25 สิงหาคม 2024 ณ NASA Johnson Space Center ในเท็กซัส NASA ได้จัดงานแถลงข่าวแผนการเดินทางกลับโลกของสองนักบินอวกาศ Barry “Butch” Wilmore และ Sunita “Suni” Williams ลูกเรือเที่ยวบิน Crew Flight Test หรือการทดสอบบินพร้อมนักบินของยานอวกาศ Boeing Starliner หลังจากที่ตัวยานเกิดปัญหาการรั่วไหลของแก๊สฮีเลียม และปัญหาด้านเครื่องยนต์หลายตัว หลังบินขึ้นจากโลกเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2024 ที่ผ่านมา และเปิดเผยว่า NASA วางแผนให้ลูกเรือทั้งสองเดินทางกลับโลกพร้อมกับลูกเรือกลุ่ม Crew-9 ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2025 และ ในเดือนกันยายน จะมีการถอนเอายาน Starliner เดินทางกลับโลกโดยไม่มีลูกเรือเดินทางไปด้วย
ในการแถลงข่าวนี้ ประกอบไปด้วย Bill Nelson ผู้อำนวยการ NASA, Jim Free และ Ken Bowersox ผู้เป็น Associate Administrator ของ NASA, Steve Stitch หัวหน้าโครงการ Commercial Crew, Dana Weigel หัวหน้าโครงการ International Space Station และ Norman Knight โดยจะสังเกตว่าทั้งหมดนี้ เป็นตัวแทนจากฝั่ง NASA หมดเลย และไม่มีผู้บริหารหรือเจ้าหน้าที่ของ Boeing ร่วมการแถลงข่าวด้วย
การแถลงข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากการทำ Agency Flight Readiness Review โดยผู้บริหารระดับสูงของ NASA และ Boeing ที่รับผิดชอบในโครงการ
Bill Nelson ประกาศทันทีในการแถลงข่าวบอกว่า NASA ได้ตัดสินใจให้ Butch Wilmore และ Suni Williams เดินทางกลับโลกร่วมกับลูกเรือกลุ่ม Crew-9 และ Boeing ก็ได้ทำงานร่วมกับ NASA อย่างหนัก จนนำมาซึ่งการตัดสินใจในวันนี้ ที่จะนำไปสู่การพัฒนายาน Starliner ให้ดีขึ้น Nelson บอกว่าเขาได้พูดคุยกับ Kelly Ortberg ผู้อำนวยการคนใหม่ของ Boeing (เพิ่งเข้ารับตำแหน่งวันที่ 8 สิงหาคม 2024) โดย Ortberg บอกว่า Boeing จะยังคงพัฒนายาน Starliner ให้เป็นหนึ่งในยานอวกาศสำหรับเดินทางไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ
การตัดสินใจครั้งสำคัญของ NASA ในโลกการสำรวจอวกาศยุคใหม่
“การตัดสินใจนี้ มาจากบริบทว่าเราเคยมีความผิดพลาดในอดีต นำไปสู่การสูญเสียกระสวยอวกาศถึงสองลำ” Bill Nelson กล่าว พร้อมอธิบายกระบวนการในการตัดสินใจของ NASA ที่ว่าหากมีผู้ใดคัดค้าน แม้จะเป็นเสียงเพียงเสียงเดียว สิ่งนั้นจะส่งผลต่อการตัดสินใจของภารกิจ ก่อนหน้านี้ NASA ได้ออกมายอมรับว่า เกิดการเสียงแตกกันภายในต่อแผนการนำนักบินอวกาศ Crew Flight Test เดินทางกลับโลก จนนำไปสู่การออกแบบ “แผนทางเลือก” ในการพา Butch และ Suni เดินทางกลับโลกด้วยยาน Dragon ของ SpaecX ที่ประกาศออกมาช่วงต้นเดือนสิงหาคม NASA วางแผน พาลูกเรือ Starliner กลับโลกด้วยยาน Dragon และในที่สุดแผนนั้นก็ได้ถูกนำมาใช้ “ความปลอดภัยคือแก่นของเรา” Nelson ย้ำกับทุกคน
