นักดูดาวมือใหม่ ที่อยากจะหาตำแหน่งดาวเคราะห์ว่าอยู่ตำแหน่งไหนบนท้องฟ้า ซึ่งมักจะใช้กลุ่มดาวจักรราศีเป็นจุดอ้างอิง แต่ในบางครั้งเราอาจจะเจอกลุ่มดาวแปลก ๆ โผล่มา เช่น “ดาวอังคารอยู่ในกลุ่มดาวคนแบกงู” ถ้าหากเราท่องชื่อจักรราศีทั้ง 12 ตั้งแต่ราศีเมษ-แกะ, ราศีพฤษภ-วัว ไปจนถึงราศีสุดท้าย ราศีมีน-ปลา มันไม่มีราศีไหนที่มีสัญลักษณ์เป็นคนแบกงูเลย แล้วมันโผล่มาได้ยังไง
จะบอกว่าจักรราศีที่ท่องกันน่ะ คือจักรราศีในทางโหราศาสตร์ ใช้สำหรับดูดวง ซึ่งมี 12 ราศีน่ะถูกแล้ว แต่จักรราศีในทางดาราศาสตร์น่ะ มี 13 กลุ่มดาว และรวมถึงกลุ่มดาวคนแบกงู (Ophiuchus) ในนั้นด้วย งงอ่ะเด้
จักรราศีคืออะไร?
จักรราศีในทางดาราศาสตร์ คือกลุ่มดาวที่เส้นสุริยวิถี (Ecliptic) พาดผ่าน อธิบายคือกลุ่มดาวที่ดวงอาทิตย์เคลื่อนที่ผ่านจนครบรอบ 1 ปี และสำหรับดาวเคราะห์ที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ ย่อมเคลื่อนที่ตามเส้นสุริยวิถีด้วย นักดูดาวจึงใช้กลุ่มดาวจักรราศีเป็นหลักในการดูดาวเคราะห์นั่นเอง
ในสมัยก่อนวิชาดาราศาสตร์กับโหราศาสตร์ยังไม่แยกจากกันชัดเจน คนโบราณจับเอากลุ่มดาวที่เห็นได้ชัดบนท้องฟ้ามาแบ่งเป็น 12 กลุ่มดาวเป็นหลักการแบ่งท้องฟ้า คือให้พื้นที่แต่ละกลุ่มดาวครอบคลุมพื้นที่ 30 องศา ทำให้ดวงอาทิตย์อยู่ในแต่ละกลุ่มดาวนานประมาณ 30 วันเท่าๆ กัน ทุกอย่างดูลงตัว เพราะเมื่อรวม 12 กลุ่มดาวแล้วก็จะมีพื้นที่ครบ 360 องศา และ 365 วันใน 1 ปี
คนแบกงูเข้ามาแจมตอนไหน?
เรียกได้ว่าตั้งแต่โบราณ เขานับจักรราศีแค่ 12 กลุ่มดาวมาโดยตลอด ขณะที่กลุ่มดาวคนแบกงู ก็เป็นกลุ่มดาวอื่นๆ บนท้องฟ้าที่รู้จักกันตั้งแต่สมัยบาบิโลน, กรีกโบราณ และได้คัดเลือกเป็นหนึ่งในเมมเบอร์ของ PTM48 เอ๊ย 48 กลุ่มดาวของปโตเลมีตั้งแต่ศตวรรษที่ 2 เลย เรียกได้ว่ามันเองก็ไม่ใช่กลุ่มดาวที่จืดจางจนถูกลืม และกลุ่มดาวทั้ง 12 ราศีก็เป็นเลขลงตัวอยู่แล้ว ดูๆ ไปมันก็ไม่มีปัญหาอะไรเลยนิน่า
