บทความนี้เราอยู่ที่หน้าอาคาร Vehicle Assembly Building ของ NASA Kennedy Space Center อีกครั้ง ต่อเนื่องจากที่เราพาทุกคนไป ชมฐานปล่อย LC-39B ฐานปล่อยในตำนานแห่ง NASA Kennedy Space Center และ ชมการประกอบจรวด SLS ในอาคาร VAB คราวนี้มาถึงโอกาสที่เราจะพาทุกคนมาชมอีกหนึ่งระบบสำคัญในระบบ Exploration Ground Systems ที่จะถูกใช้ในการพาเอาจรวด SLS บนแท่นปล่อย Mobile Launcher ไปยังฐานปล่อย
ตอนนี้เราขอแนะนำให้รู้จักกับ Crawler Transporter 2 ของ NASA ยานพาหนะขนาดยักษ์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อภารกิจอวกาศประวัติศาสตร์ NASA มี Crawler Transporters ทั้งหมด 2 คัน ได้แก่ Crawler Transporter 1 หรือ CT-1 และ Crawler Transporter 2 หรือ CT-2 ซึ่งทั้งสองคันถูกสร้างขึ้นในช่วงทศวรรษ 1960 โดย Marion Power Shovel Company เพื่อใช้งานกับโครงการ Apollo และถูกนำมาใช้ต่อในโครงการกระสวยอวกาศ หรือ Space Shuttle และ Artemis ในปัจจุบัน
เสป็คและรายละเอียดที่เรากล่าวถึงในบทความนี้จะอ้างอิงจากหน้า Crawler-Transporter ของ NASA

เนื่องจากสถาปัตยกรรมการออกแบบของ NASA นั้นแม้จะผ่านมา 50 ปี แต่ก็ยังมีความใกล้เคียงเดิม ทำให้ฮาร์ดแวร์เก่า ๆ นั้นยังสามารถเอามาใช้งานได้อยู่ โดยเฉพาะการประกอบจรวด ตัวจรวดจะถูกประกอบในอาคาร Vehicle Assembly Building บนโครงสร้างที่เรียกว่า Mobile Launcher หลังจากนั้น มันจะถูกลากผ่านทางที่เรียกว่า Crawler Way ไปยังฐานปล่อย LC-39A สำหรับในยุค Apollo และกระสวยอวกาศ และ LC-39B ในยุค Artemis เพื่อปล่อยขึ้นสู่อวกาศ
สามารถอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่ดินของ NASA Kennedy Space Center ได้ในบทความ ประวัติศาสตร์ที่ดินของแหลมคะเนอเวอรัล และทำไม NASA ต้องปล่อยจรวดที่นั่น

โชคดีมากที่ในช่วงที่เราเดินทางมายัง Kennedy Space Center ช่วงนี้ Crawler Transporter 2 กำลังจอดอยู่ด้านหน้า High Bay 1 ของอาคาร VAB พอดี ซึ่งอยู่ระหว่างการซักซ้อมและเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจ Artemis II ที่เดี๋ยวมันจะต้องถูกใช้ในการแบกเอา Mobile Launcher และ SLS ไปยังฐานปล่อย

Crawler Transporter มีขนาดยาว 40 เมตร กว้าง 35 เมตร และมีไฮดรอลิกที่ปรับระดับความสูงได้ระหว่าง 6 ถึง 8 เมตร น้ำหนักของมันอยู่ที่ประมาณ 2,721 ตันใช้ เครื่องยนต์ดีเซล V16 สองตัวให้กำลังรวม 2,750 แรงม้า ขับเคลื่อนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสี่ตัวที่ให้พลังงานแก่มอเตอร์ขับเคลื่อน 16 ตัว ความเร็วสูงสุดของมันคือ 1.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเมื่อบรรทุกจรวด เร็วพอ ๆ กับคนเดินชิลล์ๆ ในห้าง และ 3.2 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเมื่อเปล่า อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ประมาณ 296 ลิตรต่อกิโลเมตร ใช้น้ำมันพอ ๆ กับเรือรบก็ว่าได้

สำหรับการเคลื่อนที่ใช้ระบบตีนตะขาบที่ประกอบด้วย 8 แทร็ก สองแทร็กต่อมุม แต่ละแทร็กมี 57 แผ่น แต่ละแผ่นหนักประมาณ 900 กิโลกรัม โดยทางที่มันวิ่งนั้นจะเป็นพื้นที่โรยหินเอาไว้

ซึ่งเกร็ดความรู้ก็คือหินเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะเอาหินที่ไหนมาโรยก็ได้ แต่ NASA จำเป็นต้องใช้หินจากแม่น้ำ Tennessee เป็นหินกรวดที่ถูกขัดจนเรียบ มีความกลมมน และมีขนาดเฉลี่ย ประมาณ 3-4 นิ้วต่อก้อน วางเป็นชั้นหนาประมาณ 10-15 เซนติเมตร
หน้าที่ของมันคือช่วยกระจายแรง หากใช้หินทั่วไป ตีนตะขาบเหล็กขนาดยักษ์ของ Crawler อาจบดมันจนแตกเป็นฝุ่นและอาจทำให้เครื่องยนต์และระบบไฮดรอลิกเสียหายในขณะที่หินชั้นล่างจะถูกโรยเป็นทรายและหินก้อนเล็ก ๆ ทั่วไป ในระหว่างที่ Crawler วิ่งบนทาง Crawler Way นี้และบรรทุกจรวดหรือ Mobile Launcher เอาไว้ NASA จำเป็นต้องมีรถคอยฉีดน้ำเพื่อให้ทรายด้านใต้อัดแน่นกันมากขึ้นด้วย

