ส่องร่างงบ NASA และ NOAA ปี 2026 ตัดงบกว่าครึ่ง เสี่ยงยุบกล้อง Nancy Roman และ Mars Sample Return 

รายงานล่าสุดอ้างอิงจากเว็บไซต์ Science ในบทความ Trump seeks to end climate research at premier U.S. climate agency และ Trump White House budget proposal eviscerates science funding at NASA จาก Ars Technica เผยให้เห็นแผนการของรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของอดีตประธานาธิบดี Donald Trump ที่เตรียมเสนอให้ “ยุติ” งบประมาณเกือบทั้งหมดของงานวิจัยด้านภูมิอากาศของหน่วยงาน NOAA หรือองค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ พร้อมกับลดงบของภารกิจวิทยาศาสตร์ใน NASA ลงอย่างรุนแรง ซึ่งหากข้อเสนอนี้ผ่านสภาคองเกรสจริง จะถือเป็นการเปลี่ยนทิศทางการวิจัยด้านสิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ ที่ถือว่าน่าเกลียดที่สุดที่เราเคยเห็นมาในประวัติศาสตร์

หลังจากนั้นเราได้เห็นเว็บสายวิทยาศาสตร์และอวกาศกระหน่ำลงข่าวกรณีดังกล่าวนี้ อย่างเช่นใน Trump administration could slash NASA science budget by 50%, reports suggest และ White House proposal would slash NASA science budget and cancel major missions

ภดาวเทียมตระกูล GOES ของ NOAA ที่เก็บข้อมูลโลกมหาศาล ที่มา – NASA/Ben Smegelsky

ตามเอกสารร่างงบประมาณปี 2026 หน่วยงานวิจัยหลักของ NOAA อย่าง Office of Oceanic and Atmospheric Research (OAR) ซึ่งเป็นแหล่งรวมของข้อมูลสำคัญด้านภูมิอากาศจะถูกลดงบประมาณลงจากเดิมราว 485 ล้านดอลลาร์ เหลือเพียง 171 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเท่ากับ “ปิดสายงานทั้งหมดของ OAR” ตามถ้อยคำในเอกสารต้นฉบับ นอกจากนี้ยังจะยกเลิกห้องปฏิบัติการวิจัยอากาศและมหาสมุทรกว่า 10 แห่งทั่วประเทศ ตัดงบทุนวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัย และยุติโครงการที่เก็บข้อมูลภูมิภาคซึ่งเกษตรกรและภาคอุตสาหกรรมใช้ประโยชน์อยู่ในปัจจุบัน

Craig McLean อดีตผู้อำนวยการ OAR ให้สัมภาษณ์กับ Science ว่า ถ้าแผนนี้ผ่าน “มันจะไม่ใช่แค่ทำให้ศูนย์วิจัยพิการ แต่มันคือการปิดมันไปเลย” และเขาเปรียบว่าผลกระทบของมันจะทำให้สหรัฐฯ ถอยหลังกลับไปอยู่ในระดับเดียวกับยุค 1950 ก่อนที่แบบจำลองภูมิอากาศสมัยใหม่จะถือกำเนิดขึ้นเสียอีก

ขณะเดียวกัน Eric Berger นักข่าวสายอวกาศแห่ง Ars Technica รายงานว่างบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ของ NASA ก็อยู่ภายใต้ข้อเสนอให้ตัดลดลงจาก 7.6 พันล้านดอลลาร์ เหลือเพียง 3.9 พันล้านดอลลาร์ โดยแผนนี้รวมถึงการตัดงบมากกว่าครึ่งของฝั่ง Earth Science ซึ่งเป็นแผนกที่ดูแลระบบดาวเทียมที่ใช้เฝ้าสังเกตโลกจากอวกาศ และยังรวมถึงการยุติโครงการใหญ่อย่าง Mars Sample Return, ภารกิจ DAVINCI ไปดาวศุกร์ และกล้องโทรทรรศน์อวกาศ Nancy Grace Roman ที่ใกล้จะสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว

ซึ่งรายงานได้อ้างอิงถึงการ ตัดงบ Astrophysics ลง 2 ใน 3 เหลือ 487 ล้านดอลลาร์ (กระทบกล้อง Roman) ตัดงบ Heliophysics ลงมากกว่า 2 ใน 3 เหลือ 455 ล้านดอลลาร์ ส่วนงาน Earth Science ถูกลดงบกว่า 50% เหลือ 1 พันล้านดอลลาร์ และ Planetary Science ลดลงประมาณ 30% เหลือ 1.9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งตัดขนาดนี้ Berger บอกว่าแทบจะเป็นการปิด Goddard Space Flight Center ไปเลย

อ่านข่าวความคืบหน้าล่าสุดของภารกิจเหล่านี่ได้ใน NASA อัพเดท Mars Sample Return ศึกษาสองความเป็นไปได้ ไม่ใช้ JPL ก็ใช้เอกชน หรือภารกิจการเดินทางไปดาวศุกร์ DAVINCI+ และ VERITAS สองภารกิจสำรวจดาวศุกร์ในรอบ 30 ปี ของ NASA และ Nancy Grace Roman Space Telescope นักล่า Exoplanet ที่กำลังจะถูกปล่อย

