Venus Life Finder ภารกิจสำรวจดาวศุกร์ จากเอกชนภารกิจแรกของ Rocket Lab

Rocket Lab กำลังเตรียมพร้อมภารกิจ Venus Life Finder ซึ่งเป็นภารกิจแรกจากฝั่งเอกชนที่จะเดินทางไปยังดาวศุกร์ ซึ่งน่าจะเริ่มปล่อยในช่วงปี 2026 ที่จะถึงนี้ ภารกิจนี้มีความสำคัญอย่างไรบทความนี้จะพามารู้จักกับภารกิจที่ทะเยอทะยานนี้กัน โดยข้อมูลทั้งหมดนี้มาจาก Rocket Lab Venus Enabling Low-Cost Interplanetary Missions

ในขณะที่ NASA และ ESA กำลังเตรียมภารกิจสำรวจดาวศุกร์ในอนาคต EnVision ภารกิจสำรวจดาวศุกร์ใหม่ จาก ESA ที่จะส่งไปดาวศุกร์ในช่วงปี 2030s และภารกิจ DAVINCI+ และ VERITAS สองภารกิจสำรวจดาวศุกร์ในรอบ 30 ปี ของ NASA เพื่อตรวจสอบโครงสร้างภายในและชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์ที่อยู่ใกล้โลกที่สุดดวงนี้ แต่นอกจากโครงการใหญ่จากหน่วยงานอวกาศระดับโลกแล้ว ดาวศุกร์ก็กำลังกลายเป็นเป้าหมายของภาคเอกชนด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะ Rocket Lab ที่ก่อนหน้านี้ได้ร่วมกับ NASA ผลิตยานอวกาศ EscaPADE เพื่อตรวจสอบสนามแม่เหล็กของดาวอังคาร

แม้จะเป็นดาวเคราะห์ที่ใกล้โลกมากกว่าดาวอังคาร แต่ดาวศุกร์กลับถูกสำรวจน้อยกว่าด้วยเหตุผลหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายของมัน ชั้นบรรยากาศของดาวศุกร์มีความหนาแน่นสูง เต็มไปด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และมีอุณหภูมิพื้นผิวสูงถึง 460 องศาเซลเซียส ทำให้ยานสำรวจส่วนใหญ่ที่ลงจอดอยู่ได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง นอกจากนี้ เทรนด์การวิจัยของมนุษยชาติยังมุ่งไปที่ดาวอังคารมากกว่า เนื่องจากมีโอกาสที่จะรองรับสิ่งมีชีวิตในอดีตหรืออาจเป็นเป้าหมายสำหรับการตั้งถิ่นฐานในอนาคต ทำให้ดาวศุกร์ยังคงไม่ได้รับการสำรวจมากนัก

เราเคยเล่าเรื่องของการใช้บอลลูนสำรวจดาวศุกร์ไปในบทความ ประวัติศาสตร์ การบินบนดาวเคราะห์อื่นด้วยบอลลูน ที่ทำให้ Ingenuity ไม่ใช่อากาศยานลำแรก สามารถฟังรายการ Starstuff ตอน ดาวศุกร์น่าไปสำรวจอย่างไร เพื่อทำความเข้าใจว่าจริง ๆ แล้วดาวศุกร์อาจน่าไปสำรวจมากกว่าที่เราคิด

ภาพจำลองยาน Venus Life Finder เดินทางสู่ดาวศุกร์ ที่มา – Rocket Lab

Venus Life Finder หรือ VLF เป็นโครงการสำรวจดาวศุกร์ที่พัฒนาโดย Rocket Lab ร่วมกับ MIT โดยมีเป้าหมายหลักในการค้นหาสัญญาณของสารอินทรีย์ในชั้นเมฆของดาวศุกร์ ที่ระดับความสูงประมาณ 45-60 กิโลเมตร ซึ่งอุณหภูมิและความดันอยู่ในช่วงที่อาจเอื้อต่อสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก

แนวคิดของภารกิจนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากการค้นพบฟอสฟีน (PH3) ในบรรยากาศของดาวศุกร์ในปี 2020 ซึ่งเป็นก๊าซที่บนโลกพบได้จากกระบวนการทางชีววิทยา แม้ว่าการค้นพบนี้จะยังเป็นที่ถกเถียงกันและผลสรุปออกมาได้ไม่ชัดเจน แต่ก็ทำให้ความสนใจในโอกาสของสิ่งมีชีวิตบนดาวศุกร์เพิ่มขึ้นมาก ข่าวเก่า สรุปปริศนา Phosphine ในชั้นบรรยากาศดาวศุกร์ แบบละเอียด มีสิ่งมีชีวิตจริงมั้ย

