ่งในเซอร์ไพรส์ของ Biomass ที่ไม่มีใครคาดว่าจะเห็นเร็วขนาดนี้ โครงสร้างเส้นสายที่เห็นคือร่องแม่น้ำและทะเลสาบโบราณที่ถูกทรายทับถมไว้มานานหลายพันปี เรดาร์ P-band สามารถทะลุลงไปใต้ผิวดินได้ลึกถึง 5 เมตร ทำให้สามารถสแกนลักษณะทางธรณีวิทยาใต้ทะเลทรายที่เคยเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ได้ ความสามารถนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้เรารู้จักอดีตของภูมิอากาศ แต่ยังอาจช่วยให้ค้นพบแหล่งน้ำบาดาลในอนาคต

ภาพจาก Radar ที่แสดงให้เห็นถึงร่อยรอยทะเลสาบโบราณในอดีต ทางตอนเหนือของแอฟริกา ที่มา – ESA

แอนตาร์กติกา ธารน้ำแข็งกับชั้นในของน้ำแข็งโลก

ภาพสุดท้ายที่ ESA เผยแพร่คือภาพของเทือกเขา Transantarctic และธารน้ำแข็ง Nimrod ที่ไหลลงสู่ Ross Ice Shelf โทนสีที่แตกต่างกันช่วยให้เราเห็นพื้นผิวของธารน้ำแข็งและภูมิประเทศด้านล่างที่อยู่ใต้ชั้นน้ำแข็งหนา ความพิเศษคือ เรดาร์ของ Biomass อาจใช้ในการศึกษาความเร็วการไหลของน้ำแข็งและโครงสร้างชั้นในได้ในระดับที่เรดาร์อื่นไม่เคยทำได้ เพราะความยาวคลื่นที่ลึกและทะลุทะลวงของ P-band ช่วยให้เรามอง “ทะลุน้ำแข็ง” ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อการเข้าใจการละลายของธารน้ำแข็งในบริบทของ Climate Change

ธารน้ำแข็งที่ถูกศึกษาด้วย P-band ของ Biomass เผยให้เห็นรายละเอียดของภูมิประเทศที่ซ่อนอยู่ใต้ชั้นน้ำแข็งหนาเหล่านี้ ที่มา – ESA

ในขณะที่ดาวเทียม Biomass กำลังส่งข้อมูลชุดแรกจากวงโคจร ทะลุป่า ทะลุน้ำแข็ง ทะลุทราย ไปจนถึงทะลุ Narrative เก่า ๆ ว่าภารกิจ Earth Observation นั้นเป็นของพวก “ภาพถ่ายน่าเบื่อที่ไม่มีใครดู” ESA กำลังยืนหนึ่งในฐานะผู้นำการสำรวจโลกแบบที่ไม่ได้แค่ “เห็น” แต่ “เข้าใจ”

ตรงกันข้าม ฝั่ง NASA กลับกำลังเผชิญกับนโยบายลดงบ Earth Science อย่างหนักในปี 2025 ภายใต้บริบทการเมืองที่มอง Climate Crisis ว่าเป็นประเด็นรอง แม้จะเคยเป็นผู้นำด้านข้อมูลโลกด้วยโครงการอย่าง IceSat, GRACE, และ Landsat ก็ตาม แม้ยังมีความหวังอย่างภารกิจ NISAR ที่ร่วมกับ ISRO ของอินเดียในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า แต่ภาพรวมก็ชัดเจนว่า NASA ในยุคนี้ถูกบีบให้หายใจถี่ลง เมื่อพูดถึงการลงทุนเพื่อปกป้องโลก เจาะลึก NISAR ดาวเทียมสำรวจโลกที่ล้ำที่สุดที่อินเดียร่วมสร้างกับสหรัฐฯ

เมื่อระบบของดาวเทียมปรับเทียบสมบูรณ์ Biomass จะทำการสแกนโลกทุก 6 เดือน เพื่อวัดการเปลี่ยนแปลงของชีวมวลและช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถสร้าง แผนที่คาร์บอนของโลกแบบละเอียดที่สุดเท่าที่เคยมีมา ในบริบทของ Climate Science นี่คือข้อมูลที่สำคัญไม่แพ้ CO2 ในบรรยากาศหรืออุณหภูมิผิวน้ำทะเล เพราะป่าไม้คือ “ที่ซ่อนคาร์บอน” ที่เรายังไม่รู้ทั้งหมดว่ามันเปลี่ยนไปแค่ไหนในแต่ละปี

เรียบเรียงโดย ทีมงาน Spaceth.co

Technologist, Journalist, Designer, Developer, I believe in anti-disciplinary. Proud to a small footprint in the universe. For Carl Sagan.