เมื่อพูดถึงเทคโนโลยีอวกาศแล้วใครที่ติดตามเราบ่อย ๆ ก็น่าจะทราบว่าทุกอย่างที่เราใช้กันไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ กล้องถ่ายรูป WiFi อะไรต่าง ๆ ล้วนมีที่มาที่ไปหรือเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีอวกาศทั้งสิ้น แต่เมื่อพูดถึงที่นอนแล้วหลายคนอาจจะไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้ว เทคโนโลยีอวกาศที่ช่วยปกป้องนักบินอวกาศจากอุณหภูมิที่แปรปรวนสุดขั้วในอวกาศก็สามารถทำให้การนอนหลับของเราในแต่ละคืนสบายมากขึ้นเช่นกัน วันนี้ทีมงาน Spaceth จะพามาดูชุดเครื่องนอนจากทางแบรนด์ Lunio ที่เขาเคลมว่า ใช้เทคโนโลยีซึ่งถูกเรียกว่าเป็น Certified Technology Products
ปกติแล้ว เวลาที่เรานอนหลายคนอาจจะเคยเจอกับปัญหาเวลาที่เรานอนอาจจะตื่นมาเหงื่อออกตอนกลางคืน หรือบางทีห่มผ้าแล้วรู้สึกว่าอุณหภูมิปกติ แต่พอนอน ๆ ไปกลับร้อนขึ้นมา ต้องลุกมาปรับแอร์หรือถีบผ้าห่ม ซึ่งจริง ๆ แล้วที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่า ผ้าห่มปกติที่เราใช้อาจจะทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้ความร้อนจากตัวเราออกไป และอบให้ความร้อนอยู่กับตัวเรา ซึ่งพอนอนไปนาน ๆ ก็อาจไม่สบายตัวได้นั่นเอง
ดังนั้น วิธีการแก้ปัญหาคือ ไม่ว่าจะหมอน หรือผ้าห่ม ควรปรับอุณหภูมิของตัวเรา และตัวมันเองให้คงที่ที่สุด การนอนของเราจึงจะเป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งเทคโนโลยีนี้เรียกว่า Adaptive Cooling หรือในชื่อว่า Outlst
รู้จักกับเทคโนโลยี Outlast ที่มาจากเทคโนโลยีอวกาศ
เทคโนโลยี Outlast ที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้นั้น ต้องเล่าก่อนว่าเวลาที่นักบินอวกาศออกไปทำ EVA หรือทำ Space Walk ในอวกาศ อุปสรรคของอวกาศอย่างหนึ่งก็คืออุณหภูมิ จริงอยู่ที่ว่าในอวกาศไม่มีอากาศ แต่การแผ่รังสีความร้อนจากดวงอาทิตย์ ก็ทำให้อุณหภูมิในแต่ละจุดของผิวนอกของชุดนักบินอวกาศ ต่างกันสุดขั้ว ในด้านที่หันหน้าเข้าหาดวงอาทิตย์ และด้านที่หันออกจากดวงอาทิตย์ อุณหภูมิที่ต่างกันสุดขั้วนี้ อาจทำให้การออกไปนอกอวกาศเป็นอันตรายสำหรับนักบินอวกาศได้ แถมในการออกไปนอกยานหรือ EVA แต่ละครั้งอาจจะกินเวลานานถึง 6-8 ชั่วโมงเลยทีเดียว ถ้าต้องอยู่ในชุดที่อุณหภูมิเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแบบนี้แย่แน่ ๆ
NASA จึงได้พยายามพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ ขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาตรงนี้ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาวัสดุที่สามารถกระจายความร้อนได้อย่างทั่วถึง หรือแม้กระทั่งการพัฒนาชุดที่มีชั้นที่เป็นของเหลวและใช้วิธีการระบายความร้อนด้วยน้ำ แต่หนึ่งในเทคโนโลยีที่ได้มีการพัฒนาขึ้นมานั้นก็คือ Phase Change Material (PCMs)