จนกระทั่งในปี 1930 สหพันธ์ดาราศาสตร์สากล International Astronomical Union ได้กำหนดขอบเขตกลุ่มดาวทั้ง 88 กลุ่ม ที่ใช้เป็นมาตรฐานจวบจนปัจจุบันขึ้น และเขตแดนของกลุ่มดาวนี้เอง ทำให้พื้นที่ของกลุ่มดาวคนแบกงูบางส่วนอยู่ในแนวเส้นสุริยวิถีด้วย และปัญหาเรื่องจักรราศีก็เป็นประเด็นถกเถียงขึ้นจนถึงทุกวันนี้ มีทั้งฝ่ายที่ควรจะเอาคนแบกงูเข้าไปเป็นจักรราศีที่ 13 และฝ่ายที่ควรให้จักรราศีมีเพียง 12 กลุ่มดาวก็พอ
นอกจากนี้ การแบ่งเขตกลุ่มดาวยังทำให้ดวงอาทิตย์อยู่ในกลุ่มดาวจักรราศีมากน้อยต่างกัน ตามความกว้างของกลุ่มดาวอีกต่างหาก โดยดวงอาทิตย์จะอยู่ในกลุ่มดาวหญิงสาวนานที่สุดคือ 45 วัน (16 กันยายน-30 ตุลาคม) และอยู่ในกลุ่มดาวแมงป่องสั้นที่สุดคือ 7 วัน (23-29 พฤศจิกายน)
คนแบกงูอยู่ที่ไหนบนท้องฟ้าล่ะ
กลุ่มดาวคนแบกงูอยู่ระหว่างกลุ่มดาวแมงป่อง (Scorpius) และกลุ่มดาวคนยิงธนู (Sagittarius) ภายหลังขีดเส้นแบ่งเขตกลุ่มดาวในปี 1930 ทำให้ดวงอาทิตย์เข้ามาอยู่ในกลุ่มดาวนี้นาน 18 วัน ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 17 ธันวาคม
แต่กลุ่มดาวนี้นับว่าอาภัพนัก เพราะเส้นสุริยวิถีดันไปพาดผ่านส่วนล่างของกลุ่มดาว ต่างจากกลุ่มดาวจักรราศีอื่นที่เส้นสุริยวิถีพาดผ่านกลางกลุ่มดาว นอกจากนี้คนแบกงูเองก็ไม่ค่อยจะมีความสว่างด้วย ดาวสว่างที่สุดคือ Rasalhague ยังสว่างแค่ 2.08 และเมื่อเทียบกับกลุ่มดาวแมงป่องที่ดาวสว่างที่สุดคือ Antares สว่างถึง 0.96 (ยิ่งเลขน้อยยิ่งสว่างมาก) แถมยังมีอีก 2 ดวงที่สว่างต่ำกว่า 2.00 ทำให้กลุ่มดาวแมงป่องเป็นที่รู้จักมากกว่าคนแบกงูมากกกกกก และได้รับการคัดเลือกเป็น 1 ใน 12 เซมบัตสึในซิงเกิล Kimi wa Zodiac แทน
ชีวิตจริงก็อย่างงี้ เกิดมาไม่สวย ไม่รวย ต่อให้พยายามมากแค่ไหนคนก็ไม่จดจำ กลุ่มดาวก็เช่นกัน เรามักจะรู้จักกลุ่มดาวที่มีดาวสว่าง ๆ อย่างนายพราน, หมีใหญ่, สิงโต, นกอินทรี, พิณ มากกว่ากลุ่มดาวชื่อแปลก ๆ อย่าง ยีราฟ, ปลาโลมา, โล่, ภูเขาโต๊ะ, ยูนิคอร์น และสำหรับนักดูดาวก็มักจะโอชิกลุ่มแรกมากกว่า เพราะมันเห็นง่ายกว่า ออร่าแรงกว่าไง
คนแบกงูมีตำนานของตัวเองมั้ย?
