เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2025 โมดูล HALO หรือ Habitation and Logistics Outpost ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของสถานีอวกาศรอบดวงจันทร์ Lunar Gateway ได้เดินทางออกจากโรงงานของบริษัท Thales Alenia Space ในเมืองตูริน ประเทศอิตาลี มาถึงสหรัฐอเมริกาเรียบร้อยแล้ว โดยใช้เครื่องบินขนส่งขนาดใหญ่ Antonov An-124 ในการลำเลียงเพื่อเข้าสู่กระบวนการสร้างภายในขั้นต่อไป
นี่คืออีกหนึ่งหมุดหมายที่สำคัญในเส้นทางการสร้างสถานีอวกาศขนาดเล็กซึ่งจะโคจรรอบดวงจันทร์ และทำหน้าที่เป็นจุดพัก จุดต่อเชื่อม และจุดบัญชาการสำหรับภารกิจ Artemis ของ NASA และพันธมิตรนานาชาติ

การเดินทางของ HALO ในครั้งนี้ เริ่มต้นจากโรงงานของ Thales Alenia Space ในเมืองตูริน ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติอิตาลีที่มีบทบาทอย่างมากในอุตสาหกรรมอวกาศยุโรป โดยเฉพาะในด้านการผลิตโครงสร้างของโมดูลสถานีอวกาศ แทบทุกโมดูลที่เคยขึ้นไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ ล้วนมีรากฐานมาจากโรงงานแห่งนี้ เช่นเดียวกับโมดูลของ Lunar Gateway ที่กำลังอยู่ระหว่างการสร้างหลายชิ้นด้วยกัน
Thales Alenia รับผิดชอบงาน “โครงสร้างแรกเริ่ม” หรือ Primary Structure ของ HALO โดยเริ่มต้นขึ้นโครงตั้งแต่ช่วงต้นปี 2022 ก่อนจะใช้เวลากว่าสองปีในการผลิตและทดสอบ จนกระทั่งพร้อมส่งมอบให้กับ Northrop Grumman ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบขั้นตอนถัดไปของการติดตั้งระบบภายในทั้งหมดของโมดูล ในสัปดาห์ที่ผ่านมา Thales Alenia ได้โพสต์ภาพบนโซเชียลมีเดียของบริษัท พร้อมข้อความบอกลา HALO ก่อนจะยกโมดูลขึ้นสู่เครื่องบิน Antonov An-124 เพื่อส่งมอบให้พันธมิตรฝั่งสหรัฐฯ รายนี้

HALO ถือเป็นหนึ่งในสองโมดูลหลักชุดแรกของ Lunar Gateway ร่วมกับ PPE หรือ Power and Propulsion Element ซึ่งจะทำหน้าที่ผลิตพลังงานและควบคุมการเคลื่อนที่ของสถานีในวงโคจรรอบดวงจันทร์ โดยทั้งสองโมดูลนี้จะถูกประกอบเข้าด้วยกันบนโลก ก่อนจะถูกส่งขึ้นสู่อวกาศพร้อมกันด้วยจรวด Falcon Heavy ของ SpaceX
ต้นกำเนิดของ HALO ย้อนไปถึงช่วงปี 2019 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาโมดูลดังกล่าวโดย Northrop Grumman ที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานจากยาน Cygnus ซึ่งบริษัทผลิตให้กับ NASA เพื่อส่งสัมภาระไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ โดยหลังจากที่แนวคิดได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการในปี 2020 กระบวนการออกแบบและสร้างต้นแบบก็เริ่มขึ้น และใช้เวลาหลายปีในการเข้าสู่กระบวนการผลิตจริง ก่อนหน้านี้เราได้รายงานความคืบหน้าต่าง ๆ ไปในบทความ อัพเดทการสร้างโมดูล Lunar Gateway ช่วงกลางปี 2024 และ อัพเดทการสร้าง Lunar Gateway ต้นปี 2025 โมดูลสหรัฐฯ เตรียมถูกส่งมอบ

หลังจากเดินทางมาถึงสหรัฐฯ HALO จะเข้าสู่ขั้นตอนการติดตั้งระบบต่าง ๆ ภายในโมดูล เช่น ระบบควบคุมอุณหภูมิ อากาศ พลังงาน ระบบ Life Support และอินเทอร์เฟซสำหรับเชื่อมต่อกับยานอวกาศประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Orion, Starship HLS หรือโมดูลอื่น ๆ ของ Gateway
เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนดังกล่าว HALO จะถูกนำไปประกอบเข้ากับโมดูล PPE ซึ่งในขณะนี้ยังอยู่ที่โรงงานของบริษัท MAXAR Technologies ในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยโมดูล PPE ได้รับการออกแบบให้สามารถเคลื่อนที่ในอวกาศได้อย่างอิสระด้วยพลังงานจากแผงโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่และระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า (Solar Electric Propulsion)
เมื่อทั้งสองโมดูลถูกรวมเข้าด้วยกันแล้ว จะกลายเป็นแกนกลางของ Gateway และถูกส่งขึ้นสู่อวกาศด้วย Falcon Heavy จากฐานปล่อยของ SpaceX ในรัฐฟลอริดา NASA เลือก Falcon Heavy เป็นจรวดส่งสถานีอวกาศโคจรรอบดวงจันทร์ Lunar Gateway

HALO จะเป็นทั้งที่พักอาศัยชั่วคราว (รองรับนักบินอวกาศได้ถึง 4 คน) จุดควบคุมการปฏิบัติงาน และสถานีรับส่งข้อมูลระหว่างโลกกับพื้นผิวดวงจันทร์ ในระยะแรก สถานีจะไม่มีมนุษย์ประจำการถาวร แต่จะรองรับนักบินอวกาศในช่วงเวลาสั้น ๆ ระหว่างรอเดินทางต่อไปยังพื้นผิว
นอกจาก HALO และ PPE แล้ว โมดูลอื่น ๆ ของ Gateway ก็อยู่ระหว่างการพัฒนาเช่นกัน โดยเฉพาะโมดูล I-HAB หรือ International Habitation Module ซึ่ง ESA และ JAXA ร่วมกันพัฒนา ขณะนี้มีรายงานว่าโครงสร้างบางส่วนของ I-HAB ก็ได้เสร็จสิ้นแล้วที่โรงงานในยุโรป และกำลังเข้าสู่กระบวนการประกอบภายใน

การเดินทางของ HALO จากอิตาลีมายังสหรัฐฯ อาจเป็นเพียงการขนส่งโมดูลธรรมดาในสายตาคนทั่วไป แต่สำหรับวงการอวกาศ มันคือหมุดหมายสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าระบบสนับสนุนการสำรวจดวงจันทร์ของมนุษย์กำลังเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นทุกที
Gateway อาจไม่ได้มีขนาดใหญ่เท่า ISS แต่อยู่ในจุดที่ไกลกว่าเดิมมาก และด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศ รวมถึงการรวมพลังของบริษัทเทคโนโลยีอวกาศจากทั้งสองฟากฝั่งแอตแลนติก มนุษย์กำลังสร้าง “สะพานเชื่อม” ไปสู่โลกใบใหม่ที่เราเคยไปถึงเพียงไม่กี่ครั้งในประวัติศาสตร์
เรียบเรียงโดย ทีมงาน Spaceth.co