ในปี 2003 Crawler Transporter 2 ได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่ รวมถึงการเปลี่ยนระบบควบคุมมอเตอร์ ปั๊มไฮดรอลิก ระบบระบายความร้อน และห้องควบคุม จากปี 2012 ถึง 2017 มันได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมเพื่อรองรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นของจรวด Space Launch System หรือ SLS ในโครงการ Artemis ภายใต้โครงการ Exploration Ground Systems
การปรับปรุงนี้รวมถึงการเสริมความแข็งแรงของโครงสร้าง การติดตั้งแบริ่งที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ระบบไฮดรอลิกที่สามารถยกและปรับระดับในขณะที่มันขึ้นเนินลาดเอียงและระบบเบรกที่ทรงพลังยิ่งขึ้น การปรับปรุงเหล่านี้ทำให้ความสามารถในการรับน้ำหนักของมันเพิ่มขึ้นจาก 5,400 ตันเป็น 8,200 ตัน

ในการเยี่ยมชมครั้งนี้เราได้รับเกียรติจากคุณ John Giles ผู้เป็น Engineering Operations Manager สำหรับตัว Crawler Transporter ที่นำเอา Crawler มาจอดด้านหน้าอาคาร VAB โดยคุณ John ได้บอกเราว่า เราสามารถทำอะไรก็ได้กับตัว Crawler จะจับ จะลอดใต้ ยกเว้นว่าห้ามปีนขึ้นไปบน Crawler (ฮา)

ดังนั้นในภาพด้านบนผมจะเปรียบเทียบขนาดของตัวเองให้ดูกับด้านหน้าของตัว Crawler จะเห็นว่าขนาดของมันใหญ่มาก เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในรถที่ใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ แค่เฉพาะความสูงของมันพ้นจากพื้นก็ประมาณ 2 เมตรแล้ว เราสามารถเดินลอดใต้ท้อง Crawler ได้อย่างสบาย ๆ
ในการขับขี่นั้น Crawler ไม่ได้มีพวงมาลัยเหมือนรถยนต์ทั่วไป แต่มันถูกควบคุมผ่านห้องบังคับการที่มีจอยสติ๊กและปุ่มจำนวนมาก คล้ายกับกำลังขับหุ่นยนต์ขนาดยักษ์ แม้ว่าจะเคลื่อนที่ช้า แต่ทุกการขยับต้องแม่นยำระดับเซนติเมตร เพราะการเอียงของจรวดเพียงเล็กน้อยอาจทำให้จรวดล้มคว่ำลงมาได้ โดยเฉพาะตอนที่มันไต่ขึ้นเนินไปยังฐานปล่อย

ในระหว่างการเตรียมตัวสำหรับภารกิจ Artemis II นั้น Crawler ได้ถูกใช้ในการแบกเอาตัวฐานปล่อย Mobile Launcher ไปยังฐานปล่อย LC-39B ในช่วงปี 2024 เพื่อการทดสอบ การซักซ้อมต่าง ๆ ก่อนที่ในช่วงปลายปี ตัว Mobile Launcher ได้ถูกนำกลับเข้ามายังอาคาร VAB อีกครั้ง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการประกอบจรวด SLS บนนั้น ตามบทความ ชมการประกอบจรวด SLS ในอาคาร VAB ที่เราได้พาชมกันไปก่อนหน้า ดังนั้น เราจะได้เห็น Crawler แบกตัว Mobile Launcher และ SLS อีกครั้ง ก็คือตอนที่ทำ Rollout หรือนำเอาจรวด ไปยังฐานปล่อยในช่วงกลางปี 2026 เลย

และสุดท้ายก็ต้องบอกว่า Crawler Transporter คือเครื่องมือชิ้นสำคัญในประวัติศาสตร์ เพราะแค่อายุของมันก็มากกว่า 60 ปีแล้ว และยังคงใช้งานอยู่จนถึงปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยให้มนุษย์ชาติได้เดินทางกลับไปยังดวงจันทร์อีกครั้งในโครงการ Artemis
สำหรับใครที่อยากมีโอกาสได้ชม Crawler Transporter แบบใกล้ ๆ แบบเท่าที่คนทั่วไปจะสามารถทำได้ ก็คือในขณะที่ทำ Bus Tour ระหว่างเยี่ยมชม NASA Kennedy Space Center Visitor Complex ซึ่งระหว่างที่ขับผ่านอาคาร VAB ไกด์ทัวร์จะชี้ให้เราดูตำแหน่งที่รถ Crawler จอดอยู่ ได้ สามารถอ่านรีวิวพาชม Visitor Complex ได้ที่ พาเที่ยว NASA Kennedy Space Center
เรียบเรียงโดย ทีมงาน Spaceth.co