จากจรวด Falcon 9 ลำสีขาวล้วนที่เป็นเอกลักษณ์นั้น ล่าสุด Falcon 9 ได้ทำการปล่อยจรวด Falcon 9 Block 5 จรวดรุ่นใหม่ของ SpaceX ที่ดูแปลกตากว่าที่เคย ด้วย Interstage (บริเวณที่เชื่อมระหว่าง First Stage กับ Second Stage) สีดำ พร้อมกับ Grid Fins และขาตั้งสีดำ ทำให้ Falcon 9 ลำนี้ดูแปลกกว่าทุกลำที่ผ่านมา
เมื่อเวลา 4:47 น. ของวันที่ 12 พฤษภาคม SpaceX ได้ทำการปล่อย Bangabandhu Satellite-1 ดาวเทียมสื่อสารดวงแรกในวงโคจรค้างฟ้าของประเทศบังคลาเทศขึ้นสู่วงโคจรได้สำเร็จ อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกที่จรวด Falcon 9 Block 5 ได้ขึ้นบินอีกด้วย ก่อนที่มันจะกลับมาลงจอดบนโดรนชิพชื่อ Of Course I Still Love You ที่รออยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติค
อันที่จริงก่อนหน้านี้ จรวด Falcon 9 Block 5 ถูกวางตารางให้มีการปล่อยเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่เนื่องจากก่อนการปล่อย 1 นาที คอมพิวเตอร์ของ Ground System ได้ตรวจพบข้อผิดพลาดและสั่งยกเลิกการปล่อย และทำการปล่อยอีกครั้งอย่างประสบความสำเร็จในวันที่ 12
Bangabandhu Satellite-1 เป็นดาวเทียมสื่อสารที่ถูกพัฒนาในโครงการที่มีชื่อว่า Bangabandhu Satellite Launching Project และจะให้บริการกับประเทศบังคลาเทศ อินเดีย เนปาล ภูฏาน ศรีลังกา ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียในคลื่น Ku-band ส่วนของคลื่น C-band นั้นจะครอบคลุมพื้นที่ใกล้เคียงทั้งหมด และอายุการใช้งานของมันถูกประเมินไว้ที่ 15 ปี
โดยตามกำหนดการณ์เดิมแล้วมันจะถูกปล่อยเวลา 3:12 ตามเวลาประเทศไทย ก่อนที่จะถูกเลื่อนออกมาเป็น 4:47 น. โดยยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่เมื่อถึงเวลาแล้วมันก็ทะยานขึ้นสู่อวกาศตามปกติจากฐานปล่อย 39A ของ Kennedy Space Center ที่ SpaceX ได้ทำสัญญาเช่าเป็นเวลา 20 ปี และทำการปล่อยล่าสุดคือการปล่อย Falcon Heavy ไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ สำหรับ Falcon 9 Block 5 ถือเป็นการอัพเกรดความสามารถของจรวด Falcon 9 ครั้งสุดท้าย ซึ่งมันถูกออกแบบมาให้ใช้งานซ้ำได้อย่างน้อย 10 ครั้ง รวมทั้งปลดล็อคความสามารถของเครื่องยนต์ ซึ่งทำให้มันทรงพลังมากขึ้นกว่า Falcon 9 รุ่นก่อน
ในครั้งนนี้ไม่มีการเก็บกู้ฝาครอบโดยใช้เรือ Mr. Steven ที่มีตะข่ายรองรับ แม้ว่ามันจะใช้รุ่น 2.0 ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ก็ตาม เหตุผลหรอ? เรือเก็บกู้ยังอยู่แคลิฟอร์เนีย แต่อย่างน้อยตัว First Stage ก็ลงจอดบนโดรนชิพได้สำเร็จนะ ส่วนฝาครอบเองก็จะทดลองลงจอดบนผิวน้ำ ก่อนที่จะใช้เรือลำอื่นเก็บกู้ขึ้นมา
