วันนี้เราพาทุกคนเดินทางมายัง NASA Kennedy Space Center อีกครั้ง เนื่องจาก NASA ได้เปิดโอกาสสุดพิเศษให้ทีมงานสเปซทีเอช ได้ชมบรรยากาศด้านในอาคาร Vehicle Assembly Building หรือ VAB ที่ ณ ตอนนี้ กำลังประกอบจรวด Space Launch System หรือ SLS สำหรับใช้งานในภารกิจ Artemis II ที่จะเป็นการพามนุษยชาติเดินทางกลับสู่ดวงจันทร์อีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ เราได้รายงานไปในบทความ NASA เริ่มประกอบจรวด SLS สำหรับภารกิจ Artemis II พูดถึงความคืบหน้าในการประกอบจรวด SLS ว่าจรวด SLS ส่วน Core Stage นั้น ได้เดินทางมาถึง Kennedy Space Center ตั้งแต่ในช่วงปลางปี 2024 และได้ถูกยกไปเก็บไว้ในส่วน High Bay 2 ของอาคาร VAB ในขณะที่การประกอบจรวดขนาบข้าง Solid Rocket Booster ได้เกิดขึ้นแล้วในส่วน High Bay 3 บนฐานปล่อย Mobile Launcher ที่ ณ ตอนนี้อยู่ด้านในอาคาร VAB เรียบร้อย เตรียมพร้อมสำหรับภารกิจ Artemis II ที่จะเกิดขึ้นในปี 2026
ดังนั้น นี่จึงเป็นโอกาสอันดี ที่เราจะได้เยี่ยมชม โดยในบทความนี้ เราจะเน้นไปที่การชมด้านในอาคาร VAB เป็นหลัก ก่อนที่ในบทความถัด ๆ ไปเราจะพาไปชมฐานปล่อย LC-39B ที่ใช้สำหรับการปล่อย SLS และพาไปดูรถยนต์ Crawler ที่ใช้สำหรับการเคลื่อนเอาตัวจรวดและ Mobile Launcher ไปยังฐานปล่อย
อ่านบทความ – พาชมฐานปล่อย LC-39B ฐานปล่อยในตำนานแห่ง NASA Kennedy Space Center

ก่อนหน้านี้ เราเคยมีโอกาสพาทุกคนเข้าในอาคาร VAB กันไปแล้วในบทความ พาชมด้านในและขึ้นหลังคาอาคาร Vehicle Assembly Building ของ NASA แต่ในตอนนั้น เป็นการพาขึ้นไปบนดาดฟ้าของอาคารเพื่อไปชมการปล่อยภารกิจ GOES-U ทำให้เราไม่ได้มีโอกาสพาทุกคนชมด้านในของอาคารอย่างละเอียด
คงไม่ต้องให้อธิบายสรรพคุณของอาคาร VAB กันมาก อาคารยักษ์แห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ยุค Apollo และใช้ในการประกอบจรวด Saturn V เพื่อพามนุษย์ไปเหยียบดวงจันทร์ หลังจากนั้น ตัวอาคารได้ถูกใช้ในการประกอบกระสวยอวกาศ ก่อนที่จะเดินทางมาสู่ยุค Artemis ที่มันได้ถูกใช้สำหรับการประกอบจรวด SLS โดยสามารถอ่านเรื่องราวประวัติศาสตร์ของ NASA Kennedy Space Center ได้ในบทความ ประวัติศาสตร์ที่ดินของแหลมคะเนอเวอรัล และทำไม NASA ต้องปล่อยจรวดที่นั่น
สำหรับโอกาสที่เราได้เข้ามาชมในวันนี้ เกิดขึ้นวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2025 หลังจากที่ NASA ได้นำเอา Solid Rocket Booster บางส่วน เข้าไปประกอบใน High Bay 2 แล้ว โดยเราได้รับอนุญาตให้บันทึกบรรยากาศในส่วนของโถงตรงกลางอาคาร VAB หรือที่เรียกว่า Transfer Aisle และขึ้นไปบน High Bay 4 เพื่อบันทึกภาพไปยัง High Bay 3 ที่อยู่ตรงข้าม

