ในฐานะแชมป์ยูฟ่า แชมป์เปียนส์ลีก บอลถ้วยสูงสุดของสโมสรฟุตบอลในยุโรป ลิเวอร์พูลต้องมาลงเตะกับเชลซี ทีมร่วมชาติที่ไปคว้าแชมป์ยูฟ่า ยูโรป้าลีก บอลถ้วยรองของยุโรปมาได้ในปีเดียวกัน ในศึกยูฟ่า ซุปเปอร์คัพ เพื่อเป็นการพิสูจน์แบบกลาย ๆ ว่าพวกเขานี่แหละ คือเจ้าแห่งยุโรปที่แท้จริง
ทว่าตารางการแข่งขันนั้นก็ค่อนข้างป่าเถื่อนเป็นอย่างมาก โดยลิเวอร์พูลเปิดบ้านพบกับนอริช ซิตี้ในเกมลีก คืนวันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม ก่อนจะต้องบินไปเมืองอิสตันบลู ประเทศตุรกี เพื่อลงแข่งกับเชลซีในคืนวันพุธที่ 14 สิงหาคม และหลังจากนั้นมีเวลาเว้นว่างเพียงแค่ 2 วันกว่าเท่านั้น ก่อนจะต้องบินกลับไปเยือนเซาท์แฮมตันในเกมลีก เที่ยงวันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม
เกมซุปเปอร์คัพจบลงที่ชัยชนะของลิเวอร์พูล หลังจากยืดเยื้อเข้าช่วงต่อเวลาพิเศษและการเตะจุดโทษตัดสิน ที่แทมมี่ เอบราแฮมของเชลซี ยิงไปติดเซฟอาเดรียน และส่งให้ลูกทีมของเจอร์เกน คล็อป ฉลองถ้วยที่สองในปีปฏิทินเดียวกันได้อย่างยิ่งใหญ่
แต่ก็คงไม่มีใครพูดถึงช่วงเวลาการซอยเท้าชูถ้วยของจอร์แดน เฮนเดอร์สัน หากลิเวอร์พูลดันเกิดอุบัติเหตุทางลูกหนัง ด้วยการออกไปพ่ายให้กับเซาท์แฮมตันเพียง 3 วันให้หลัง (เกมที่แพ้ให้กับวัตฟอร์ด 0-3 เป็นเครื่องพิสูจน์มาแล้ว)
อันที่จริงการจัดตารางห่างกันแค่ไม่ถึง 65 ชั่วโมงนั้นทำให้เจอร์เกน คล็อปโกรธอยู่พอควร โดยเฉพาะกับการที่เขาต้องใช้เวลาไปกับการเดินทาง 5,500 กิโลเมตร และนักเตะบางคนที่ต้องลงเล่นนานถึง 120 นาที ในขณะที่เซาท์แฮมตันได้พักมาตลอดทั้งอาทิตย์ และมีความสดพร้อมกว่าทีมเยือนอย่างมาก
คล็อปก็ทราบเช่นกัน ว่าการออกมาตำหนิต่อหน้าสื่อไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาได้ ดังนั้นทางแก้ทางเดียวคือ ทำยังไงก็ได้ให้นักเตะเหล่านี้พร้อมลงเล่นด้วยสภาพร่างกายที่พร้อมที่สุด และการเตรียมความพร้อมดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นในทันทีหลังจากการฉลองแชมป์สิ้นสุดลง
แทนที่พวกเขาจะบินกลับลิเวอร์พูลหลังแข่งจบในทันที ทั้งทีมได้พักต่อที่โรงแรมใกล้กับสนามแข่ง และปรับเวลาบนนาฬิกาให้ถอยหลังไปสองชั่วโมง นั่นคือการปรับกลับไปตามเขตเวลาของอังกฤษ แม้ว่าตัวของพวกเขาจะยังอยู่ในดินแดนของตุรกีอยู่ก็ตาม