บรรยากาศของงานแถลงข่าวในวันนี้ เรียกได้ว่าค่อนข้างเต็มไปด้วยการแสดงกำลังใจ และคำขอบคุณให้กับคนทำงานในทุกระดับ Jim Free ได้พูดถึงการทำงานของทีมงานตลอดระยะเวลากว่า 4 เดือนที่ผ่านมา ที่ทุกคนทำงานอย่างหนัก ในช่วงที่รัฐฟลอริดา ประสบปัญหาพายุ น้ำท่วม แต่ทุกคนก็ยังคงเดินทางมาทำงานทุกวัน และนำเอาความปลอดภัยมาเป็นหัวใจสำคัญของทุกการตัดสินใจ
ปัญหาของ Starliner นั้นเกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนการปล่อย เมื่อวิศวกรตรวจพบการรั่วไหลของแก๊สฮีเลียมที่ใช้ในระบบปรับความดันของเครื่องยนต์ (Thruster) ของยาน Starliner แต่ยังคงตัดสินใจทำการปล่อยต่อไป เราได้รายงานเรื่องนี้ไปในบทความ สรุปบรรยากาศทดสอบ CFT-1 ยาน Starliner และการเลื่อนปล่อย ซึ่งในตอนนั้นเราได้เดินทางไปร่วมชมการปล่อย ณ แหลมคะเนอเวอรัล เมื่อตัวยานเดินทางถึงสถานีอวกาศแล้ว ปัญหาดังกล่าวก็ค่อย ๆ ใหญ่และซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ และเราได้รายงานไว้ในบทความ Starliner กับปัญหาแก๊สรั่วบนสถานีอวกาศ ทำไมยังไม่กลับบ้าน
สำหรับลำดับเหตุการณ์ของสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากการตัดสินใจดังกล่าวนั้น หลังจากที่ NASA ประกาศเลื่อนการบินขึ้นของภารกิจ Crew-9 เพื่อส่งลูกเรือกลุ่มใหม่ 4 คนจากเดือนสิงหาคมเป็นเดือนกันยายน และอาจลดจำนวนลูกเรือให้เหลือแค่ 2 คน เพื่อเหลือพื้นที่ให้ Butch และ Suni ในขากลับ ทาง NASA ออกมาเปิดเผยว่า
- ในช่วงต้นเดือนกันยายน Starliner จะถูกปลดออกจากสถานีฯ และเดินทางกลับโลก เพื่อให้ทีมได้ศึกษาและวางแผนการปรับปรุงตัวยานที่ดีขึ้นในอนาคต โดย Starliner จะลงจอดบริเวณทะเลทราย ในรัฐนิวเม็กซิโก ตามแผนเดิม
- ในระหว่างที่รอยาน Dragon ในภารกิจ Crew-9 เดินทางขึ้นมา Butch และ Suni จะมียานอวกาศ Dragon ของลูกเรือกลุ่ม Crew-8 เป็นยานอวกาศสำรอง โดยหากเกิดเหตุฉุกเฉินกับสถานีฯ จนต้องอพยกฉุกเฉิน ทั้งสองจะเดินทางกลับโลกด้วยการยึดตัวเองเข้ากับส่วนบรรทุก Payload ในห้องโดยสารของยาน
สำหรับแผนอพยพด้านบนนั้น ก็เป็นไปตาม Protocal ความปลอดภัย ที่นักบินทุกคนจะต้องมียานอวกาศสำรองเพื่อเดินทางกลับโลก โดยเหตุการณ์นี้ยากที่จะเกิดขึ้น แต่ถ้าเกิดขึ้นจริง เราก็จะมั่นใจได้ว่า เมื่อยาน Crew-9 ยังมาไม่ถึง ทั้งสองจะยังคงปลอดภัยเสมอ
- หลังจากนั้น ภารกิจ Crew-9 จะเดินทางขึ้นสู่สถานีอวกาศ พร้อมนักบิน 2 คน (ที่ NASA ยังไม่ได้ประกาศว่าจะเป็นใครจาก 4 รายชื่อเดิม) และเชื่อมกับสถานีอวกาศนานาชาติ โดยกำหนดการปล่อย จะไม่เร็วไปกว่า (Not Earlier Than) วันที่ 24 กันยายน 2024 ที่จะถึง และเชื่อมต่อเข้ากับ Port ฝั่งหน้าสุดของสถานีฯ ที่ Starliner เคยเชื่อมต่อ
- หลังจากการเชื่อมต่อของ Crew-9 ยาน Dragon Crew-8 จะถอนตัวออกจากสถานีเดินทางกลับสู่โลก และให้ยาน Dragon จากภารกิจ Crew-9 ไปเชื่อมต่อกับ Port ฝั่งทิศหันเข้าโลกที่ Crew-8 เคยเชื่อม
