Dragon หมายเลข C213 ยาน Dragon ลำสุดท้ายกับปัญหาเลื่อนการปล่อย

หลังจากยาน Crew Dragon ได้สร้างประวัติศาสตร์ในปี 2020 ด้วยภารกิจ Crew Demo ของยาน Crew Dragon หมายเลข C206 ที่พานักบินอวกาศ Doug Hurley และ Bob Behnken ไปถึงสถานีอวกาศนานาชาติ SpaceX ก็ค่อย ๆ ขยาย Fleet ของยาน Crew Dragon ทีละลำ ด้วยหมายเลขประจำตระกูลตั้งแต่ C204 ไล่เรียงมาจนถึงลำล่าสุดอย่าง C213 ซึ่งควรจะกลายเป็นยาน Crew Dragon ลำสุดท้ายในรุ่นนี้ ก่อนจะเข้าสู่ยุคถัดไปของยานอวกาศที่จะมาแทนที่ นั่นก็คือยาน Starship ที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา

แต่ปัญหาก็คือ C213 ยังไม่พร้อมจะบินสักที สิ่งนี้แม้จะไม่ได้กระทบต่อตารางบินมากนัก เพราะ SpaceX นั้นมียาน Dragon ประจำการอยู่ ณ ปัจจุบันคือ 4 ลำ ผลัดเปลี่ยนกันบินทำภารกิจทั้งให้กับ NASA และเอกชนในภารกิจต่าง ๆ แต่การล่าช้าของ C213 ก็ถือว่าทำให้ตารางการบินช่วงปี 2025 แอบปั่นป่วนพอสมควร

ลำดับยาน Crew Dragon และการใช้งานในภารกิจต่าง ๆ

แนวทางของ SpaceX ในการตั้งชื่อยาน Dragon (ทั้งในรุ่น Cargo ที่นำส่งเสบียงและ Crew ที่นำส่งนักบิน) คือการใช้รหัส C ตามด้วยเลขเรียงลำดับ (C ย่อมาจาก Capsule) ยานรุ่นแรกอย่าง C101 ถึง C113 คือกลุ่มที่ใช้ในภารกิจ Cargo Dragon รุ่นแรก ที่ SpaceX หยุดการใช้ไปตั้งแต่ปี 2020 ตามที่เราได้รายงานและวิเคราะห์ไปใน รู้จักกับยาน Dragon 2 รุ่น Cargo และกลยุทธ์ลดค่าใช้จ่ายฉบับ SpaceX ส่วนยุคที่สองเริ่มที่ C201 ขึ้นไป เป็นตระกูล Dragon 2 ซึ่งถูกออกแบบให้สามารถบรรทุกนักบินอวกาศได้

เริ่มต้น C204 ใช้ในภารกิจ Demo-1 ทดสอบบินอัตโนมัติโดยไม่มีมนุษย์ และระเบิดในระหว่างการทดสอบ Static Fire หลังจากภารกิจสำเร็จ จนถึง C205 ใช้ใน In-Flight Abort Test ทดสอบระบบยกเลิกภารกิจขณะปล่อย สรุปภารกิจระเบิด Falcon 9 ทิ้งและ C206 ภารกิจประวัติศาสตร์ Demo-2 พามนุษย์กลับสู่วงโคจรจากแผ่นดินอเมริกา ในปี 2021 ได้สำเร็จ สรุปทุกข้อมูล Crew Dragon Demo 2 เที่ยวประวัติศาสตร์ ที่พาอเมริกันกลับสู่อวกาศ หลังจากนั้น SpaceX ก็เดินหน้าสร้างยาน Dragon C207, C208, C209 มาเรื่อย ๆ ไล่มาจนถึง C213

ยาน ​Dragon หมายเลข C208 ซึ่งเป็นยานรุ่นเติมเสบียงอย่างเดียว ขณะกำลังทำภารกิจ CRS-28 ที่มา – NASA