ในรุ่งเช้าวันพฤหัส งานของทีมกายภาพบำบัดและทีมนวดก็ได้เริ่มต้น เพื่อฟื้นฟูกล้ามเนื้อที่อ่อนล้าจากการกรำศึกหนักบนสนามเมื่อคืนที่ผ่านมา ต่อด้วยการกินข้าวเช้า และตัวสำรองที่ไม่ได้ลงก็เข้าหลักสูตรการฝึกอย่างเข้มข้นต่อในโรงยิม เพื่อเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมลงเล่นในเกมวันเสาร์
ทั้งทีมบินกลับมาลิเวอร์พูลในเที่ยงวันนั้น และแม้จะอยู่บนเครื่องบิน การรักษาและฟื้นฟูสภาพร่างกายยังคงถูกทำต่อไปตลอดเวลาไฟลท์บินทั้ง 4 ชั่วโมง โดยมีอาเดรียนที่มีอาการบาดเจ็บบริเวณหัวเข่า หลังจากโดนแฟนบอลเข้าสไลด์ จากจังหวะวิ่งลงมาดีใจในสนาม และด้วยการรักษาบนเครื่องนี่เอง ที่ช่วยให้เขาหายเจ็บทันลงเฝ้าเสาพบกับเซาท์แฮมตัน
แต่อีกคนหนึ่งที่มีอาการบาดเจ็บก็คือเจมส์ มิลเนอร์ กองกลางผู้ที่มีพละกำลังสวนทางกับอายุของเขา ผู้มีอาการฝกช้ำอย่างรุนแรงที่ขา และสุ่มเสี่ยงที่จะพลาดลงเล่นในเกมสุดสัปดาห์นั้น ซึ่งนั่นจะส่งผลต่อตำแหน่งกองกลางของทีมอย่างแน่นอน
ฟาบินโญ่และจอร์แดน เฮนเดอร์สันลงเล่นเต็ม 120 นาทีตลอดเกม ซึ่งสภาพความฟิตไม่น่าพร้อมลงเล่นได้เต็มที่ นั่นทำให้เหลือเพียงจอร์จินโญ่ ไวนัจดุม อเล็กซ์ อ็อกเลด-แชมเบอร์เลนและอดัม ลัลลาน่า ที่เป็นผู้เล่นทีมชุดใหญ่ ที่พร้อมจะลงเล่นในเกมนัดนี้ได้ ยังไม่รวมถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการขาดมิดฟิลด์สายพละกำลังของทีม และรองกัปตันที่อยู่กับสโมสรมากว่า 5 ปีแล้วด้วยกัน
นั่นคือจุดที่ทีมกายภาพบนทีมนำเครื่องประคบเย็นของ GameReady มาใช้ เพื่อเร่งการฟื้นฟูสภาพร่างกายของมิลเนอร์ โดยจะมีการใส่น้ำแข็งและน้ำเย็นไว้ในถังเก็บบนเครื่อง และนำแผ่นเจลมาพันรอบบริเวณที่มีอาการบาดเจ็บ โดยมีการไหลของน้ำเย็นจากถังเก็บมาที่แผ่นเจล ผ่านท่อขนาดเล็กโดยรอบอยู่ต่อเนื่องเป็นระยะ โดยเป็นเทคนิคเดียวกับระบบ LCVG หรือ Liquid cooling and ventilation garment ที่ใช้อยู่ภายในชุดนักบินอวกาศนั่นเอง
LCVG นั้นมีไว้เพื่อช่วยในการหล่อเย็นทั่วร่างกายของนักบินอวกาศ ขณะที่ต้องออกไปปฏิบัติงานอยู่ภายนอกยาน ซึ่งการใส่ชุดอวกาศนั้นอาจกินเวลานานถึง 8 ชั่วโมงด้วยกัน และน้ำเย็นที่ถูกปั๊มออกมาได้ไหลเข้าสู่ท่อขนาดเล็กจำนวนมากรอบ ๆ ชุด ก่อนจะดูดซับความร้อนจากร่างกาย ก่อนจะพาความร้อนออกไปด้วยเครื่องนำความร้อน และผ่านการระเหิดโดยใช้แผ่นน้ำแข็งบาง ๆ ด้วยสภาพที่มีความดันต่ำมาก ๆ ของอวกาศ ที่ช่วยให้น้ำแข็งที่ร้อนขึ้นระเหิดกลายเป็นไอในทันที ส่วนน้ำใน LCVG ก็ถูกนำกลับมาทำให้เย็นใหม่ และไหลวนกลับเข้าไปอีกครั้ง
