15 มกราคม 2025 เวลาบ่ายโมงสิบเอ็ดนาที จรวด Falcon 9 ได้บินขึ้นพร้อมกับยานอวกาศ Blue Ghost ของบริษัท Firefly Aerospace และยาน Hakuto-R “Resilience” ของบริษัท ispace เริ่มต้นการเดินทางสู่ดวงจันทร์
ภารกิจ Blue Ghost Mission 1 นั้นเป็นภารกิจตระกูล CLPS หรือ Commercial Lunar Payload Service ที่ NASA ให้ทุนเอกชนในการพัฒนาและนำส่ง Payload การทดลอง ลงสู่ผิวดวงจันทร์ เพื่อเตรียมพร้อมการเดินทางสู่ดวงจันทร์ในโครงการ Artemis นับเป็นภารกิจ CLPS แรกของปี 2025 หลังจากที่ปีที่แล้ว บริษัท Astrobotic และ Intuitive Machine ได้ส่งสองภารกิจแรก แต่มีเพียงแค่ Intuitive Machine เท่านั้นที่เดินทางถึงดวงจันทร์
ในขณะที่ Hakuto-R ที่เคยเดินทางสู่ดวงจันทร์ไปแล้วในปี 2023 แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จในการลงจอด ในภารกิจ Mission 2 นี้ ถือว่าเป็นการแก้มืออีกครั้ง หากสำเร็จจะเป็นเอกชนรายแรกนอกสหรัฐฯ ที่สามารถลงจอดจากดวงจันทร์ได้

จรวด Falcon 9 ในภารกิจนี้เป็น Falcon 9 หมายเลข B1085 นับเป็นเที่ยวบินที่ 5 ของจรวดลำนี้ บินขึ้นจากฐานปล่อย LC-39A ใน NASA Kennedy Space Center หลังจากการบินขึ้นจรวดได้กลับมาลงจอด บนเรือโดรน Just Read the Instruction ปล่อยให้จรวดท่อนที่สองทำการ Burn เครื่องยนต์ต่อ และเข้าสู่ช่วง Coast Phase เป็นช่วงที่เครื่องยนต์ยังไม่มีการจุดเพื่อทำงาน แต่จะเป็นการรอเวลาให้ตัวจรวดเดินทางไปอยู่ในจุดที่เหมาะสมเพื่อเตรียมจุดเครื่องยนต์อีกครั้ง เพื่อนำส่งตัวยานไปในวงโคจรที่ออกแบบไว้ ในกรณีของภารกิจ Blue Ghost Mission 1 นี้ Second Stage จะจุดอีกครั้งในนาทีที่ 58 หลังการปล่อยและทำการ Burn เป็นเวลา 1 นาที หลังจากนั้นตัวยาน Blue Ghost จะถูกส่งให้ออกจาก Second Stage ในเวลา 1 ชั่วโมง 5 นาทีหลังจากการปล่อย


โครงสร้างโลหะที่เราเห็นในภาพใต้ยาน Blue Ghost นั้นเรียกว่า Payload Canister เป็นเทคนิคใหม่ที่ Falcon 9 นำมาใช้ครั้งแรกเพื่อนำส่งยานอวกาศ 2 ลำที่ไม่ได้ออกแบบมาให้ต่อกันได้ โดยยาน Hakuto-R ที่เล็กกว่าถูกบรรทุกไว้ใน Payload Canister ที่ฝาด้านบนจะถูกเปิดออก และปล่อยตัวยานที่อยู่ข้างในออกไปได้ โดย Hakuto-R ถูกปล่อยออกจาก Payload Canister ในเวลา 1 ชั่วโมง 32 นาทีหลังจากการปล่อย เป็นการจบสิ้นภารกิจ

การลงจอดบนดวงจันทร์จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม 2025 สำหรับ Blue Ghost และ มิถุนายน 2025 สำหรับ Hakuto-R เนื่องจากยานทั้งสองมีโปรไฟล์ของวงโคจรที่ไม่เหมือนกัน และเทคนิคการเดินทางสู่ดวงจันทร์ที่ไม่เหมือนกัน

ในรอบนี้ยาน Blue Ghost ได้รับการติดตั้ง Payload ทางวิทยาศาสตร์ของ NASA และพันธมิตรมากกว่า 10 ชุดการทดลอง โดยบรรทุกเครื่องมือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสำหรับการสาธิต เช่น การขุดเจาะใต้พื้นผิวดวงจันทร์ เก็บตัวอย่าง และถ่ายภาพรังสีเอกซ์ของสนามแม่เหล็กโลก เพื่อพัฒนาการวิจัยสำหรับภารกิจมนุษย์ในอนาคตบนดวงจันทร์ รวมถึงให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผลกระทบของสภาพอวกาศต่อโลก รวมถึงเทคนิคการกำจัดฝุ่นบนดวงจันทร์
สามารถอ่านเจาะลึกภารกิจได้ที่ เจาะลึก Blue Ghost Mission 1 ภารกิจลงจอดดวงจันทร์แรกของ Firefly Aerospace
ส่วนยาน Hakuto-R จะทดสอบการลงจอดครั้งที่สองหลังจากที่ครั้งแรกในปี 2023 ยังไม่ประสบความสำเร็จ แม้ว่าในรอบ Mission 2 จะเป็นการใช้ฮาร์ดแวร์และโปรไฟล์เดิม แต่ได้มีการใช้ข้อมูลที่เก็บได้จากใน Mission 1 มาพัฒนาซอฟแวร์สำหรับการลงจอดให้แม่นยำมากขึ้น
อ่าน – Hakuto-R ภารกิจที่สอง เตรียมลงจอดวงจันทร์อีกครั้งในปี 2025
เรียบเรียงโดย ทีมงาน Spaceth.co