กรณีฐานปล่อยยานรัสเซียถล่ม ทำให้ NASA ต้องปรับแผน Logistic ของสถานีอวกาศนานาชาติ

หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า ฐานปล่อยยาน Soyuz เสียหายหนักหลังจากภารกิจ Soyuz MS-28 ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2025 ที่ผ่านมา ก็มีหลากหลายฝ่ายออกมาแสดงความกังวลต่อผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับโครงการสถานีอวกาศนานาชาติเนื่องจากฐานปล่อย Site 31 ใน Baikonur Cosmodrome นั้นเป็นฐานปล่อยเพียงแห่งเดียวจากฝั่งรัสเซียที่สามารถส่งยาน Soyuz ที่ใช้ขนส่งลูกเรือ และยาน Progress ที่ใช้นำส่งเสบียง ไปยังสถานีอวกาศนานาชาติได้

การพังถล่มของโครงสร้างฐานปล่อย Site 31 ใน Baikonur Cosmodrome ส่งผลโดยตรงต่อภารกิจ Progress MS-31 ที่จะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2026 ซึ่งหากฐานปล่อยไม่สามารถซ่อมแซมได้ทัน การปล่อยยาน Progress เองก็จะต้องถูกเลื่อนออกไป ซึ่งแน่นอนว่าจะทำให้การเติมเสบียง อันได้แก่ เชื้อเพลิงสำคัญ, น้ำสะอาด, อาหาร, ข้าวของเครื่องใช้ และการทดลองทางวิทยาศาสตร์จกากฝั่งรัสเซียนั้นได้รับผลกระทบ

การปล่อยยาน Soyuz MS-27 ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ที่นำไปสู่ความเสียหายของฐานปล่อย ที่มา – NASA/Bill Ingalls

ไม่นานหลังจากทีเกิดความเสียหายกับฐานปล่อย ทีมงานได้แจ้งจากแหล่งข่าวหลายแหล่ง รวมถึงนักวิจัยจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ บอกว่า NASA ได้ตัดสินใจเหมาเที่ยวบินของภารกิจเติมเสบียงจากฝั่ง SpaceX ในภารกิจ CRS-34 ในช่วงกลางปี 2026 ทั้งลำ จนแทบไม่เหลือพื้นที่สำหรับฝั่ง Commercial และส่งผลกระทบต่อตัว Payload ทางวิทยาศาสตร์ที่ทางราชวิทยาลัยฯ จะส่งไปกับเที่ยวบิน CRS-34 ผ่านบริษัท Space Application Service ภายใต้ความร่วมมือกับองค์การอวกาศยุโรป European Space Agency หรือ ESA และจำเป็นต้องเลื่อนการส่งออกไปเป็นภารกิจ CRS-35 ช่วงปลายปี 2026 แทน

ยาน Cargo Dragon ของ SpaceX ในภารกิจ CRS-33 ในเดือนสิงหาคม 2025 ขณะเข้าเทียบท่าสถานีอวกาศนานาชาติ ที่มา – NASA

ในขณะเดียวกัน Ars Technica ก็ได้รายงานผ่านบทความ After key Russian launch site is damaged, NASA accelerates Dragon supply missions บอกว่า NASA เองตัดสินใจเร่งการปล่อยภารกิจ CRS-34 ให้เร็วยิ่งขึ้น จากเดิมที่กำหนดไว้ในช่วงเดือนมิถุนายน 2026 ให้มาเป็นเดือนพฤษภาคมแทน ส่วนภารกิจ CRS-35 นั้นถูกเลื่อนให้เร็วขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน เป็นเดือนสิงหาคม เร็วขึ้นกว่ากำหนดการณ์เดิมถึง 3 เดือน สิ่งนี้สะท้อนว่า NASA เองกังวลเป็นอย่างมากต่อกรณีดังกล่าว โดย Ars Technica ยังได้รายงานเพิ่มเติมว่า ระยะเวลาที่องค์การอวกาศรัสเซีย Roscosmos จำเป็นต้องใช้ในการซ่อมแซมฐานปล่อย Site 31 นั้นอยู่ที่ประมาณ 4 เดือน ซึ่งแน่นอนว่าอาจไม่ทันต่อรอบการปล่อยของ Progress MS-31 ในช่วงต้นปี 2026

ปี 2026 ดูทรงแล้วก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งปีที่มีการปรับแผนหน้างานของสถานีอวกาศนานาชาติ หลังจากที่ในปี 2025 ตารางของสถานีอวกาศนานาชาติก็พังยับเช่นกัน โดยมีผลพวงมาจากกรณียาน Starliner NASA ปรับสัญญา Starliner จาก 6 เที่ยวเหลือ 4 พร้อมเลื่อนภารกิจเป็นปี 2026 ตามมาด้วยกรณียาน Cygnus เสียหายระหว่างการขนส่งภาคพื้นโลก, สถานีอวกาศนานาชาติรั่วในช่วงภารกิจ Axiom Mission 4 และการดีเลย์ของยาน HTV-X สรุปบรรยากาศ การส่งยาน HTV-X เทียบสถานีอวกาศนานาชาติครั้งแรก เรียกได้ว่าในช่วงสุดท้ายของสถานีอวกาศนานาชาติก่อนปลดประจำการในปี 2030 นั้น ยังคงมีปัญหาใหม่ ๆ มาให้เราได้เรียนรู้ตลอด ก็คงต้องรอดูต่อไปว่า 4 ปีที่เหลือของสถานีฯ นั้น จะมีเหตุการณ์อะไรน่าจดจำเกิดขึ้นอีกบ้าง

เรียบเรียงโดย ทีมงาน Spaceth.co

Technologist, Journalist, Designer, Developer, I believe in anti-disciplinary. Proud to a small footprint in the universe. For Carl Sagan.