ยานบางลำถูกใช้เฉพาะภารกิจ Cargo Only แม้จะมีความสามารถรองรับคนได้ แต่ก็จะไม่ได้เจาะหน้าต่างไว้เช่น C208 และ C209 ซึ่งทำภารกิจส่งของให้ NASA ขึ้นไปยังสถานีฯ ส่วนลำอื่นอย่าง C210, C211, C212 ถูกใช้ในภารกิจ Crew แบบเต็มรูปแบบ โดยถูกนำกลับมาใช้ซ้ำหลายครั้ง แต่ละลำก็จะถูกตั้งชื่อต่างกันไป ได้แก่ Endeavour, Resilience, Endurance และ Freedom ซึ่งคนที่ได้ตั้งชื่อก็จะเป็นนักบินอวกาศชุดแรกที่ได้บินกับยานลำนั้น

ปัญหาการผลิตและทดสอบที่ล่าช้าของ C213

เดิมที C213 ถูกผลิตขึ้นเพื่อเป็นยานลำใหม่สำหรับภารกิจ Crew-10 ที่กำหนดบินในต้นปี 2025 เพื่อเปลี่ยนหมุนเวียนนักบินอวกาศประจำสถานีอวกาศนานาชาติ แต่น่าแปลกที่ถึงแม้ตัวแคปซูลจะถูกประกอบและทำงานระบบภายในไปนานแล้ว แต่กลับมีรายงาน “ความล่าช้า” (Delay) ต่อเนื่องในการทดสอบและเตรียมความพร้อม

SpaceX ไม่ได้เปิดเผยอย่างเป็นทางการว่าอะไรเป็นต้นตอของความล่าช้า แต่แหล่งข่าวภายในระบุว่า C213 มีความ “อ่อนไหว” เป็นพิเศษในระบบบางส่วน เช่น Thermal Protection และการตรวจสอบวัสดุ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับปัญหาด้าน Supply Chain หรือเกณฑ์ความปลอดภัยที่ยกระดับขึ้นสำหรับยานที่อาจเป็น “รุ่นสุดท้าย” สุดท้าย NASA ต้องตัดสินใจ ถอด C213 ออกจากภารกิจ Crew-10 และนำ C210 “Endurance” กลับมาใช้งานแทน และเดินทางสู่อวกาศในวันที่ 14 มีนาคม 2025 เจาะลึก Crew-10 ภารกิจส่งลูกเรือสู่สถานีอวกาศนานาชาติแรกของปี 2025

ยาน Dragon ชื่อ Endurance ที่ถูกนำมาใช้ในภารกิจ Crew-10 เนื่องจากยานลำใหม่ยังไม่เสร็จ ที่มา – SpaceX

ช่วงระหว่างนั้นมีอีกหนึ่งภารกิจ ที่เป็นการบินยาน Dragon เหมือนกันคือ Fram2 แต่ภารกิจนี้ก็ได้ใช้ยาน Dragon “Resilience” C207 ที่ SpaceX เอาไป Modify ติดตั้งกระจกโค้งที่เรียกว่า Cupola หรือบันไดสำหรับทำ EVA เรียกได้ว่าเป็นยาน “แต่ง” ที่ SpaceX เก็บเอาไว้ใช้กับภารกิจแปลก ๆ ดังนั้น Fram2 เลยไม่ได้รับผลกระทบจากการเลื่อนของ C213

หลังจากตกขบวน Crew-10 ความหวังต่อไปของ C213 ก็อยู่ที่ภารกิจ Axiom Mission 4 ซึ่งสามารถอ่านรายละเอียดฉบับเต็มได้ในบทความ เจาะลึก Axiom Mission 4 ภารกิจอวกาศเอกชนที่สองของปี 2025 ภารกิจของเอกชนที่จะนำลูกเรือจากหลายชาติบินไปสถานีอวกาศในช่วงสั้น ๆ เพื่อทำวิจัยและ Outreach รวมถึงกิจกรรมเชิงพาณิชย์ โดยมี Peggy Whitson อดีตนักบินอวกาศระดับตำนานของ NASA เป็นหัวหน้าทีม ลูกเรือประกอบด้วย Shubhanshu Shukla จาก ISRO ประเทศอินเดีย Sławosz Uznański-Wiśniewski จาก ESA โปแลนด์ Tibor Kapu จากฮังการี