หลักการของ Phase Change Material ก็คือการที่ตัววัสดุที่ชื่อว่า Thermoclue นั้นจะทำหน้าที่ดูดซับความร้อนส่วนเกินไว้ จากนั้นจะค่อย ๆ ถ่ายความร้อนกลับมาให้เรา ทำให้อุณหภูมิที่ได้เมื่อเวลาผ่านไปในระดับนึงแล้วจะยังคงที่อยู่ หรือถ้าเพิ่มขึ้นหรือลดลงก็จะเป็นไปอย่างช้า ๆ ค่อยเป็นค่อยไป ไม่เกิดการแปรปวนของอุณหภูมิกระทันหันซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เราตื่นขึ้นมาเหงื่อออกนั่นเอง
ให้ลองนึกหลักการง่าย ๆ เหมือนกับน้ำ แนวคิดตามหลัก Thermodynamic เบื้องต้นแล้ว จริง ๆ ในโลกนี้หรือในจักรวาลนี้ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าความเย็น มีแค่ความร้อน ร้อนมากหรือร้อนน้อยก็อีกเรื่อง เวลาที่เราเอาน้ำใส่แก้วไว้ ตัวน้ำก็จะมีอุณหภูมิ ณ อุณหภูมิหนึ่ง แต่เมื่อเรานำน้ำแข็งที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าใส่ลงไป ก็จะทำให้น้ำอุณหภูมิลดลงได้ แต่ความร้อนที่เคยอยู่ในน้ำนั้น มันก็ไม่ได้หายไปไหน แต่ถูกน้ำแข็งดูดเข้าไปอยู่ในตัวมันเองนั่นเอง ก่อนที่น้ำแข็งจะค่อย ๆ ละลาย และคายความร้อนกลับไปสู่น้ำในแก้ว เมื่อเวลาผ่านไป อุณหภูมิของทั้งน้ำและน้ำแข็งก็จะอยู่กึ่งกลางเสมอกันเมื่อเทียบกับตอนแรกนั่นเอง
จริง ๆ แล้ว ถ้าพูดกันตรง ๆ หลักการพวกนี้ สามารถนำไปใช้ได้กับวัสดุหลากหลายรูปแบบ สสารหลากหลายตัว มีคุณสมบัตินี้อยู่แล้ว แต่การคัดเลือก และปรับปรุงวัสดุที่เราจะนำมาเป็น PCM ในเทคโนโลยี Outlast นี้นั้นได้มาจากการร่วมพัฒนาโดย NASA เพื่อจะเลือกวัสดุที่เป็น PCM ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการนำไปใช้ในอวกาศนั่นเอง
ซึ่งเทคโนโลยีที่จะมาเป็น Outlast ในเครื่องนอนของเราในที่สุดก็ได้แก่ Microencapsulated Phase Change Material (mPCM) ที่ได้รับการพัฒนาและส่งต่อออกมาให้กับบริษัทเอกชน เพื่อนำมาใช้งานในการผลิตเป็นสินค้ารูปแบบต่าง ๆ รวมถึงชุดเครื่องนอน หมอน ผ้าห่ม ต่าง ๆ ที่ทาง Lunio ก็ได้นำเทคโนโลยี Outlast จาก บริษัท Outlast Technology มาใช้นั่นเอง
ชุดเครื่องนอนของ Lunio ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Outlast
ชุดเครื่องนอนที่ทาง Lunio ได้นำเทคโนโลยี Outlast มาใช้นั้น ตอนนี้ มีถึง 4 ตัวด้วยกัน ได้แก่ผ้าห่ม (ซึ่งแน่ ๆ อยู่แล้วว่าเป็นการทำงานที่เกี่ยวกับความร้อนโดยตรง) แบบ Adaptive Cooling Duvet และหมอน ทั้ง 3 รุ่นที่ออกแบบมารองรับความชอบของคน 3 สไตล์ ที่วันนี้ทีมงาน Spaceth จะค่อย ๆ พามาชมทีละตัวกัน
Adaptive Cooling Duvet ผ้าห่มปรับอุณหภูมิ
สำหรับตัวผ้าห่ม Adaptive Cooling Duvet นั้น จะเป็นตัวผ้าห่มปรับอุณหภูมิ ที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี Outlast โดยตรง ซึ่งคุณสมบัติที่สำคัญนอกจากจะใช้ Outlast ในการ ปรับอุณหภูมิตามที่เล่าไปด้านบนแล้ว ตัวผ้าห่มเองยังมีคุณสมบัติการทอเส้นใยที่เรียบเสมอกัน คือเส้นใย Lumiere Fiber คุณสมบัติของเขาก็คือไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ลดการสะสมของไรฝุ่น ไม่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้
สำหรับ Adaptive Cooling Duvet ตอนนี้จากราคาปกติ 3.5 ฟุต 3,990 บาท ลดเหลือ 2,890 บาท 5.6 ฟุต 5,590 ลดเหลือ 3,990 บาทเท่านั้น