บรรยากาศการสร้างกล้องโทรทรรศน์อวกาศ Nancy Grace Roman ที่จะปล่อยในช่วงปี 2026 ที่มา – Goddard Space Flight Center

สิ่งที่น่าจับตาเป็นพิเศษคือ โครงการดาวเทียม Earth-Observing หลายดวงของ NASA และ NOAA โดยเฉพาะตระกูล GOES ซึ่งเราเคยเล่าไปในบทความ ทำความรู้จัก GOES-U โคตรดาวเทียมตรวจอากาศขนาดเท่าบ้านของ NOAA อาจถูกปรับให้ “ส่งข้อมูลเฉพาะสภาพอากาศ” แทนที่จะติดตามมลภาวะหรือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และอุปกรณ์สำคัญอย่าง Lightning mapper หรือ Infrared Sounder ที่ช่วยคาดการณ์พายุล่วงหน้า ก็อาจไม่ได้ขึ้นสู่วงโคจรในรุ่นถัดไป

แม้ข้อเสนอทั้งหมดนี้ยังอยู่ในช่วงแรกของกระบวนการงบประมาณ และจะต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสก่อน แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สะท้อนถึงจุดยืนของรัฐบาลทรัมป์ที่มีต่อการวิจัยภูมิอากาศที่อาจกระทบต่อผลประโยชน์ทางการเมือง ข้อมูลจาก NOAA และ NASA ที่ใช้เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบของภาวะโลกร้อนนั้นมักเป็นฐานของข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อแก้ปัญหา Climate Change และนั่นอาจไม่ใช่สิ่งที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมอยากได้ยิน

เรามองว่าข้อเสนอที่เกิดขึ้นนี้ไม่เพียงแต่เป็นการลดงบ แต่มันคือความพยายาม “ลบงานวิทยาศาสตร์บางด้านออกไปจากระบบราชการของรัฐบาลกลาง” และหากดำเนินการสำเร็จ จะเป็นการลดทอนความสามารถของสหรัฐฯ ในการติดตามสภาพแวดล้อมโลก ซึ่งเป็นบทบาทที่ประเทศเคยเป็นผู้นำมาโดยตลอด

ยานอวกาศ PACE ของ NASA ที่ใช้ศึกษามหาสมุทร ที่เพิ่งถูกปล่อยไปในปี 2024 ที่ผ่านมา ที่มา – NASA/Ben Smegelsky

สิ่งที่สำคัญในตอนนี้คือการไม่ตื่นตระหนกเกินไป เพราะกระบวนการงบประมาณของสหรัฐฯ ยังต้องผ่านหลายขั้นตอน และการเสนอโดยทำเนียบขาวไม่ได้หมายความว่างบจะถูกตัดจริง 100% แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ควรมองข้าม เพราะมันสะท้อนแนวโน้มที่อาจส่งผลต่อการตัดสินใจเชิงนโยบายในอนาคต

แม้ร่างงบประมาณของ NASA จะถูกเสนอให้ตัดลดอย่างหนักในแผนนี้ แต่หน่วยงานก็ยังมีสิทธิเสนอ “งบประมาณที่ประธานาธิบดีไม่ได้อนุมัติ” หรือ Unfunded Priority List ซึ่งเป็นกลไกที่ NASA สามารถส่งรายการโครงการที่เห็นว่ายังจำเป็นต่อภารกิจหลักขององค์กร ไปยังสภาคองเกรสได้โดยตรง กลไกนี้มักใช้ในกรณีที่ทำเนียบขาวไม่ให้ไฟเขียวบางรายการ แต่ NASA ต้องการรักษาโครงการนั้นไว้ เพราะมีความสำคัญในเชิงวิทยาศาสตร์หรือยุทธศาสตร์ เช่น กล้องโทรทรรศน์ Nancy Grace Roman หรือโครงการสำรวจดาวศุกร์อย่าง VERITAS ที่เคยถูกชะลอไปก่อนหน้านี้ ก็อาจถูกรวมอยู่ในรายการนี้เพื่อขอรับการสนับสนุนโดยตรงจากฝ่ายนิติบัญญัติ เรียกได้ว่าเป็นโจทย์ยากของผู้อำนวยการ NASA คนใหม่ ที่ ณ ตอนนี้มีแคนดิเดตอย่าง Jared Isaacman ที่เพิ่งผ่านการฟังความเห็นจากวุฒิสมาชิก ซึ่งเรารายงานไปในบทความ อเมริกาไม่สามารถแพ้จีนได้ สรุปใจความการฟังความเห็น Jared Isaacman ก่อนเป็นผู้อำนวยการ NASA

ข้อมูลจาก NOAA และ NASA ไม่ได้เป็นแค่ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ แต่เป็นรากฐานของระบบเตือนภัยพิบัติ การวางแผนด้านเกษตรกรรม การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และการออกนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลก การรักษาความต่อเนื่องของข้อมูลเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องของนักวิทยาศาสตร์เท่านั้น แต่เป็นเรื่องของความมั่นคงและความปลอดภัยของผู้คนด้วย

เรียบเรียงโดย ทีมงาน Spaceth.co

Technologist, Journalist, Designer, Developer, I believe in anti-disciplinary. Proud to a small footprint in the universe. For Carl Sagan.