SpaceX ทดสอบ Static Fire จรวด Super Heavy ที่ผ่านการลงจอดสำเร็จเป็นครั้งแรก

เมื่อคืนวันที่ 3 เมษายน 2025 ที่ผ่านมา SpaceX ประสบความสำเร็จในการทดสอบจุดเครื่องยนต์ หรือ Static Fire Test ของจรวด Super Heavy หมายเลข B14 ณ ฐานปล่อย Starbase รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญอีกครั้งของโครงการ Starship และถือเป็นสัญญาณเริ่มต้นของยุคใหม่ของจรวดขนาดใหญ่ที่สามารถนำกลับมาใช้งานซ้ำได้อย่างเต็มรูปแบบ

จรวด Super Heavy B14 ลำนี้ไม่ใช่จรวดใหม่ หากแต่เป็นจรวดลำเดียวกับที่เคยใช้ในเที่ยวบินทดสอบ Starship เที่ยวบินที่ 7 เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และยังเป็นลำที่สามารถลงจอดกลับมาได้อย่างปลอดภัย ซึ่งนับเป็นครั้งที่สามที่ SpaceX พิสูจน์ให้เห็นว่าระบบลงจอดของ Super Heavy เริ่มมีความเสถียรและพร้อมเข้าสู่การนำกลับมาใช้งานซ้ำในลักษณะเดียวกับที่เคยทำกับ Falcon 9 มาแล้วในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา อ่านข่าวการทดสอบเที่ยวบินที 7 ได้ใน สรุปเหตุการณ์ Starship เที่ยวบินทดสอบที่ 7 ระเบิดในวงโคจร หลังแยกตัวกับ Super Heavy

จรวด Super Heavy บนฐานปล่อย Orbital Launch Mount ใน Starbase ที่มา – SpaceX

การทดสอบ Static Fire คือการจุดเครื่องยนต์ของจรวดโดยที่ตัวยานยังคงยึดติดอยู่กับแท่นปล่อย จุดประสงค์หลักคือการตรวจสอบว่าเครื่องยนต์ทุกตัวทำงานได้อย่างถูกต้อง และไม่มีข้อผิดพลาดด้านโครงสร้าง ระบบควบคุม หรือเชื้อเพลิง การทดสอบครั้งนี้กินเวลาราว 10 วินาที และเป็นการจุดเครื่องยนต์ Raptor พร้อมกันถึง 29 ตัวจากทั้งหมด 33 ตัว ซึ่งในจำนวนนี้เป็นเครื่องยนต์ชุดเดียวกับที่เคยใช้บินมาแล้วในเที่ยวบินที่ 7 สามารถชมวิดีโอการทดสอบได้ทาง บัญชี X ของ SpaceX

บรรยากาศในขณะการทดสอบจุดเครื่องยนต์ 10 วินาที ที่มา – SpaceX

การที่ SpaceX สามารถจุดเครื่องยนต์เดิมเหล่านี้ได้อีกครั้ง โดยไม่มีความเสียหายจากเที่ยวบินก่อนหน้า แสดงให้เห็นถึงศักยภาพด้านการออกแบบของระบบขับดัน อย่างเครื่องยนต์ Raptor และโครงสร้างของ Super Heavy ซึ่งถูกวางเป้าหมายให้สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้หลายครั้ง

ก่อนหน้านี้ SpaceX ได้เคยเอาเครื่องยนต์ Raptor Engine ที่ถอดออกมาจาก Super Heavy หมายเลข 12 จากการทดสอบ Starship เที่ยวบินที่ 5 ที่ประสบความสำเร็จในการลงจอดในเดือนตุลาคม 2024 มาบินซ้ำจำนวน 1 เครื่องยนต์ในเที่ยวบินที่ 7 แล้ว ดังนั้น การเอา Super Heavy ทั้งลำมาทดสอบ Static Fire จึงนับว่าเป็นอีกก้าวที่สำคัญมาก ๆ

ย้อนกลับไปในปี 2015 SpaceX เคยสร้างประวัติศาสตร์มาแล้วครั้งหนึ่ง ด้วยการนำ Falcon 9 หมายเลข B1019 ลงจอดกลับสู่พื้นโลกในภารกิจ Orbcomm OG-2 และต่อมาได้ทำการทดสอบ Static Fire กับลำนั้นอีกครั้ง เพื่อพิสูจน์ว่าสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้จริง วันนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นกับ Super Heavy B14 คือการเดินตามรอยก้าวเดียวกันนั้น แต่ในระดับที่ใหญ่ขึ้น ซับซ้อนขึ้น และมีความทะเยอทะยานมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า

Super Heavy หมายเลข B14 ที่ลงจอดในเที่ยวบินทดสอบในเดือนมกราคม 2025 ที่ผ่านมา ที่มา – SpaceX

Super Heavy เป็นหัวใจหลักของระบบ Starship ซึ่ง SpaceX ตั้งเป้าให้เป็นระบบการขนส่งขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับภารกิจทั้งในระดับวงโคจรต่ำ LEO ไปจนถึงการเดินทางสู่ดวงจันทร์และดาวอังคาร ระบบนี้ถูกออกแบบให้ใช้งานซ้ำได้ทั้ง Starship และชั้นล่าง Super Heavy และยังเป็นความหวังของโครงการ Artemis ในการนำนักบินอวกาศลงสู่พื้นผิวดวงจันทร์

การทดสอบ Static Fire ครั้งนี้นับเป็นสัญญาณชัดเจนว่า SpaceX พร้อมเดินหน้าเข้าสู่ยุคของการนำ Super Heavy กลับมาใช้งานซ้ำอย่างจริงจัง โดยหากทุกอย่างเป็นไปตามแผน เราอาจได้เห็นเที่ยวบินที่ 8 ของ Starship ใช้ B14 อีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ ข่าวดีเกี่ยวกับ Starship ล่าสุดนี้ ก็คือ NASA ได้เลือกให้ Starship และ Super Heavy กลายเป็นจรวดในโครงการ Launch Services Program ที่ให้ NASA สามารถฝากเอายานอวกาศและ Payload ต่าง ๆ เดินทางไปกับยานสู่อวกาศได้ ตามข่าว NASA เลือก Starship ให้เข้ามาอยู่ในแคตาล็อก Launch Services Program แล้ว

เรียบเรียงโดย ทีมงาน Spaceth.co

Technologist, Journalist, Designer, Developer, I believe in anti-disciplinary. Proud to a small footprint in the universe. For Carl Sagan.