NASA ได้ออกมาประกาศเป็นครั้งแรกถึงแผนการช่วยเหลือนักบินอวกาศในภารกิจ Crew Flight Test หลังจากการพบปัญหาฮีเลียมรั่วไหลบนยานอวกาศ Starliner และปัญหาเครื่องยนต์ Thruster ในระบบ Reaction Control System ไม่ทำงานบางส่วน
7 สิงหาคม 2024 เป็นวันที่เกิดเหตุการณ์หลายอย่างที่สะท้อนความไม่พร้อมของ Starliner ในการพาสองนักบินอวกาศ Butch Wilmore และ Suni Williams กลับบ้าน ในวันนี้นั้นยานอวกาศ Cygnus ในภารกิจ CRS-21 เดินทางเข้าเทียบท่าสถานีอวกาศนานาชาติพร้อมกับเสื้อผ้าชุดใหม่ให้กับสองนักบินอวกาศ Butch และ Suni และได้มีการประกาศเลื่อนภารกิจการส่งนักบินอวกาศกลุ่ม Crew-9 เดินทางไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ จากเดิมในช่วงกลางเดือนสิงหาคม 2024 ไปเป็นวันที่ 24 กันยายน 2024 โดยให้เหตุผลว่า For Operational Flexibility” หรือเพื่อความยืดหยุ่นในการปฏิบัติการ โดยยังไม่ได้ประกาศอะไรเพิ่มเติม
แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนของเช้าวันใหม่ 8 สิงหาคม 2024 NASA ได้จัดงานแถลงข่าว International Space Station Operations Update Media Teleconference โดยมีผู้เข้าร่วมแถลงเป็น Ken Bowersox ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายภารกิจอวกาศของ NASA, Steve Stich ผู้จัดการโครงการ Commercial Crew Program และ Dana Weigel ผู้จัดการโครงการ International Space Station
Steve Stitch ได้กล่าวว่า ได้มีการวางแผนให้นักบินทั้งสองเดินทางกลับโลกด้วยยาน Dragon ที่ถูกส่งขึ้นไปสำหรับภารกิจ Crew-9 ด้วยการลดจำนวนนักบินอวกาศในภารกิจ Crew-9 จาก 4 คน เหลือ 2 คน โดยในระหว่างนี้ NASA จะคอยประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง (นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม Crew-9 ถูกเลื่อนออกไปด้วนเช่นกัน) โดยหากเป็นเช่นนั้น Butch และ Suni จะได้ใช้ชีวิตอยู่บนอวกาศยาว ๆ และได้กลับโลกในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 พร้อมกับลูกเรือ Crew-9 ซึ่งเป็นกำหนดการณ์เดิมอยู่แล้ว
เดิมทีภารกิจ Crew-9 จะเดินทางสู่อวกาศพร้อมกับนักบินอวกาศ 4 คนได้แก่ ผู้บัญชาการภารกิจ Zena Cardman นักบิน Nick Hague และสอง Mission Specialist ได้แก่ Stephanie Wilson และ Aleksandr Gorbunov (ลูกเรือแลกเปลี่ยนจาก Roscosmos) หากผลการทดสอบออกมาพบว่า Starliner ไม่พร้อมจะพา Butch และ Suni กลับโลกจริง ๆ สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ NASA จะปลดยาน Starliner ให้เดินทางกลับโลกโดยไม่มีนักบินเดินทางลงมาด้วย หลังจากนั้น จะปล่อยภารกิจ Crew-9 ขึ้นสู่อวกาศ และให้นักบินอวกาศกลุ่ม Crew-8 เดินทางกลับโลก
NASA ยังไม่มีการประกาศออกมาว่าในบรรดาลูกเรือสี่คนนี้จะต้องตัดใครออก แต่ก็สามารถคาดการณ์ได้ว่าน่าจะเป็น Wilson และ Gorbunov เนื่องจาก Zena Cardman และ Nick Hague นั้นอยู่ในตำแหน่งที่จำเป็นกว่า คือเป็น Commander และ Pilot นั่นเอง
ในการแถลงข่าวยังได้มีการตอบคำถามนักข่าวว่า เหตุใด NASA ไม่ตัดสินใจปรับเปลี่ยนยาน Dragon ให้ลองรับลูกเรือ 6 คนแทนเพราะเดิมที SpaceX ได้ออกแบบยาน Dragon ให้ลองรับลูกเรือได้ถึง 7 คน แต่ NASA ก็บอกว่าการปรับเปลี่ยนดังกล่าวจะกระทบต่อแผนการณ์เดิมไปยิ่งกว่า แถมยังมีข้อจำกัดเกี่ยวกับโซนเก็บสัมภาระอื่น ๆ ทำให้การใช้ความจุของยาน Dragon แบบ 4 ที่นั่ง เป็นแผนที่ดีที่สุด
