“สวัสดีค่ะ สหายในธรณีโพ้น พวกเราในธรณีนี้ขอส่งมิตรจิตมาถึงท่านทุกคน”
คำพูดของผู้หญิงไทยคนนี้ถูกบันทึกลงแผ่นบันทึกทองคำ Golden Record ที่ได้ถูกส่งไปพร้อมกับยานวอยาเจอร์ทั้งสองเมื่อ ค.ศ. 1977 ในขณะที่ยานอวกาศทั้งสองลำกำลังเดินทางออกนอกระบบสุริยะของเราด้วยความเร็วกว่า 17 กิโลเมตรต่อวินาที ถอยห่างจากความอบอุ่นของดวงอาทิตย์สู่ห้วงอวกาศระหว่างดวงดาว Interstellar Space
อ่านเรื่องราวของยานวอยาเจอร์เพิ่มเติมได้ที่ – ยานวอยาเจอร์ สองฝาแฝดนักท่องจักรวาล
บันทึกทองคำ The Golden Record
ย้อนกลับไปปลายปี ค.ศ. 1976 ใน เว็บไซต์ของ JPL ได้บอกว่า ก่อนการปล่อยยานวอยาเจอร์ที่จะเดินไปทางไปสำรวจระบบสุริยะชั้นนอกเพียง 9 เดือน NASA ขอให้ คาร์ล เซแกน Carl Sagan จัดทำข้อความบางอย่างถึงอารยธรรมต่างดาวเป็นการส่วนตัว ซึ่งในขณะนั้นเขาดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการศูนย์รังสีฟิสิกส์และการวิจัยอวกาศ มหาวิทยาลัย Cornell ภายหลังหนึ่งในสมาชิกที่ร่วมโครงการนี้บรรยายว่าการทำบันทึกทองคำนั้นเป็นเรื่องที่ “ฉุกละหุก”
ต่อมาทีมของ Carl Sagan ได้ข้อสรุปว่าสารที่จะส่งถึงสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญานอกโลกนั้นจะอยู่ในรูปของแผ่นบันทึกทองคำที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 30 เซนติเมตร เคลือบด้วยอลูมิเนียมพร้อมสารประกอบไอโซโทปของ ยูเรเนียม-238 ที่มีครึ่งชีวิต 4,468 ล้านปี อีกทั้งยังมีการแกะสลักภาพสัญลักษณ์ที่บอกวิธีการเล่นแผ่นเสียงอย่างถูกต้องโดยใช้สัญลักษณ์ของอะตอมไฮโดรเจนเป็นตัวตั้งต้น ถ้าหากมีสิ่งมีชีวิตจากที่ไหนสักแห่งได้ค้นพบแผ่นบันทึกทองคำนี้จะสามารถตรวจสอบอายุของมันได้และเรียนรู้วิธีที่จะถอดรหัสความเร็วในการหมุนของแผ่นอย่างถูกต้องเพื่อที่จะเข้าถึงข้อมูลภายในบันทึก
ส่วนข้อมูลที่ถูกบันทึกลงไปในแผ่นบันทึกทองคำนั้นถุกแบ่งออกเป็นสองด้าน ด้านแรกจะเป็นเสียงสัญญาณที่สามารถถอดรหัสออกมาเป็นรูปภาพกว่า 116 รูป ซึ่งมีรูปของประเทศไทย ถ่ายที่เชิงสะพานพุทธในช่วงเช้าของทศวรรษที่ 1970 บรรจุอยู่ด้วย โดย Carl Sagan มีเงื่อนไขในการคัดเลือกรูปว่าจะต้องไม่สะท้อนให้เห็นภาพถึง สงคราม ศาสนา ความอดอยาก และโรคระบาด
ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นเสียงความยาว 90 นาที ประกอบด้วยเสียงธรรมชาติของโลกไม่ว่าจะเป็น เสียงลม ฟ้าร้อง นกร้อง คลื่นในทะเล เสียงของวาฬที่กำลังแหวกว่ายในมหาสมุทร เหล่าสรรพสัตว์บนผืนทวีป เสียงดนตรีจากทั่วทุกมุมโลก และที่สำคัญที่สุดคือเสียงคำทักทายของมนุษย์ เผ่าพันธุ์ของเราบนดาวเคราะห์สีน้ำเงินดวงนี้ทั้งหมด 55 ภาษา ซึ่งหนึ่งในนั้นมีเสียงของหญิงไทยคนหนึ่งกล่าวว่า