ถ้าพูดถึงกลุ่มดาวแล้วไม่เล่าเรื่องตำนานที่เกี่ยวข้องด้วยก็ดูจะขาดอะไรไป และคนแบกงูเองก็มีเรื่องเล่าในเทพปกรณัมกรีกด้วย คนแบกงูตามตำนานกรีก มีชื่อว่า Asclepius (อัสคลีปิอุส) เป็นบุตรของอพอลโล เขาได้เรียนรู้วิชาการแพทย์จากเซนทอร์ (คนครึ่งม้า) นาม Chiron และรักษาคนที่เจ็บป่วยให้หายได้ วันหนึ่งขณะที่เขากำลังรักษาคนอยู่ มีงูมาเลื้อยบนคทา เขาเลยฆ่าทิ้งไปซะ เกะกะการทำงาน แต่อยู่ดีๆ มีงูอีกตัวคาบสมุนไพรมาและชุบชีวิตงูที่ตายได้เฉย อัสคลีปิอุสจึงนำสมุนไพรนั้นมารักษารวมทั้งชุบชีวิตคนจากความตายได้จำนวนมาก
พลังในการรักษาของอัสคลีปิอุส สร้างความเดือดร้อนให้เทพแห่งยมโลกอย่างฮาเดส (โรมันเรียกพลูโต) เพราะหน้าที่เขาคือต้อนรับดวงวิญญาณคนตาย แต่พอไม่มีใครตาย ฮาเดสก็ตกงานสิ เห็นดังนั้นจึงร้องไปถึงเทพสูงสุดอย่างซุสให้ฆ่าไอ้นี่ซะ ไม่งั้นคนเกิดกันรกโลกกันพอดี ซุสเลยจัดให้ ปล่อยไฟฟ้าแสนโวลต์ช็อตอัสคลีปิอุสจนตายคาที่ (นึกถึง Mercy ในเกม Overwatch ก็ได้ สกิลฮีลและชุบชีวิตของนางโหดมากจนถูกเนิฟแล้วเนิฟอีกนั่นแหละ) แต่คุณความดีของอัสคลีปิอุสที่ทำไว้กับมนุษย์นั้น ซุสจึงตอบแทนเขาด้วยการนำร่างของเขาไปประดับบนฟ้าในกลุ่มดาวคนแบกงู เฉกเช่นฮีโร่คนอื่นๆ ที่ได้เป็นชื่อกลุ่มดาวอย่าง Hercules, Cassiopeia, Perseus
ด้วยพลังรักษาของอัสคลีปิอุส ทำให้สัญลักษณ์งูพันคทาหรือ Rod of Asclepius จึงเป็นที่แพร่หลายในองค์กรทางการแพทย์ เช่นธงขององค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสัญลักษณ์ดาวแห่งชีวิต (Star of Life) ที่เป็นสัญลักษณ์ของหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน
อย่าสับสนกับจักรราศีทางโหราศาสตร์
แม้ว่าคนแบกงูจะเป็นสมาชิกจักรราศีแล้ว แต่เป็นเพียงในสำนักดาราศาสตร์เท่านั้น ซึ่งมีหลัก, นิยามและขอบเขตที่แน่นอน แต่สำหรับสำนักโหราศาสตร์แล้ว ปล่อยให้มี 12 ราศีเหมือนเดิมเถอะ เอาแค่นี้ทางโหราศาสตร์ก็ยังมีนับราศี 2 แบบให้งงเล่นเลย แบบ Tropical ที่นิยมใช้ในประเทศตะวันตกและจีน กับแบบ Sidereal นิยมใช้ในไทยและอินเดีย ถ้ามี 13 ราศีคงปวดหัวพิลึก
เพราะฉะนั้น อย่าเอาดาราศาสตร์ Astronomy มาปนกับโหราศาสตร์ Astrology นะเห้ย แค่จุดมุ่งหมายของทั้งคู่ก็ไปคนละทางแล้ว ดาราศาสตร์มุ่งศึกษาวัตถุท้องฟ้าด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ แต่โหราศาสตร์คือเน้นทำนายดวงชะตาชีวิตคนโดยใช้กลุ่มดาวเป็นเครื่องมือ แต่ไม่มีหลักการวิทยาศาสตร์รองรับใด ๆ ทั้งสิ้น
อย่าลืมว่าดวงดาวราศีไม่ได้กำหนดชีวิตคุณ แต่คุณต่างหากที่กำหนดชีวิตของตัวเอง เพราะพี่ตูนกล่าวไว้ว่า “ชีวิตจะเป็นแบบไหน คงต้องเลือกเอา … ก็ชีวิตมันเป็นของเรา”
อ้างอิง
Constellation | Constellation guide