เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2025 บริษัท AstroForge ได้ส่งยานอวกาศ ODIN ขึ้นสู่อวกาศโดยอาศัยจรวด Falcon 9 ของ SpaceX ในฐานะหนึ่งในยานที่ร่วมเดินทางไปกับภารกิจ IM-2 ของ Intuitive Machines ซึ่งมีเป้าหมายหลักในการส่งยานลงจอดบนดวงจันทร์ Nova-C รวมถึงการปล่อยยานสำรวจ Lunar Trailblazer อย่างไรก็ตาม ยาน ODIN ซึ่งมีเป้าหมายในการสำรวจดาวเคราะห์น้อย กลับกำลังเผชิญกับปัญหาสำคัญในการปฏิบัติภารกิจ

AstroForge เป็นบริษัทเอกชนที่ก่อตั้งขึ้นโดยมีเป้าหมายหลักในการทำเหมืองแร่จากดาวเคราะห์น้อย ODIN ถือเป็นยานลำแรกของบริษัทที่มุ่งหน้าไปยังห้วงอวกาศลึก โดยมีเป้าหมายไปยัง ดาวเคราะห์น้อย 2022 OB5 ซึ่งอยู่ห่างจากโลกหลายร้อยล้านกิโลเมตร การสำรวจครั้งนี้ถือเป็นก้าวแรกของ AstroForge ในการศึกษาความเป็นไปได้ของการทำเหมืองในอวกาศ

ภารกิจสำรวจดาวเคราะห์น้อยส่วนใหญ่จะดำเนินการโดยหน่วยงานอวกาศของรัฐ เช่น NASA ในภารกิจ OSIRIS-REx หรือการส่งยานอวกาศ DART ไปพุ่งชนดาวเคราะห์น้อยใกล้โลก และองค์การอวกาศญี่ปุ่น JAXA ในภารกิจ Hayabusa และ Hayabusa2 แต่ AstroForge เป็นหนึ่งในบริษัทเอกชนแรกที่พยายามส่งยานไปสำรวจดาวเคราะห์น้อยด้วยตนเอง ก่อนหน้านี้ มีบริษัทเอกชนอย่าง Planetary Resources และ Deep Space Industries ที่เคยวางแผนสำรวจดาวเคราะห์น้อยเพื่อทำเหมือง แต่ยังไม่มีบริษัทใดที่ประสบความสำเร็จ
Hayabusa2 ภารกิจเก็บตัวอย่างดาวเคราะห์น้อย สรุปแบบเจาะลึกทุกรายละเอียด
DART ภารกิจทดสอบการเปลี่ยนวงโคจรของดาวเคราะห์น้อยด้วยการเอายานพุ่งชน
หลังจาก ODIN ถูกปล่อยออกจากจรวด Falcon 9 มันกลับประสบปัญหาในการสื่อสาร AstroForge รายงานว่าพบสัญญาณ Carrier signal ซึ่งบ่งชี้ว่ายานยังมีพลังงานอยู่ แต่การรับข้อมูลสถานะต่าง ๆ หรือ Telemetry จากตัวยานเป็นไปอย่างยากลำบาก ส่งผลให้ไม่สามารถประเมินสภาพของ ODIN ได้อย่างแน่ชัด ณ ตอนนี้

นอกจากนี้ ข้อมูลจาก AMSAT-DL ซึ่งเป็นกลุ่มองค์กรที่ให้ข้อมูลด้านสัญญาณวิทยุในการสื่อสารกับยานอวกาศ ชี้ให้เห็นว่า ODIN กำลังหมุนอยู่ด้วยอัตราต่ำกว่า 1 องศาต่อวินาที ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การสื่อสารติดขัด ทีมงาน AstroForge กำลังพยายามส่งคำสั่งให้ ODIN เปิดเครื่องขยายสัญญาณเพื่อเพิ่มกำลังส่ง แต่จนถึงวันที่ 1 มีนาคม 2025 ยังไม่มีการยืนยันว่ายานตอบสนองต่อคำสั่งดังกล่าว
รายงานนี้ได้ถูกพูดถึง บนวิดีโอของบริษัทที่ถูกอัพโหลดผ่าน X ของ AstroForge
แม้ว่า ODIN จะยังอยู่บนเส้นทางไปยังดาวเคราะห์น้อย 2022 OB5 ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 300 วัน ในการเดินทางไปถึง แต่ปัญหาการสื่อสารและการหมุนของยานทำให้ภารกิจตกอยู่ในความเสี่ยง AstroForge ยังคงพยายามกู้คืนการควบคุม โดยอาศัยเครือข่าย Deep Space Network หรือ DSN ของ NASA ที่ตัวจานมีประสิทธิภาพมากกว่า ในการติดตามสถานะของ ODIN

ODIN นั้นเป็นยานอวกาศลำที่สองของ AstroForge ก่อนหน้านี้ ได้มีการปล่อยยาน Brokkr-1 ถูกปล่อยขึ้นสู่อวกาศเมื่อเดือนเมษายน 2023 โดยมีเป้าหมายหลักในการสาธิต เทคโนโลยีการสกัดแร่ในอวกาศซึ่งเป็นก้าวสำคัญของ AstroForge ในการพัฒนาศักยภาพการทำเหมืองแร่บนดาวเคราะห์น้อย อย่างไรก็ตาม แม้ว่ายานจะสามารถดำเนินขั้นตอนพื้นฐานของภารกิจได้สำเร็จ แต่การทดลองระบบกลั่นแร่กลับไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากปัญหาด้านการสื่อสาร จนทำให้ AstroForge ต้องจบสิ้นภารกิจไปอย่างน่าเสียดาย
หาก AstroForge สามารถแก้ปัญหาการสื่อสารได้สำเร็จ ODIN จะกลายเป็นยานลำแรกของบริษัทเอกชนที่สามารถดำเนินภารกิจสำรวจดาวเคราะห์น้อยได้ แต่หากปัญหาดำเนินต่อไป อาจทำให้ภารกิจล้มเหลวและ AstroForge อาจจะต้องเสียยานลำนี้ไปในที่สุด
เรียบเรียงโดย ทีมงาน Spaceth.co