Falcon 9 Block 5
นอกจาก Falcon 9 Block 5 จะมาพร้อมกับ Design ใหม่คือ โลโก้ของ SpaceX จะย้ายขึ้นไปอยู่ด้านบนขึ้น ทำให้เห็นได้ชัดกว่าเดิม รวมถึงความเปลี่ยนแปลงด้าน Hardware อย่าง
- Grid Fins แบบใหม่ที่ใช้วัสดุเป็นไทเทเนียม ทนความร้อนขณะเข้าสู่ชั้นบรรยากาศได้อย่างดีเยี่ยม (ของเดิมเป็นอลูมิเนียม)
- ขาตั้งแบบใหม่ที่สามารถพับเข้าพับออกได้ ปกติแล้ว Falcon 9 รุ่นเก่าเมื่อขากางออกมันจะไม่สามารถพับเข้ามาได้ ต้องถอดออกมาพับแล้วค่อยประกอบเข้าไปใหม่ ซึ่งเสียเวลามาก (Falcon 9 มีแผนที่จะทำการบินในเวลาเพียงแค่ 24 ชั่วโมงหลังทำการลงจอด)
- เครื่องยนต์ที่ถูกปรับปรุง “ปลดล็อก” พลังทั้งหมดของ Merlin 1D Plus ทั้ง 9 ตัว ทำให้มีพลังแรงขึ้นถึง 8%
Falcon 9 Block 5 นี้ยังได้ผ่าน Certificate สำหรับการใช้ในการส่งนักบินอวกาสด้วยยาน Dragon 2 ด้วย ซึ่งการปรับปรุงครั้งนี้ก็ทำเพื่อเตรียมพร้อมแก่ภารกิจการส่งนักบินอวกาศขึ้นสู่อวกาศในอนาคตอันใกล้
อนาคตของ Falcon 9
อย่างที่ทราบกันไป SpaceX นั้นเริ่มต้นพัฒนาจรวด Falcon 9 มาตั้งแต่จรวด Falcon 1 จรวดรุ่นแรกของ SpaceX ยังไม่บินขึ้น โดย Falcon 9 นั้นก็มีพื้นฐานมาจาก Falcon 1 ที่ใช้เครื่องยนต์ Merlin Engine ทั้งหมด 9 ตัว ในปี 2013 SpaceX ได้ทำการอัพเกรดจรวด Falcon 9 ให้มีพลังมากขึ้นด้วยเครื่องยนต์ใหม่จาก Merlin 1C เป็น Merlin 1D และเพิ่มขนาดของจรวด Falcon 9 เป็น 70 เมตรเหมือนปัจจุบัน ก่อนที่จะมีการอัพเกรดเรื่อย ๆ จนมาถึงรุ่น Falcon 9 FT หรือ Full Thrust และ Falcon 9 Block 5 ปัจจุบัน
และสำหรับการอัพเกรดครั้งนี้ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นรุ่น Final ที่แท้จริงของ Falcon 9 ก่อนที่ SpaceX จะดึงทีมและนักพัฒนาทั้งหมดไปโฟกัสที่จรวด BFR หรือ Big Falcon Rocket ที่อยู่ระหว่างพัฒนา ซึ่งจะมีความสามารถตั้งแต่การบินพาคนข้ามทวีป, ส่งเสบียงและนักบินอวกาศไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ, ส่งดาวเทียมขนาดใหญ่ ไปจนถึงการพาเราดินทางสู่ดาวอังคาร
แน่นอนว่านี่คือความสำเร็จครั้งใหญ่ของ SpaceX กับความพยายามที่จะลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางสู่อวกาศ อีกทั้งก่อนหน้าที่จะมีการปล่อยยานเกิดขึ้น Elon Musk CEO ของ SpaceX ก็ได้ออกมา ลดราคาจรวด Falcon 9 ลำที่เคยขึ้นบินแล้วเหลือแค่ 50 ล้านเหรียญสหรัฐ (จากเดิมที่ 60 ล้านเหรียญ) รวมทั้งการนำ Falcon 9 Block 5 ลำเดิมมาใช้ซ้ำภายใน 24 ชั่วโมงอาจเกิดขึ้นในปีหน้าเป็นอย่างเร็ว ซึ่งนั่นจะเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นและน่าจับตารออย่างแน่นอน