ก่อนที่จะพาไปชม ทีมงานต้องใช้โอกาสนี้ในการอธิบายผังของอาคาร VAB คร่าว ๆ ให้ทุกคนพอเห็นภาพกันก่อน อาคาร VAB นั้นเป็นอาคารสูง 160 เมตร ประกอบไปด้วยสองฝั่งคือฝั่ง Low Bay และ High Bay
ในฝั่ง Low Bay นั้นจะถูกใช้เป็นส่วนเก็บของเสียส่วนมาก จะแบ่งเป็น Area K, L, M และ N ส่วนฝั่ง High Bay นั้น จะประประกอบไปด้วย High Bay 1, 2, 3 และ 4 ใช้เป็นพื้นที่สำหรับประกอบจรวด บนฐานปล่อยที่ถูกเคลื่อนย้ายได้ เรียกว่า Mobile Launcher นั่นทำให้หากเราใช้อาคาร VAB แบบเต็มรูปแบบ เราจะสามารถประกอบจรวดได้ถึง 4 ลำพร้อมกัน
ระหว่างแต่ละ High Bay จะเป็นลิฟท์ที่ให้เราขึ้นไปยัง Platform ในชั้นต่าง ๆ ได้ เรียกว่า Tower A, B, C, D, E และ F

แนะนำให้ดูวิดีโอ Where does NASA build rockets Vehicle Assembly Building ซึ่งอธิบายการทำงานภายใน VAB และโครงสร้างต่าง ๆ ไว้อย่างละเอียด

เราเดินเข้ามายังอาคาร VAB ผ่านทางประตูฝั่ง Low Bay ซึ่ง ภาพที่เราเห็นภาพแรกก็คือ ตัวโครงโลหะสำหรับเคลื่อนย้ายจรวด SLS Core Stage ซึ่งแน่นอนว่า ตอนนี้เราไม่ได้เห็น SLS อยู่บน Transfer Aisle แล้ว เนื่องจากมันได้ถูกยกไปเก็บไว้ชั่วคราวใน High Bay 2

ฮาร์ดแวร์สำคัญอีกหนึ่งชิ้นที่เรามีโอกาสได้เห็นตั้งแต่วินาทีแรกที่เดินเข้ามาก็คือส่วน Nose Cone หรือปลายสุดของจรวด Solid Rocket Booster ที่ได้ถูกเคลื่อนย้ายมาเก็บไว้ในส่วน Area N ของอาคาร VAB โดยตัว Nose Cone ที่เห็นอยู่นี้ คือชิ้นส่วนจริง ๆ (ที่บอกว่าจริง ๆ เพราะบางชิ้นจะเป็นชิ้นส่วนสำหรับซ้อม) ที่จะถูกนำไปประกอบกับ SLS สำหรับภารกิจ Artemis II

เราเดินต่อเข้ามาตรงกลางของส่วน Transfer Aisle ก็จะสามารถมองขึ้นไปเห็นหลังคาของอาคาร VAB ที่มีความสูงมากกว่า 160 เมตร (ทำให้อาจนับได้ว่านี่คืออาคารชั้นเดียวที่สูงที่สุดในโลก) โดยเราจะเห็นเครนตรงกลางในภาพด้านล่าง เครนตัวนี้เป็นเครนในฝั่ง Low Bay ที่จะทำงานร่วมกับเครน High Bay ทั้งสองจะใช้ร่วมกันในการยกและพลิกตัวจรวดจากแนวนอนให้เป็นแนวตั้ง เพื่อยกเอาจรวด เข้าไปประกอบในแต่ละ High Bay