“สวัสดีค่ะ สหายในธรณีโพ้น พวกเราในธรณีนี้ขอส่งมิตรจิตมาถึงท่านทุกคน”
ในเครดิตของ NASA ระบุชื่อของผู้หญิงคนนี้ไว้ว่า คุณรุจิรา เมนดิโอเนส Ruchira Mendiones เธอเป็นศาสตราจารย์สอนภาษาไทย ในสาขาวิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัย Cornell สถานที่เดียวกับที่ Carl Sagan ทำงานอยู่ในขณะนั้น
ปัจจุบันเราแทบจะไม่รู้เรื่องราวของ คุณรุจิรา มากเท่าใดนัก อ้างอิงจากข้อมูลที่เหลืออยู่ระบุว่าไว้ว่า เธอเกิดเมื่อปี ค.ศ. 1918 เป็นนิสิตอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รุ่นที่ 8 ภายหลังแต่งงานกับสามีชาวฟิลิปปินส์ก่อนที่จะย้ายไปอยู่ รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งหมายความว่าในขณะที่เธออัดเสียงลงบนแผ่นบันทึกทองคำให้กับ Carl Sagan นั้นเธอมีอายุ 59 ปีแล้ว
นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1977 เสียงของเธอที่อยู่ในบันทึกทองคำได้ถูกส่งออกสู่ห้วงอวกาศไปพร้อมกับยานวอยาเจอร์ จนเมื่อปี ค.ศ. 2012 ที่ผ่านมายานวอยาเจอร์ได้เดินทางออกจากนอกระบบสุริยะไปตลอดกาลสู่ช่องว่างอวกาศระหว่างดวงดาว ในสภาวะสุญญากาศของอวกาศนั้นไร้ซึ่งลมหรือของเหลวใด ๆ ที่จะมากัดเซาะหรือสร้างความเสียหายให้กับตัวยานวอยาเจอร์และบันทึกทองคำได้ ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่บันทึกทองคำจะอยู่รอดในอวกาศเป็นเวลาหลายพันล้านปี
อ่านเรื่องราวของอวกาศระหว่างดวงดาวเพิ่มเติมได้ที่ รู้ได้อย่างไรว่า Voyager 2 ออกนอกระบบสุริยะแล้ว บทเรียนจากการเดินทางที่ไร้จุดหมาย
จนถึงตอนนั้นในอนาคตห่างไกล ดวงทิตย์จะวิวัฒนาการขยายตัวใหญ่ขึ้นเฉกเช่นเดียวกับดาวฤกษ์ทุกดวง จนกลืนกินวงโคจรของดาวเคราะห์ที่อยู่ใกล้มันทั้งหมด โลกจะถูกเผาไหม้เป็นธุลี บันทึกทองคำอาจจะเป็นหลักฐานชิ้นสุดท้ายที่บ่งบองถึงการมีอยู่ของมนุษยชาติว่าครั้งหนึ่งเผ่าพันธุ์ของเราเคยอาศัยอยู่บนดาวเคราะห์สีน้ำเงินอันห่างไกลดวงหนึ่งที่มีชื่อว่าโลก
ทิศทางที่ยานวอยเอเจอร์เดินทางไปนั้นเป็นเรื่องยากที่ยานจะมีโอกาสเข้าไปใกล้ดาวเคราะห์ที่อาจมีสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญา ดังนั้นสิ่งมีชีวิตอื่นต้องเป็นฝ่ายค้นพบยานวอยาเจอร์เสียเอง และเมื่อพวกเขาถอดรหัสการเล่นแผ่นบันทึกทองคำได้ พวกเขาจะได้ยินเสียงของคุณรุจิรา ทักทายพวกเขาเป็นภาษาไทยว่า “สวัสดีสหายในธรณีโพ้น…”
เรียบเรียงโดย ทีมงาน Spaceth.co