หมอนทั้งสามรุ่น ได้แก่ Ergo-Support, Hybrid และ Cloud
นอกจากผ้าห่มแล้ว สินค้าที่นำเอาทั้งเทคโนโลยี Outlast และเส้นใย Lumiere Fiber มาใช้ก็ได้แก่หมอนทั้ง 3 แบบของทาง Lunio ที่มีรุ่นย่อยออกมาถึง 3 รุ่น เหมาะสำหรับความต้องการ 3 แบบ 3 สไตล์ ซึ่งได้แก่
- Ergo-Support เป็นหมอนที่ออกแบบมาเพื่อรองรับคอ บ่า และไหล่ โดยตัวหมอนมีคุณสมบัติของ Memory Foam (ซึ่งก็เป็นเทคโนโลยีอวกาศเช่นกัน) ใช้การออกแบบลักษณะ Contour shaped ปรับปรุงการนอนให้ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ สามารถนอนได้ทุกท่า เหมาะสำหรับผู้ที่ปวดคอจากการนอน โดยหมอนรุ่น Ergo-Support นี้ มีราคาอยู่ที่ 2,790 บาท ตอนนี้ลดเหลือ 1,790 บาท
- Hybrid สำหรับใครที่ยังคงต้องการคุณสมบัติการรองรับร่างกายในลักษณะของหลักสรีรศาสตร์แต่ก็ยังต้องการความสบายในการนอนกับหมอนนุ่ม ๆ สำหรับหมอนรุ่น Hybrid นี้ ทาง Lumio ได้นำข้อดีของทั้งคู่มารวมกัน ทำให้เกิดลักษณะเป็นหมอนแบบ Pillow in Pillow คือมีเหมือนกับหมอนสองใบอยู่ข้างในกัน โดยยังคงได้รับคุณสมบัติของทั้งคู่อยู่ หมอนแบบ Hybrid นี้จาก 2,790 บาท ตอนนี้ลดเหลือ 1,790 บาท
- Cloud สำหรับหมอนแบบ Cloud เหมาะสำหรับใครที่ชอบนอนหมอนนุ่ม ๆ ยืนหยุ่น ระบายอากาศได้ดี ไม่สะสมไรฝุ่น จากราคาเดิม 1,990 บาทลดเหลือ 990 บาทเท่านั้น
ที่สำคัญต้องอย่าลืมว่าสินค้าทั้ง 4 ตัวนี้ ทุกตัว มีเทคโนโลยี Outlast ทั้งหมด ไม่ว่าจะชอบหมอนแบบไหน สไตล์แบบไหน ก็สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีจากอวกาศได้ทุกรุ่น รวมถึงคุณสมบัติจาก Lumiere Fiber ซึ่งเป็นเส้นใยที่ไม่มีกลิ่น นุ่มสบาย คืนตัวได้ดีและระบายอากาศ ซึ่งก็เป็น Highlight ที่สำคัญของสินค้าจาก Lunio ทั้ง 4 ตัวนี้นั่นเอง
สรุป สินค้าจาก Lunio ทั้ง 4 ตัว ทำไมถึงน่าลงทุน และเกี่ยวข้องกับสุขภาพของเราในระยะยาว
สรุปแล้ว หลังจากที่เราได้พาไปดูชุดเครื่องนอนจาก Lunio ที่ใช้เทคโนโลยีอวกาศ ก็ทำให้เราสรุปได้ว่าจริง ๆ แล้วการนอนหลายคนอาจจะคิดว่าไม่ได้สำคัญ มีที่นอนก็นอน ๆ ไปให้หลับ แต่จริง ๆ แล้ว การนอนที่มีประสิทธิภาพนั้นเกิดจากปัจจัยที่เราหลาย ๆ คนอาจมองข้าม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอุณหภูมิ การจัดการกับความร้อน ลักษณะของเส้นใย ไปจนถึงรูปทรงของหมอนที่เราใช้ ซึ่งถ้าเราเลือกชุดเครื่องนอนที่เหมาะกับสไตล์การใช้ชีวิตของเรา ก็จะช่วยให้การพักผ่อนของเรามีประสิทธิภาพและสามารถทำให้เราตื่นขึ้นมาในเช้าแต่ละวันและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตามไปด้วย
ดังนั้นเทคโนโนโลยีที่เกี่ยวกับการนอนจึงเป็นหนึ่งในสิ่งที่น่าลงทุน เพื่อผลตอบแทนกับสุขภาพในระยะยาว แม้กระทั่งเทคโนโลยีจากอวกาศ ก็ยังถูกนำมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหาการนอน ดังนั้นสิ่งเหล่านี้สำคัญเกินกว่าจะมองข้ามได้ และคุ้มกับการลงทุนแน่ ๆ
สำหรับรายละเอียดของสินค้าจาก Lunio สามารถดูได้จาก Lunio.co.th และ Facebook Lunio Life
เรียบเรียงโดย ทีมงาน Spaceth.co