นอกจากเครนตัวนี้แล้ว ยังมีเครนอีก 4 ตัวที่ใช้ในการยกตัวจรวดจาก Transfer Aisle เข้าไปยัง High Bay 1, 2, 3 และ 4 โดยเครนพวกนี้บางตัวสามารถยกน้ำหนักได้มากถึง 295 ตัน ซึ่งถ้าดูในภาพเราจะสังเกตว่า เราจะไม่เห็นช่องว่างระหว่าง Transfer Aisle กับ High Bay แต่ละแห่ง แต่จะมีโครงเหล็กของอาคารกั้นอยู่ ทำให้เวลาเราจะยกตัวจรวดเข้า High Bay เราจะต้องยกตัวจรวดให้พ้นตัวโครงเหล็กนี้
เราเดินบน Transfer Aisle ต่อมาจนถึงส่วน High Bay 2 ด้านใน เราจะเห็นจรวดสีส้ม ๆ และนั่นก็คือ Space Launch System หรือ SLS นั่นเอง โดยตัว SLS จะถูกเก็บไว้ในโครงเหล็กสีฟ้าที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้วิศวกรและช่างเทคนิคต่าง ๆ สามารถทำงานกับตัว SLS ก่อนที่มันจะถูกยกไปประกอบบน Mobile Launcher

ในภาพด้านล่างนี้ เราสามารถเดินเข้าไปใกล้ ๆ (ใกล้ที่สุดเท่าที่จะได้) เพื่อถ่ายภาพตัว SLS Core Stage โดยตัวจรวด SLS ในส่วน Core Stage นี้มีความสูง 64 เมตร หรือความสูงประมาณตึก 20 ชั้น ซึ่งอย่าลืมว่านี่เป็นความสูงแค่ Core Stage เท่านั้น ยังไม่นับร่วม Second Stage หรือส่วนของยาน Orion

ลองเปรียบเทียให้ฟังว่า ความสูงของ SLS Core Stage นี้ นับเป็นประมาณ 40% ของความสูงอาคาร VAB และเมื่อจรวด SLS ถูกประกอบอย่างเต็มรูปแบบ มันจะมีความสูง 111 เมตร นับเป็น ประมาณ 70% ของความสูงของ VAB

หลังจากที่ได้ชม SLS ใกล้ ๆ กับตาผ่านทาง Transfer Aisle แล้ว เราก็ได้เดินต่อไปยังลิฟท์ของส่วน Tower B เพื่อขึ้นไปส่องการประกอบจรวด Solid Rocket Booster กับ Mobile Launcher ใน High Bay 3

จากภาพด้านบนจะเห็นว่าเราขึ้นมาที่ความสูงระดับหนึ่ง ทำให้เห็นกับตัว Solid Rocket Booster ที่กำลังประกอบอยู่ใน High Bay 3 บน Mobile Launcher

เมื่อเรามองจากส่วน High Bay 4 ไปยัง High Bay 3 เราจะเห็นโครงสร้างขนาดใหญ่ นั่นคือตัว Mobile Launcher และโครงสร้าง Platform สำหรับใช้ในการประกอบตัว Solid Rocket Booster ของ SLS

ช่องว่างตรงกลางระหว่าง Solid Rocket Booster ทั้งสองฝั่งนั้น แน่นอนว่าถูกเผื่อเอาไว้สำหรับจรวด SLS Core Stage นั่นเอง โดยในการประกอบ SLS นั้น จะประกอบจรวด Solid Rocket Booster สองข้างให้เสร็จค่อย จากนั้นค่อยมีการประกอบตัวจรวด SLS นั่นเอง


ใน High Bay 3 นี้ก็ยังเป็น High Bay เดียวกับที่ใช้ประกอบจรวด SLS สำหรับภารกิจ Artemis I ด้วย โดยเราจะเห็นตราสัญลักษณ์ภารกิจ Artemis I แปะอยู่ ซึ่งย้อนกลับไปตอนนั้น กระบวนการก็จะคล้าย ๆ กัน กับตอน Artemis II ตอนนั้นเราได้รายงานไว้ในบทความ Solid Booster กลับมาแล้วในรอบ 10 ปี ประกอบร่างกับ SLS Core เตรียม Artemis 1

จริง ๆ แล้วจาก High Bay 4 ที่เราอยู่ เรายังสามารถมองเห็นฮาร์ดแวร์อีกหนึ่งชิ้นก็คือ Adapter ที่จะเชื่อมระหว่าง SLS Core Stage กับจรวดท่อนที่สองซึ่งก็คือ Interim Cyrogenic Propulsion Stage หรือ ICPS ที่ได้เดินทางมายัง NASA Kennedy Space Center เรียบร้อย แต่เนื่องจากเราไม่ได้รับอนุญาตให้ถ่ายภาพฮาร์ดแวร์ชิ้นดังกล่าว จึงไม่สามารถนำมาแชร์ให้กับทุกคนได้