ปัจจุบันยานอวกาศ Starliner นั้นเชื่อมต่ออยู่กับ Docking Port ฝั่งหน้า (Foward) และมียาน Dragon ภารกิจ Crew-8 เชื่อมต่ออยู่ที่ Docking Port ฝั่งบน (Zenith) ในโมดูล Tranquility ของสถานีอวกาศนานาชาติ ซึ่งแน่นอนว่าเต็มความจุของการเชื่อมต่อ ทำให้หาก Crew-9 จะขึ้นไป จะต้องมีการปลดเอา Starliner ออกก่อน
แม้แผนนี้จะยังไม่ได้รับการถูกเลือกมาใช้ เนื่องจาก NASA ยังคงเหลือเวลาให้ Boeing ได้ทดสอบความพร้อมของยานและประเมินสถานการณ์ในช่วงเดือนสิงหาคมเพิ่มเติม แต่ก็นับว่าเป็นการเปิดเผยต่อสาธารณะครั้งแรกหลังจากที่ก่อนหน้านี้ NASA ปฏิเสธว่ายังไม่มีการเตรียมแผนฉุกเฉินสำหรับช่วยเหลือ Butch และ Suni เดินทางกลับโลกด้วยยานอวกาศลำอื่นที่ไม่ใช่ Starliner
Starliner ขึ้นสู่อวกาศในวันที่ 5 มิถุนายน 2024 หลังจากที่มีการเลื่อนการปล่อยมาหลายครั้ง โดยการเลื่อนครั้งแรกนั้นเกิดจากตัวจรวด Atlas V ไม่พร้อม ทีมงานสเปซทีเอช ก็ได้เดินทางไปรายงานสด ณ ฐานปล่อย และเก็บบรรยากาศมาฝากในบทความ สรุปบรรยากาศทดสอบ CFT-1 ยาน Starliner และการเลื่อนปล่อย โดยหลังจากการปล่อย Starliner ได้พบปัญหาฮีเลียมรั่วไหลหนักขึ้นกว่าเดิม และยังมีปัญหาใหม่งอกขึ้นมาก็คือ Thruster บางส่วนยังคงมีปัญหาอยู่ คล้ายกับกรณีของเที่ยวบินทดสอบไร้นักบินเมื่อช่วงปี 2019 และ 2022 (อ่าน – ย้อนอดีตกว่าจะเป็น CFT-1 เที่ยวบินมีลูกเรือครั้งแรกของ Boeing CST-100 Starliner และ OTF-2 ภารกิจทดสอบ CST-100 Starliner ของแมวเก้าชีวิตอย่าง Boeing )
อ่านรายงานปัญหาในยาน Starliner ช่วยกลางเดือนกรกฎาคมได้ในบทความ – Starliner กับปัญหาแก๊สรั่วบนสถานีอวกาศ ทำไมยังไม่กลับบ้าน
หลังจากนั้น Boeing ได้ทำการทดสอบยาน Starliner ครั้งใหญ่ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม โดยผลที่ Boeing รายงานออกมานั้นก็เป็นทั้งการทดสอบจากภาคพื้นดินบนโลก, การทดสอบติดเครื่องยนต์ในอวกาศ (hot fire) และการทำ Computer Simulation รวมไปถึงการฝึกซ้อมแผนสำรอง Backup สำหรับการกลับสู่โลกในกรณีที่เกิดปัญหากับเครื่องยนต์หลักและต้องใช้เครื่องยนต์สำรอง ซึ่งปัจจุบันวิศวกรก็ยังคงอยู่ระหว่างการศึกษาผลการทดสอบดังกล่าว
ถือว่าแผนนี้เป็นสิ่งที่สะท้อนปัญหาของ Starliner อย่างชัดเจน แต่ทั้งหมดก็เพื่อความปลอดภัยของนักบินอวกาศ โดย NASA นั้นเคยมีบทเรียนจากการสูญเสียนักบินอวกาศมามากหมายหลากหลายเที่ยวบินในอดีต ที่ยอมให้นักบินอวกาศเดินทางกับยานอวกาศที่ไม่มีความพร้อม เราจึงอาจมองได้ว่า การตัดสินใจที่ NASA มีต่อ Starliner นี้ เป็นหัวใจสำคัญของการตัดสินใจที่เป็นบทเรียนมาจากการสูญเสียในอดีต
สุดท้ายผลจะออกมาเป็นอย่างไร ก็คงต้องติดตามการตัดสินใจของ NASA ร่วมกับ Boeing อย่างใกล้ชิด ซึ่งถ้าหากผลออกมาว่า Butch และ Suni จะเดินทางกลับมายังโลกด้วยยาน Starliner ลูกเรือ Crew-9 ก็จะกลับมาเป็น 4 คนเหมือนเดิม แต่หาก Starliner ไม่พร้อมจริง ๆ เราก็น่าจะได้เห็นการช่วยเหลือลูกเรือด้วยยานอวกาศอีกลำครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ NASA
และสุดท้าย Starliner ก็คงต้อง “สอบตกอีกครั้ง” และยังไม่ได้ถูกนำมาให้บริการในเที่ยวบินแบบ Commercial Crew ที่เป็นการส่งนักบินขึ้นสู่สถานีอวกาศนานาชาติอย่างเต็มรูปแบบในเร็ววัน
เรียบเรียงโดย ทีมงาน Spaceth.co