กล้องโทรทรรศน์อวกาศเคปเลอร์เป็นภารกิจสำรวจดาวเคราะห์นอกระบบดวงแรกของนาซา และนับตั้งแต่ที่มันขึ้นไปประจำการอยู่ในอวกาศตั้งแต่ปี 2009 ที่ผ่านมา กล้องเคปเลอร์ได้ทำการสำรวจดวงดาวไปกว่าครึ่งล้านดวง พร้อมกับค้นพบดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะไปมากกว่า 2,600 ดวงด้วยกัน มาดูกันว่าในเวลาเกือบหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา กล้องเคปเลอร์ได้เปลี่ยนความเข้าใจที่เรามีต่อจักรวาลไปอย่างไร
มีดาวเคราะห์มากกว่าดาวฤกษ์อยู่ในทางช้างเผือก
25 ปีก่อนหน้านี้ เรายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีดาวเคราะห์ที่โคจรรอบดาวฤกษ์ดวงอื่น แต่จากข้อมูลของกล้องเคปเลอร์ เราสามารถยืนยันได้ว่าในทางช้างเผือกของเรา ซึ่งมีจำนวนดาวฤกษ์ประมาณ 400,000,000,000 ดวง และแต่ละดวงจะมีค่าเฉลี่ยของดาวเคราะห์ที่โคจรรอบมันอยู่ราว 1.6 ดวง ยังไม่รวมถึงจำนวนดาวเคราะห์ชนิด Rogue Planet ที่โคจรรอบใจกลางของทางช้างเผือกอีกด้วย
ฝาแฝดของโลกนั้นพบได้ทั่วไปในจักรวาล
จากการวิเคราะห์ข้อมูลล่าสุดที่ได้จากกล้องเคปเลอร์ ประมาณ 20-50 เปอร์เซ็นต์ของดวงดาวในท้องฟ้านั้นอาจมีดาวเคราะห์หินที่มีความคล้ายคลึงกันกับโลก ทั้งขนาดและระยะห่างจากดาวฤกษ์ของมัน ซึ่งเป็นไปได้ว่ามันจะอยู่ในเขต Habitable Zone ที่น้ำในรูปของเหลวสามารถพบได้บนผิวดาว แต่เราก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าสภาพของดาวเคราะห์เหล่านี้เอื้อต่อการมีสิ่งมีชีวิตหรือไม่
และการค้นพบนี้ยังถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภารกิจของเคปเลอร์อีกด้วย
Our galaxy is teeming with planets! Thanks to @NASAKepler, we now know that up to half of all ⭐️ in the night sky may host rocky planets similar in size to ?, at temperatures conducive to the existence of liquid water. To many, that is the mission's greatest achievement.
— NASA Kepler and K2 (@NASAKepler) October 30, 2018
ดาวเคราะห์นั้นมีความหลากหลาย
กล้องเคปเลอร์ได้ค้นพบดาวเคราะห์แบบต่าง ๆ มากมาย ทั้ง Ultrahot Jupiter , Hot Jupiter, Sub-Earth และ Hot Neptune เป็นต้น ทว่าดาวเคราะห์ที่กล้องเคปเลอร์ค้นพบมากที่สุดนั้นคือ Super-Earth ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าโลก แต่ก็ยังเล็กกว่าดาวเนปจูน ซึ่งประเด็นที่น่าสนใจก็คือในเมื่อเราค้นพบ Super-Earth อย่างมากมาย แต่ทำไมมันกลับไม่อยู่ในระบบสุริยะของเรา
ระบบดาวต่าง ๆ ก็ไม่ได้เหมือนกัน
มีทั้งดาวเคราะห์ที่โคจรรอบระบบดาวคู่ (เหมือนกับ Tatooine) ระบบดาวที่มีดาวเคราะห์ 5 ดวงโคจรใกล้ดาวฤกษ์ยิ่งกว่าดาวพุธ ไปจนถึงดาวเคราะห์ที่ใช้เวลาเกือบหนึ่งล้านปีในการโคจรรอบดาวฤกษ์ ซึ่งยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่นักวิทยาศาสตร์จะต้องทำความเข้าใจกับมันอีกต่อจากนี้
อีกดวงตาที่มองไปยังดวงดาว
นอกจากจะพาวงการดาราศาสตร์เข้าสู่ยุคทองแห่งการค้นหาดาวเคราะห์นอกระบบแล้ว กล้องเคปเลอร์ยังได้เป็นส่วนหนึ่งในการศึกษาดวงดาวบนท้องฟ้า และจากตลอด 9 ปีในภารกิจของมัน ดวงดาวกว่าครึ่งล้านได้ถูกสำรวจขึ้น ซึ่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับคุณสมบัติของดาวฤกษ์ดวงต่าง ๆ อีกทั้งยังช่วยให้เราปะติดปะต่อประวัติศาสตร์ของทางช้างเผือกและจักรวาลของเราได้อีกด้วย
แม้วันนี้หน้าที่ของเคปเลอร์จะจบลงไป แต่ความเข้าใจต่าง ๆ ที่มันได้สร้างไว้จะยังคงอยู่ตลอดไป พร้อมกับข้อมูลอีกมากมายที่รอคอยการตรวจสอบอีกครั้งจากนักวิทยาศาสตร์ ซึ่งก็ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้ค้นพบอะไรใหม่ ๆ อีก จากข้อมูลเก่าของเคปเลอร์นี้ก็เป็นได้
สำหรับในตอนนี้ กล้องเคปเลอร์ก็ได้เวลาส่งไม้ต่อให้กับ กล้อง TESS ในการตามล่าหาดาวเคราะห์นอกระบบแล้ว
With today’s announcement of the retirement of the @NASAKepler space telescope, we’re officially passing the planet-hunting torch to @NASA_TESS, which will search 200,000 of the brightest ⭐️ near the ☀️ for new worlds! Learn more about the mission: https://t.co/HYeFAnWOL7 pic.twitter.com/sxSeYO2v63
— NASA Kepler and K2 (@NASAKepler) October 31, 2018
อ้างอิง
NASA | NASA Retires Kepler Space Telescope, Passes Planet-Hunting Torch
NASA | Top Science Results from the Kepler Mission
Universe Today | Kepler’s Universe: More Planets in Our Galaxy Than Stars