เพื่อให้สามารถเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของดาวศุกร์ได้อย่างปลอดภัย VLF จะใช้แผ่นกันความร้อนที่พัฒนาโดย NASA ซึ่งใช้เทคโนโลยี 3D Woven Carbon Phenolic หรือที่เรียกว่า Heatshield for Extreme Entry Environment Technology หรือ HEET วัสดุนี้สามารถทนต่อความร้อนและแรงดันสูงขณะเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของดาวศุกร์ที่ความเร็วราว 11 กิโลเมตรต่อวินาที

ระบบกันความร้อนของตัวโพรบ ที่พัฒนาโดย NASA ที่มา – NASA Ames Research Center

VLF จะถูกส่งขึ้นสู่อวกาศโดยจรวด Electron ของ Rocket Lab พร้อมด้วยยาน Photon ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นยานแบบ Curise Stage ใช้ในการเดินทางระหว่างโลกกับดาวศุกร์ หลังจากถูกปล่อยออกจากโลก ยานจะใช้แรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์เพื่อช่วยส่งตัวยานเข้าสู่เส้นทางสู่ดาวศุกร์ ก่อนที่โมดูลบรรทุกอุปกรณ์จะเข้าสู่ชั้นบรรยากาศและดำเนินการทดลองในช่วงเวลาประมาณ 5 นาที ก่อนที่ระบบสื่อสารจะหยุดทำงาน

ภารกิจ VLF มีจุดมุ่งหมายหลักในการตรวจจับโมเลกุลอินทรีย์ผ่านเครื่องมือที่เรียกว่า Autofluorescing Nephelometer ซึ่งสามารถวิเคราะห์การกระเจิงของแสงและการเรืองแสงของอนุภาคในชั้นเมฆของดาวศุกร์ หากมีโมเลกุลที่เกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิต ปรากฏการณ์เรืองแสงนี้อาจช่วยยืนยันความเป็นไปได้ของสิ่งมีชีวิตในสภาวะแวดล้อมที่ไม่คาดคิด

ภาพแสดงการลงจอดบนดาวศุกร์ของตัวโพรบเข้าสู่บรรยากาศ ที่มา – Rocket Lab

นอกจากเป้าหมายทางวิทยาศาสตร์แล้ว ภารกิจนี้ยังเป็นการพิสูจน์ว่าการสำรวจระหว่างดาวเคราะห์สามารถทำได้ในงบประมาณที่ต่ำกว่าภารกิจแบบรัฐดำเนินการ โดยมีต้นทุนประมาณ 10 ล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าภารกิจ Venus ของ NASA อย่าง DAVINCI และ VERITAS หลายเท่า

Rocket Lab กำลังก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นสำคัญในอุตสาหกรรมอวกาศ ด้วยแนวทางที่แตกต่างจาก SpaceX โดยเน้นไปที่ภารกิจต้นทุนต่ำและขนาดเล็ก เช่น การสำรวจดาวเคราะห์โดยใช้จรวด Electron และการทำยานสำรวจขนาดเล็ก รวมไปถึงทำโครงการร่วมกับรัฐอย่าง Mars Sample Return ภารกิจ Venus Life Finder ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการนำแนวคิดนี้มาประยุกต์ใช้ และอาจเป็นก้าวแรกของการสำรวจดาวเคราะห์ด้วยงบประมาณที่ไม่จำเป็นต้องสูงลิ่วอีกต่อไป

แม้ว่าจะยังไม่มีการยืนยันวันปล่อยภารกิจ VLF ล่าสุด แต่แนวโน้มชี้ว่าการเปิดตัวอาจเกิดขึ้นไม่เร็วกว่าช่วงกลางปี 2026 หากประสบความสำเร็จ VLF อาจเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้การสำรวจดาวศุกร์กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง และอาจเป็นสัญญาณของยุคใหม่ที่ภาคเอกชนมีบทบาทสำคัญในงานด้านวิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์หรือ Planetary Science

เรียบเรียงโดย ทีมงาน Spaceth.co

Technologist, Journalist, Designer, Developer, I believe in anti-disciplinary. Proud to a small footprint in the universe. For Carl Sagan.