หลังจากที่ NASA ได้ปล่อยยานสำรวจดวงจันทร์ขนาดเล็ก Lunar Trailblazer เดินทางไปยังดวงจันทร์พร้อมกับยานลงจอด Nova-C ของ Intuitive Machines ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2025 ที่ผ่านมา หลังจากที่ตัวยานแยกตัวออกมาจากจรวด Falcon 9 ทีม Jet Propulsion Laboratory หรือ JPL และ California Institute of Technology หรือ Caltech ผู้ดูแลโครงการ ได้แจ้งปัญหาเบื้องต้นว่าตัวยานมีปัญหาในการส่งสัญญาณ Telemetry กลับโลก และอยู่ระหว่างการพยายามเชื่อต่อสัญญาณกับตัวยาน
อ่านเรื่องราวและข้อมูลของยาน Lunar Trailblazer ได้ทาง Lunar Trailblazer ยานสำรวจดวงจันทร์ขนาดเล็กที่จะทำแผนที่น้ำบนดวงจันทร์
แถลงฉบับแรกที่ออกมาพูดถึงปัญหาเกิดขึ้นประมาณ 2 วันหลังการการปล่อยบอกว่า หลังจากที่ตัวยานแยกตัวออกจาก Falcon 9 ตัวยานได้เริ่มต้นการส่งสัญญาณกลับโลกผ่านระบบ Deep Space Network แต่จากข้อมูลพบว่าระบบพลังงานของตัวยานมีปัญหา ก่อนที่ช่วงประมาณ 12 หลังจากการปล่อย ตัวยานก็ได้ขาดการติดต่อไป

NASA รายงานต่อว่า หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงตัวยานก็ได้ติดต่อกลับมาอีกครั้ง ซึ่งในโอกาสนั้นศูนย์ควบคุมยานที่ Caltech และทีม JPL ก็ได้พยายามตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวยานกันแน่ แต่สิ่งที่ส่งกลับมานั้นเป็นเพียงแค่สัญญาณที่บ่งบอกว่าตัวยานยังทำงานอยู่ ไม่ได้เป็นข้อมูลที่สามารถแปรความได้ ทำให้ตลอดสัปดาห์ที่การส่งคำสั่งผ่านระบบ Deep Space Network ด้วยคำสั่งทางเดียว (Uplink) แต่ก็ไม่มีข้อมูลกลับลงมา ความพยายามดังกล่าวถูกทำร่วมกันระหว่าง JPL, Caltech และ Lockheed Martin ผู้ผลิตยาน
ล่าสุด NASA ได้ออกแถลงการอีกครั้งในรอบหลายวันใน NASA Continuing Efforts to Contact, Command Lunar Trailblazer หลังจากที่ทีมสื่อสารพยายามกู้สัญญาณของยานกลับมาผ่านระบบ Deep Space Network บอกว่าความพยายามดังกล่าวยังไม่เป็นผล และเป็นที่แน่นอนว่าตัวยานจะไม่สามารถเข้าสู่วงโคจรของดวงจันทร์ตามที่ตั้งใจและออกแบบไว้ได้
จากข้อมูล Telemtry ล่าสุดที่สามารถรับสัญญาณได้ในวันที่ 2 มีนาคม 2025 ที่ผ่านมา บ่งบอกว่าตัวยานกำลัง “หมุน” อยู่ โดยตัวยานนั้นทำงานในโหมดใช้พลังงานต่ำหรือ Low Power Mode ซึ่งเกิดจาการที่ตัวยานยังไม่สามารถรักษาทิศทางของแผง Solar Arrays ให้ชี้หาดวงอาทิตย์ได้ แน่นอนว่าเหตุดังกล่าวส่งผลต่อการสื่อสารกลับโลกด้วยเช่นกัน เนื่องจากเสาสัญญาณก็จำเป็นจะต้องชี้กลับโลกเพื่อส่งสัญญาณ นี่จึงอาจเป็นสาเหตุว่าทำไมการเชื่อมต่อการสื่อสารกับตัวยานถึงเป็นไปด้วยความยากลำบาก
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับ Lunar Trailblazer นั้นคล้ายกับที่เกิดกับยาน ODIN ของ AstroForge ซึ่งเราได้รายงานไปในข่าว ODIN ภารกิจสำรวจดาวเคราะห์น้อยโดยเอกชน กำลังประสบปัญหาหลังปล่อยสู่อวกาศ ที่ได้เดินทางไปในเที่ยวบินเดียวกัน (ซึ่งอาจเป็นเรื่องบังเอิญ ไม่ได้มีผลเกี่ยวข้องต่อกัน แต่บอกเฉย ๆ)
ยาน Lunar Trailblazer เป็นยานอวกาศสำรวจดวงจันทร์ยุคใหม่ของ NASA อีกลำที่มีปัญหา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ยาน Lunar Flashlight ก็เพิ่งประสบชะตากรรมคล้ายกัน และไม่สามารถเข้าสู่วงโคจรของดวงจันทร์ได้ในปี 2023

JPL ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมผ่านทาง X บอกว่า แม้ตัวยานจะไม่สามารถเข้าสู่วงโคจรรอบดวงจันทร์ตามที่ออกแบบไว้ได้ แต่อย่างน้อยถ้าเชื่อมต่อสัญญาณกลับมาได้ ก็อาจยังสามารถบังคับยานให้เข้าสู่วงโคจรของดวงจันทร์ในวงโคจรอื่น ๆ ที่อาจยังช่วยให้ตัวยานทำงานวิทยาศาสตร์ได้แม้จะไม่ได้ตรงตามเป้าหมายหลักของภารกิจเดิม (แต่ถ้าไม่ได้ก็บอกลายานอวกาศลำนี้ได้เลย)
Lunar Trailblazer เป็นยานขนาดเล็กในโครงการ SIMPLEx ซึ่งเป็นการทำยานขนาดเล็กเดินทางไปพร้อมกับภารกิจใหญ่ โดยมีเป้าหมายเพื่อใช้อุปกรณ์วิทยาศาสตร์ที่อาจนำไปสู่การค้นพบที่สำคัญติดไปกับยาน อย่างในกรณีนี้คือการทำแผนที่น้ำบนดวงจันทร์ด้วยอุปกรณ์ที่พัฒนาต่อมาจากช่วงปี 2008 ที่ NASA ค้นพบน้ำบนดวงจันทร์ โดยอุปกรณ์รุ่นใหม่นี้มีความแม่นยำในการตรวจหาน้ำจากวงโคจรมากกว่า การที่ Lunar Trailblazer ไม่สามารถทำภารกิจดังกล่าวได้ถือว่าเป็นผลเสียต่อโครงการ Artemis ในภาพรวมพอสมควร เพราะก่อนหน้านี้ Lunar Flashlight ที่ทำงานคล้าย ๆ กันก็ไม่รอดมาแล้ว ทำให้ตอนนี้ NASA แทบจะไม่มียานเพื่อตรวจหาน้ำบนดวงจันทร์โดยเฉพาะเลย และยังคงต้องพึ่งพายาน Lunar Reconnaissance Orbiter ซึ่งไม่ได้ออกแบบมาเพื่อศึกษาน้ำเป็นหลัก ในการวางแผนโครงการ Artemis อยู่
เรียบเรียงโดย ทีมงาน Spaceth.co