ด้วยการที่น้ำเย็นของเครื่อง GameReady ไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความเย็นสามารถเข้าไปถึงได้เร็วและลึกขึ้นกว่าการประคบด้วยแผ่นเจลปกติ ซึ่งเครื่องนี้ไม่ได้ถูกใช้แค่สำหรับมิลเนอร์เพียงคนเดียว แต่ยังช่วยใช้ในเร่งการฟื้นฟูให้กับสภาพร่างกายของนักเตะลิเวอร์พูลคนอื่น ๆ ในทีมอีกด้วย
ทว่านั่นก็ไม่ใช่สิ่งเดียวที่ทำให้ลูกทีมของคล็อปรักษาสภาพร่างกายได้เป็นอย่างดีตลอดทั้งฤดูกาล ยังมีการวางแผนการเดินทาง โภชนาการ โปรแกรมฝึกซ้อม และรายละเอียดที่ลึกลงไปถึงแม้แต่การปรับเวลา ที่ได้มีส่วนช่วยดึงสภาพนักเตะให้มีความพร้อมสูงสุดกับนัดต่าง ๆ ที่จะลงเล่น โดยเฉพาะกับแทคติกของทีม ที่เน้นพละกำลังตามสไตล์เกเก้นเพรสซิ่ง ที่นักเตะต้องมีความพร้อมในการออกวิ่งจนสิ้นเสียงนกหวีด และแสดงออกอยู่เสมอว่าพวกเขาพร้อมและยังไม่เหนื่อย
แน่นอนว่านัดนั้นจบลงด้วยชัยชนะของลิเวอร์พูลไป 2-1 ทั้งอาเดรียนและมิลเนอร์ได้ลงสนามช่วยทีม แม้อาเดรียนจะมีแจกโชคให้กับแดนนี อิงส์ อดีตกองหน้าของทีมยิงเข้าไปแบบง่าย ๆ ก็ตาม แต่นั่นก็ยังเพียงพอต่อการเก็บ 3 แต้มกลับแอนฟิลด์ และปิดสัปดาห์แห่งการกรำศึกหนักลงด้วย 3 ชัยชนะ กับอีก 1 ถ้วยแชมป์
แม้สองเรื่องที่ฟังดูแล้วไม่น่ามีจุดที่เชื่อมโยงกันได้ ก็ยังมีสิ่งที่เป็นผลพลอยได้จากการสำรวจอวกาศซ่อนเอาไว้อยู่ และสิ่งนั้นก็ยังเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญ ของการแสดงผลงานอันยอดเยี่ยมของสโมสรในฤดูกาลนี้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม นับจนถึงวินาทีที่บทความนี้ถูกเขียน ทีมรักของผู้เขียนก็ยังถูก Social Distancing จากถ้วยพรีเมียร์ลีกอยู่ 6 คะแนนด้วยกัน แต่ก็ไม่เป็นไรแหละ ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ก็ขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองให้ดี มีความพร้อมที่จะช่วยเหลือเมื่อไหร่ที่สามารถพอทำได้ และเราจะผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกันนะ
#YNWA 🙂
เรียบเรียงโดยทีมงาน Spaceth.co
อ้างอิง
UEFA – Liverpool vs Chelsea UEFA Super Cup 2019
Tifo Football – How Jurgen Klopp Treats His Players
Game Ready – GRPRO 2.1COLD & COMPRESSION THERAPY UNIT
NASA – Multifunctional Cooling Garment for Space Suit Environmental Control