หลังจากการเดินทางสู่อวกาศที่เกิดขึ้นในวันที่ 10 กันยายน 2024 เวลา 16:23 ตามเวลาประเทศไทย หรือประมาณช่วงตีห้าเช้ามืด ตามเวลา ณ ฐานปล่อย สรุปการปล่อยภารกิจ Polaris Dawn และประวัติศาสตร์การเดินทางสู่ความสูง 1,400 กิโลเมตร เวลาผ่านไปสองวัน ภารกิจ Polaris Dawn ก็เข้าถึงช่วงเวลาสำคัญนั่นคือการทำ EVA ครั้งแรกโดยยานอวกาศ Dragon และลูกเรือกลุ่มเอกชน
12 กันยายน 2024 เวลาประมาณ 17:50 นาที ตามเวลาประเทศไทย ลูกเรือ Polaris Dawn ได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการทำ EVA ครั้งแรกบนยานอวกาศและภารกิจสำรวจอวกาศเอกชน ผู้บัญชาการภารกิจ Jared Isaacman กลายเป็นมนุษย์คนแรกที่ทำ EVA ออกจากยานอวกาศเอกชน โดยเขาได้เริ่มต้นการเปิดฝายาน Dragon หลังจากการตรวจเช็คความเรียบร้อยของชุดนักบิน ช่วงเวลาประมาณ 40 นาที ก่อนการออกไปนอกยาน
สำหรับกระบวนการทำ EVA ของภารกิจ Polaris Dawn นั้น ก็เริ่มต้นจากการเตรียมพร้อม ด้วยการทำ “EVA Poll” หรือการตรวจสอบความพร้อมของทั้งตัวยาน ลูกเรือ และทีมควบคุมภาคพื้นดิน ตามมาด้วยการสวมใส่ชุด EVA และตรวจเช็คการรั่วไหลของชุด หลังจากนั้นก็จะมีการดูดอากาศออกจากห้องโดยสารของยานอวกาศ Dragon เรียกว่า Cabin Venting
สำหรับการทำ EVA ในรอบนี้ จะมีผู้ทำอยู่ 2 คนได้แก่ Jared Isaacman ในฐานะผู้บัญชาการภารกิจ และ Sarah Gillis ตำแหน่ง Mission Specialist ผู้เป็นวิศวกรจาก SpaceX ที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังภารกิจมีมนุษย์ของยาน Dragon ในขณะที่ Poteet และ Menon นั้นจะรับหน้าที่เป็นผู้ช่วยเหลือทั้งสอง อย่างไรก็ดี แม้จะมีการทำ EVA เพียงแค่สองคน แต่ทั้ง Poteet และ Menon จำเป็นต้องสวมใส่ชุดนักบินอวกาศแบบ EVA เช่นกัน เนื่องจากอากาศในห้องโดยสารของยาน Dragon นั้นหายไปจนหมด อยู่ในสภาวะสุญญากาศ เนื่องจากยาน Dragon นั้นไม่มี Airlock นั่นเอง
โดยที่ตำแหน่งของ Isaacman ระหว่าง EVA จะถูกเรียกว่า “EV1” และ Gillis จะถูกเรียกว่า “EV2”
จนกระทั้ง 30 นาทีหลังจากเริ่มภารกิจ EVA อย่างเป็นทางการ ฝายานส่วนบนของยาน Dragon ก็ได้ถูกเปิดออกโดย Issacman หลังจากนั้นเขาก็ได้ยื่นตัวออกไปนอกยาน Dragon และทดสอบชุดนักบินอวกาศของ SpaceX ตามแผนที่เตรียมไว้ โดยโครงสร้างที่ยื่นออกมานอกยานนี้ SpaceX เรียกมันว่า “Skywalker”
Jared Isaacman นั้นได้ออกไปนอกยานขณะที่ Dragon กำลังโคจรที่ระดับความสูง 731 กิโลเมตร สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของการทำ EVA ใด ๆ หากไม่นับการเดินบนดวงจันทร์ในภารกิจ Apollo ในระหว่างนั้นเขาได้พูดว่า “บนโลกเรามีอะไรต้องทำมากมาย แต่บนนี้มันดูสมบูรณ์แบบมากเลย”
หน้าที่ของ Isaacman ในระหว่างภารกิจคือการทดสอบ “Mobility” หรือความสามารถในการเคลื่อนที่ขณะสวมใส่ชุด โดยเราจะเห็น Isaacman แสดงท่าทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้มือเดียว การหมุน การบิดงอของส่วนต่าง ๆ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อการปรับปรุงชุดของ SpaceX ให้ดีขึ้นในอนาคต
หลังจาก Issacman ผู้เป็น “EV1” จะเป็นคิวของ Gillis “EV2” ที่จะได้ออกไปนอกยาน ซึ่ง Gillis ก็ได้ทำการทดสอบที่ใกล้เคียงกับที่ Isaacman ได้ทำก่อนหน้า โดย Gillis ได้ออกจากตัวยาน Dragon ขณะที่ยานโคจรอยู่ที่ความสูงกลับลงมาที่ประมาณ 600 กิโลเมตร (ซึ่งก็ยังเป็นสถิติใหม่อยู่ดี)
