6 มิถุนายน 2025 ยาน Haktuto-R ที่มีเป้าหมายในการเดินทางไปลงจอดบนดวงจันทร์ ควรจะประสบความสำเร็จตามแผนการลุกขึ้นมาใหม่ “Resilience” หลังจากที่ในปี 2023 ยานรุ่นเดียวกันนี้ได้ตกกระแทกพื้นดวงจันทร์และยังไม่ประสบความสำเร็จในการลงจอดเช่นกัน
หลังจากที่เราได้รายงานไปก่อนหน้านี้ในบทความ Hakuto-R ภารกิจที่สอง เตรียมลงจอดวงจันทร์อีกครั้งในปี 2025 แสดงถึงความพยายามของบริษัทเอกชนสัญชาติญี่ปุ่นรายนี้กับแนวคิด “Never Quiz the Lunar Quest” หลังจากตั้งตัวใหม่กว่าสองปี เราก็ได้เห็น Hakuto-R ใน Mission ที่ 2 บินขึ้นพร้อมกับยาน Blue Ghost ของ Firefly Aerospace ในเดือนมกราคม 2025 Blue Ghost และ Hakuto-R เปิดฉากเดินทางสู่ดวงจันทร์
เที่ยวบินดังกล่าวควรจะเป็นเที่ยวบินนำโชค เพราะ Blue Ghost ได้ประสบความสำเร็จ กลายเป็นยานเอกชนลำแรกที่ลจอดบนดวงจันทร์ ในช่วงเวลาไม่กี่สัปดาห์หลังจากการปล่อย ในขณะที่ Hakuto-R ใช้วงโคจรที่ต่างออกไป ในการทำ Low Thrust Optimization หรือการค่อย ๆ ปรับวงโคจรไปเรื่อย ๆ เพื่อประหยัดเชื้อเพลิงให้ได้มากที่สุด จนตัวยานสามารถเข้าสู่วงโคจรของดวงจันทร์ได้ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2025 ที่ผ่านมา

ในการวางแผนภารกิจครั้งนี้ ispace ได้หั่นช่วงความสำเร็จออกเป็นหลาย ๆ ส่วน และได้ประกาศความสำเร็จในแต่ละช่วงมาเรื่อย ๆ แต่ก็แน่นอนว่าความท้าทายที่สุดก็คือการลงสัมผัสผิวดวงจันทร์อย่างปลอดภัย ในระหว่างการเตรียมตัวนั้นยาน Hakuto-R ลำนี้ก็ได้ถ่ายภาพดวงจันทร์ส่งกลับโลกมาเป็นระยะ ๆ และสุดท้ายยาน Hakuto-R ก็ได้กำหนดลงจอดบนดวงจันทร์ในวันที่ 6 มิถุนายน 2025 ท่ามกลางสายตาทั่วโลกจับต้อง ว่าในรอบนี้ ispace จะประสบความสำเร็จหรือไม่
ลำดับเหตุการณ์ในห้องควบคุม ที่ไร้คำตอบชัดเจน
เวลาตีสามสิบสามนาทีตามเวลาญี่ปุ่น วิศวกรในห้อง Mission Control ของ ispace ที่ย่านนิฮอนบาชิ กรุงโตเกียว ส่งคำสั่งเริ่มกระบวนการลงจอดให้กับยาน Resilience ที่ขณะนั้นโคจรอยู่เหนือพื้นผิวดวงจันทร์ราว 100 กิโลเมตร ยานเริ่มลดระดับลงมาเรื่อย ๆ และเมื่อถึงระยะประมาณ 20 กิโลเมตร เครื่องยนต์หลักถูกจุดระเบิดเพื่อลดความเร็วตามแผน และทุกอย่างดูเหมือนกำลังไปได้ดี
แต่ไม่นานหลังจากนั้น สัญญาณ Telemetry จากตัวยานเริ่มแสดงพฤติกรรมผิดปกติ ก่อนจะขาดหายไปโดยสมบูรณ์ ไม่มีข้อมูลใดยืนยันว่าตัวยานลงจอดได้อย่างปลอดภัย และเมื่อเวลาที่กำหนดให้ยานแตะพื้นผ่านไป ความเงียบก็เริ่มหนักขึ้นในห้องควบคุมข้อมูลจากเซนเซอร์บ่งชี้ว่าเครื่องเลเซอร์วัดระยะทางของยานเกิดความล่าช้าในการประมวลผล ทำให้ระบบไม่สามารถคำนวณความเร็วเพื่อลดระดับได้ทัน ส่งผลให้ Resilience พุ่งชนพื้นผิวดวงจันทร์โดยที่ยังเร็วเกินไป และไม่สามารถเอาชีวิตรอดจากแรงกระแทกนั้นได้
ในรายงานเรื่อง Status Update on ispace Mission 2 SMBC x Hakuto-R Venture Moon ที่ออกมาหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง ระบุว่า หลังจากการติดต่อขาดหาย วิศวกรพยายามส่งคำสั่งให้ยาน Reboot ระบบเผื่อว่ายังมีความหวังหลงเหลือ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับใด ๆ จนถึงเวลา 08:00 น. ทีมจึงประกาศยุติภารกิจ โดยระบุว่า “Success 9” หรือจุดที่ภารกิจจะถือว่าลงจอดสำเร็จนั้น ไม่สามารถไปถึงได้ในเที่ยวบินนี้ (ตามที่เล่าไปว่ามีการหั่นความสำเร็จออกเป็นลำดับต่าง ๆ)
Takeshi Hakamada ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ ispace กล่าวในแถลงการณ์ว่า “สิ่งสำคัญในตอนนี้คือการวิเคราะห์ข้อมูล Telemetry ทั้งหมดเพื่อเข้าใจให้ได้ว่าความผิดพลาดเกิดจากจุดใด เราจะทำทุกวิถีทางเพื่อนำข้อสรุปนี้ไปใช้ในภารกิจถัดไป และสร้างความเชื่อมั่นกลับคืนแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกคน”

จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ หลังยังไม่ประสบความสำเร็จ
ถึงแม้ภารกิจนี้จะถูกตั้งชื่อว่า Resilience เพื่อสะท้อนจิตวิญญาณแห่งการเรียนรู้และฟื้นตัวจากความล้มเหลวของ Mission 1 เมื่อปี 2023 แต่สถานการณ์ล่าสุดชี้ว่าความท้าทายบนเส้นทางสำรวจดวงจันทร์ยังคงไม่จบง่าย ๆ สำหรับบริษัทเอกชนจากญี่ปุ่นรายนี้ ที่น่าจับตามองคือ ispace นั้นเป็นงานระดมทุนกันในบริษัทสัญชาติญี่ปุ่น เช่น SMBC ทำให้น่าจับตามองว่า หลังจากความผิดพลาดครั้งที่สองนี้อนาคตของ ispace จะเป็นอย่างไร เพราะหลังจากนี้ ispace ได้วางภารกิจถัดไปเอาไว้ เป็นการพัฒนายานลงจอดรุ่นใหม่ และระบบการลงจอดที่ซับซ้อนกว่าเดิม

แม้เชิงเทคนิคแล้ว ภารกิจนี้ถือว่ามีความก้าวหน้าหลายด้าน ตั้งแต่การพัฒนาโรเวอร์ยุโรปตัวแรก การร่วมมือกับ ESA ในการควบคุมจากระยะไกล ไปจนถึงการพัฒนา Payload ที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมและสังคม แต่สำหรับโลกแห่งการสำรวจดวงจันทร์ที่มีการแข่งขันสูงอย่างในยุคนี้ “การลงจอดสำเร็จ” ยังคงเป็นมาตรวัดที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้
และเมื่อการเดินทางไปดวงจันทร์เริ่มกลายเป็นเรื่องของการคัดเลือกผู้รอด ไม่ใช่แค่ผู้กล้า บริษัทอวกาศญี่ปุ่นที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดจากโตเกียวที่ชื่อว่า ispace กำลังยืนอยู่ในบททดสอบที่สำคัญอีกครั้ง ว่าความ “Resilient” ของพวกเขา จะมากพอที่จะลุกขึ้นเป็นครั้งที่สามได้หรือไม่
เรียบเรียงโดย ทีมงาน Spaceth.co