เมื่อมองจากตรงนี้เราจะเห็นอีกมุมนึงของเครนที่อยู่ที่ความสูงระดับ Low Bay ด้วยเช่นกัน อย่างที่บอกไปเครนตัวนี้ใช้ในการช่วยประของก้นจรวด SLS ในขณะที่มันถูกยกขึ้นเข้าไปใน High Bay อย่างในกรณีของ SLS ก็คือการยกไปเก็บไว้ชั่วคราวก่อน
พออธิบายการทำงานทั้งหมดแบบนี้หลายคนอาจจะยังไม่เห็นภาพ เราแนะนำให้ดูวิดีโอด้านล่างที่ถูกบันทึกไว้โดยทีม Media ของ NASA Kennedy Space Center แสดงให้เห็นการเคลื่อนย้ายเอาจรวด SLS Core Stage เข้าไปไว้ในส่วน High Bay 2

หลังจากการประกอบ SLS เสร็จสมบูรณ์บนตัว Mobile Launcher แล้ว มันจะถูกเคลื่อนออกมาจากอาคาร VAB ผ่านทางประตูขนาดใหญ่ของ High Bay 3 เพื่อมุ่งหน้าไปยังฐานปล่อย LC-39B ที่เป็นฐานปล่อยของจรวด SLS นั่นเอง ซึ่งยานพาหนะที่จะยกเอาตัว Mobile Launcher ไปยังฐานปล่อยก็คือรถยนต์ Crawler (ในภาพด่านล่าง เราจะเห็นจอดอยู่หน้า High Bay 1) ที่จะวิ่งตามทางหินที่เรียกว่า Crawler Way ไปยังฐานปล่อย

และนี่ก็คืออัพเดทล่าสุดที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2025 โดยหากจะให้สรุปว่าเกิดอะไรขึ้นไปแล้ว ก็คือ ณ ตอนนี้ NASA สามารถประกอบ Solid Rocket Booster บน Mobile Launcher ได้ไปแล้ว จนถึงท่อน Center Forward Segment ซึ่งเป็นท่อนที่ 4 จากทั้งหมด 6 ท่อน ทั้งฝั่งซ้ายและขวา ในขณะที่ท่อนที่เหลือ ได้แก่ Forward Segment และ Nose Cone ก็ได้ถูกเคลื่อนย้ายมารอการประกอบ ทำให้เรียกได้ว่าการประกอบ Solid Rocket Booster นั้น ใกล้จะสำเร็จแล้ว
ส่วน SLS Core Stage นั้น หลังจากนี้ก็จะถูกยกมายัง High Bay 3 เพื่อประกอบบน Mobile Launcher และเริ่มประกอบ ICPS และยาน Orion เพียงเท่านี้เราก็จะได้จรวด SLS ที่พร้อมสำหรับภารกิจ Artemis II อย่างเต็มรูปแบบ

เรียกได้ว่าต้องขอบคุณทาง NASA Kennedy Space Center มากที่ได้ชวนให้เรามาเป็นสักขีพยานภารกิจการเดินทางสู่ดวงจันทร์ครั้งประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ ในตอนหน้าเราจะพาไปชมฐานปล่อย LC-39B และรถ Crawler ที่ใช้สำหรับการแบกเอา Mobile Launcher ไปยังฐานปล่อย และแน่นอนว่า ในภารปล่อยภารกิจ Artemis II เราก็จะเก็บเอาบรรยากาศสด ๆ จาก NASA Kennedy Space Center มาให้ทุกคนได้ชมกันอีกเช่นเคย
อ่านบทความ – พาชมฐานปล่อย LC-39B ฐานปล่อยในตำนานแห่ง NASA Kennedy Space Center
เรียบเรียงโดย ทีมงาน Spaceth.co