ลูกเรือภารกิจ Axiom-4 ที่ภารกิจล่าช้าออกมาเนื่องจากยาน Dragon อาจยังไม่เสร็จ ที่มา – SpaceX

Axiom-4 เดิมมีกำหนดปล่อยช่วงวันที่ 29 เดือนพฤษภาคม 2025 แต่เพราะการเตรียม C213 ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ภารกิจจึงถูกเลื่อนออกไปเป็นไม่ก่อนวันที่ 8 มิถุนายน ตามประกาศล่าสุดจาก NASA and Partners Adjust Summer 2025 Space Station Flight Planning ซึ่งระบุว่าเป็น “Schedule Optimization” เพื่อจัดสรรเวลาให้พร้อมสำหรับหลายภารกิจที่ต่อคิวอยู่

ปิดตำนานยาน Dragon รุ่นสุดท้าย

แม้จะดูเหมือนเป็นแค่ “อีกหนึ่งลำ” ที่ช้ากว่ากำหนด แต่ C213 คือยาน Dragon รุ่นสุดท้าย ที่จะถูกสร้างขึ้นใหม่ในตระกูล Crew Dragon หลังจากนี้ SpaceX วางแผนจะ ใช้ยานเดิมหมุนเวียนกลับมาใช้ซ้ำไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะถึงยุคของยาน Starship ที่จะเข้ามารับหน้าที่ขนส่งมนุษย์และ Cargo ไปยังวงโคจร Low Earth Orbit และไกลกว่านั้น เช่น ดวงจันทร์ ยาน C213 จึงเปรียบเสมือนบทปิดฉากของยุค Dragon 2 และการผลิตใหม่ของระบบยานที่ขับเคลื่อนยุคหลัง Shuttle ซึ่ง ถ้าเอาแบบจริง ๆ Dragon ลำสุดท้ายแล้ว แต่ Starliner ของ Boeing ยังไม่ได้ทำภารกิจจริงซักภารกิจ แถมยังทำตารางสถานีฯ 2025 รวนอีก เมื่อ Starliner ยังไม่พร้อม ผลกระทบต่อตารางลูกเรือของสถานีอวกาศนานาชาติ

ณ ตอนที่เขียนบทความนี้ เรายังไม่มีคำยืนยัน 100% ว่า C213 จะพร้อมใช้งานทันวันปล่อย 8 มิถุนายนหรือไม่ ถ้ายังไม่พร้อม Axiom ก็อาจต้องตัดสินใจใช้ยานลำเก่าอีกครั้ง หรือเลื่อนออกไปอีก ซึ่งแม้จะไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับยุค Reuse แต่การที่ยานใหม่เอี่ยมต้องตกกระบวนถึง 2 ครั้งติดต่อกัน ก็ชวนให้ตั้งคำถามถึงปัญหาเบื้องหลังที่อาจไม่ได้เป็นแค่ “ความช้า” ธรรมดา

หาก C213 ได้บินจริงใน Axiom-4 มันจะไม่ใช่แค่การเปิดตัวครั้งแรก แต่เป็นการเปิดตัวครั้งเดียวในฐานะยานใหม่ล่าสุดและยานสุดท้ายของตระกูล Dragon รุ่นนี้ ที่อาจจะไม่ได้มีโอกาส “บินอีกครั้ง” หาก SpaceX ไม่วางแผนให้มันถูก Reuse ซ้ำในอนาคต ไม่ว่าจะได้บินหรือไม่ C213 ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนผ่าน ทั้งในเชิงเทคนิค เชิงนโยบาย และเชิงปรัชญาของการสำรวจอวกาศยุคใหม่

เรียบเรียงโดย ทีมงาน Spaceth.co

Technologist, Journalist, Designer, Developer, I believe in anti-disciplinary. Proud to a small footprint in the universe. For Carl Sagan.