นอกจากนี้เรายังได้เห็นภาพจาก “กล้อง” ที่ติดอยู่บริเวณหมวกของชุด ซึ่งสามารถถ่ายทอดภาพออกมาในรูปแบบ First-Person View ให้เราได้รับชมกัน นับเป็นอีกหนึ่งความแปลกใหม่ของการสำรวจอวกาศเลยก็ว่าได้เพราะแม้กล้องในลักษณะนี้จะมีติดอยู่กับชุดนักบินอวกาศ EVA ที่ใช้งานกันอยู่บนสถานีอวกาศนานาชาติก็ตาม (เพราะเราไม่ค่อยได้เห็น)
สำหรับรายละเอียดในทางวิศวกรรมนั้น ความดันของชุด EVA ของ SpaceX นั้นจะอยู่ที่ประมาณ 5.2 PSIA เราจะสังเกตเห็นได้ชัดเจนเลยว่าชุด EVA นั้นพองออก ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ก่อนหน้านี้มีการทดสอบชุด EVA ในห้องสุญญากาศโดยมีลูกเรือทั้งสี่สวมใส่แล้ว ดังนั้นลูกเรือทั้งสี่จึงน่าจะชินกับการที่ชุดพองออกในลักษณะนี้
หลังจากที่สิ้นสุดการทำ EVA รวมระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ลูกเรือทั้งสี่ก็ได้นำยาน Dragon กลับเข้าสู่ความดันปกติ ซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 14 PSIA (เรียกว่า Cabin Repress) และมีการตรวจสอบการรั่วไหลของยาน และหลังจากที่ความดันกลับมาเป็นปกติแล้ว ลูกเรือทั้งสี่ก็จะสามารถถอดชุด EVA และปฏิบัติกิจกรรมอื่น ๆ ได้ตามปกติ เป็นการสิ้นสุดการ EVA ครั้งแรกในประวัติศาสตร์โดยยานอวกาศและลูกเรือเอกชน
ตลอดระยะเวลา 2 วันที่เหลือ ลูกเรือ Polaris Dawn ก็ยังคงทำการทดลองต่าง ๆ รวมถึงทำคอนเทนต์สร้างแรงบันดาลใจ เช่น การพูดคุยกับคนบนโลกผ่านอินเทอร์เน็ต Starlink ซึ่งในรอบนี้ยาน Dragon ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์รับส่งข้อมูลแบบ Laser Communication เพื่อพูดคุยกับกลุ่มดาวเทียม Starlink รุ่นใหม่ด้วย
และที่เรียกได้ว่าไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ Sarah Gillis ที่ได้โชว์การเล่นไวโอลิน ร่วมกับวงดนตรีต่าง ๆ ทั่วโลก สด ๆ จากอวกาศ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจและเป็นภาพที่เราน่าจะจดจำไปอีกนาน ซึ่งเพลงที่ Gillis เล่นนั้น ก็ไม่ใช่อะไรนอกจากเป็น Soundtrack ของ “Star War” แฟรนไชน์ภาพยนตร์อวกาศที่เป็นที่รักของคนทั่วโลกนั่นเอง (เรียกได้ว่าภารกิจนี้มี Tribute ให้กับ Star War เยอะมาก)
และในที่สุดวันที่ 15 กันยายน 2024 ก็เป็นการจบสิ้นภารกิจ Polaris Dawn โดยลูกเรือทั้งสี่ได้เดินทางกลับสู่โลกอย่างปลอดภัย ในระหว่างที่ยานกำลังเข้าสู่บรรยากาศนั้น นักบินอวกาศ Don Pettit ที่เพิ่งถูกส่งขึ้นสู่อวกาศในภารกิจ Soyuz MS-26 ก็ได้สามารถบันทึกภาพขณะยานกลับสู่โลกเอาไว้ได้ด้วย
ลูกเรือทั้งสี่ได้ลงจอดบริเวณอ่านเม็กซิโก ทางตะวันตกของรัฐฟลอริดา และได้ถูกเก็บกู้ด้วยกองเรือของ SpaceX และทั้งสี่ก็ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์เดินทางกลับสู่แหลมคะเนอเวอรัลอย่างปลอดภัย
ตัวเลขอันเป็นบทสรุปที่น่าสนใจของภารกิจ Polaris Dawn นั้นก็ได้แก่ เป็นการทำ EVA ระยะเวลา 26 นาที (นับตั้งแต่การเปิดฝายาน ทำให้ตัวเลขของทุกคนในภารกิจแม้ว่าจะไม่ได้ยื่นตัวออกไปที่ Skywalker ก็จะนับว่าเป็นการทำ EVA ร่วมกันทั้งสี่คน) ที่วงโคจรสูงสุด 700 กิโลเมตร ในระหว่าง EVA และในวันแรกของภารกิจ มีการจุดเชื้อเพลิงเพื่อปรับวงโคจรไปที่ 1,400 กิโลเมตร ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดที่มนุษยชาติเคยเดินทางไปถึงหลังจากภารกิจ Apollo 17 ในปี 1972 และรวมระยะเวลาในอวกาศทั้งสิ้น 4 วัน 22 ชั่วโมงและ 13 นาที
สำหรับปรัชญาและความยากลำบากที่อยู่เบื้องหลังภารกิจประวัติศาสตร์นี้ชวนให้อ่านในบทความ กว่าจะเป็น Polaris Dawn ภารกิจ EVA โดยยานเอกชนครั้งแรกของโลก
เรียบเรียงโดย ทีมงาน Spaceth.co