- หลังจากนั้นเที่ยวบินที่จะเกิดขึ้นอันได้แก่ ก็จะเป็นการส่งลูกเรือในภารกิจ Soyuz MS-28 ในช่วงเดือนกันยายน 2024 และหลังจากนั้น CRS-31 ซึ่งเป็นเที่ยวบินเติมเสบียงของ SpaceX ที่จะเชื่อมต่อเข้ากับ Port ฝั่งหน้าของสถานีอวกาศนานาชาติ
Dana Weigel กล่าวว่า Butch และ Suni นั้นจะทำงานร่วมกับลูกเรือกลุ่ม Expedition 72 บนสถานีอวกาศนานาชาติ และทำการทดลองต่าง ๆ ไปจนถึงช่วงเวลาที่จะเดินทางกลับโลกในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 และย้ำว่าการอยู่ในอวกาศเป็นระยะเวลา 8 เดือนนั้น ใกล้เคียงกับภารกิจบนสถานีอวกาศนานาชาติปกติ (ประมาณ 6 เดือน) และเคยมีการดำรงอาศัยในอวกาศเป็นเวลามากกว่า 1 ปี ดังนั้นการอยู่บนอวกาศต่อเป็นระยะเวลา 8 เดือนเป็นเรื่องปกติของนักบินอวกาศ
ก่อนหน้านี้ในปี 2022 และ 2023 เคยมีปัญหาที่เกิดขึ้นกับยาน Soyuz MS-22 จนนำไปสู่ Soyuz MS-23 ภารกิจส่งยานเปล่ารับนักบินอวกาศที่ยานเสียหาย ทำให้นักบินอวกาศ Sergey Prokopyev, Dmitry Petelin และ Francisco Rubio ต้องเดินทางกลับโลกช้ากว่ากำหนดเช่นกัน ซึ่งสิ่งนี้ยิ่งตอกย้ำว่าการสำรวจอวกาศมีควาามเสี่ยงเสมอ แม้จะเป็นยานอวกาศที่ทำภารกิจมาเป็นระยะเวลานาน หลากหลายภารกิจในอดีตก็ตาม
อนาคตของยาน Starliner จะเป็นอย่างไร
Crew Flight Test เป็นการทดสอบเชื่อมต่อครั้งที่ 3 ของโครงการ Starliner ที่ Boeing ได้รับทุนการพัฒนายานอวกาศสำหรับขนส่งนักบินอวกาศ ไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ คู่กับบริษัท SpaceX ภายใต้โครงการ Commercial Crew ของ NASA โดย Timeline การทดสอบของ Boeing นั้น เรียกได้ว่าไล่เรี่ยกับ SpaceX ในช่วงปี 2019 ที่ในตอนนั้นทั้งสองบริษัท ได้กำหนดส่งเที่ยวบินทดสอบแรก (Demo-1 สำหรับ SpaecX และ Orbital Flight Test สำหรับ Boeing) ซึ่ง SpaceX ได้ส่งยาน Dragon เปล่าเทียบท่าสถานีฯ สำเร็จ แต่ Boeing กลับยังไม่ประสบความสำเร็จและไม่สามารถเชื่อมต่อกับสถานีอวกาศนานาชาติได้ เราได้เล่าเรื่องนี้ไปในบทความ ย้อนอดีตกว่าจะเป็น CFT-1 เที่ยวบินมีลูกเรือครั้งแรกของ Boeing CST-100 Starliner หลังจากนั้นในปี 2020 SpaceX ก็ประสบความสำเร็จในการส่งลูกเรือทดสอบไปยังสถานีฯ ในภารกิจ Demo-2 และเริ่มทำภารกิจตระกูล Commercial Crew (Crew-1 เป็นต้นมา) มานับจากนั้น ในขณะที่ Boeing ก็มาไล่ตามทันในภารกิจ Orbital Flight Test ครั้งที่ 2 ในปี 2022 OTF-2 ภารกิจทดสอบ CST-100 Starliner
การทดสอบ Crew Flight Test นั้นคือด่านสุดท้ายของการได้รับ Certificate แต่จากปัญหาที่เราเห็นกัน ทำให้เดาไม่ยากว่า NASA จะยังไม่สามารถให้ Boeing นำเอายาน Starliner มาให้บริการรับส่งนักบินไปกลับสถานีฯ ได้แน่ ๆ และจำเป็นต้องมีการสอบซ่อมอีกครั้ง ในเที่ยวบิน Crew Flight Test 2 (CFT-2) คล้ายกับกรณีของการทำ OFT ที่เกิดขึ้นถึงสองครั้งด้วยกัน โดยในงานแถลงข่าว Bill Nelson ตอบว่า การทดสอบดังกล่าวจะเกิดขึ้นอีกรอบอย่างแน่นอน 100%
แต่ก็ต้องบอกว่า Timeline ที่ถูกเลื่อนออกไปนั้นกระทบต่อการทำงานของสถานีอวกาศนานาชาติแน่นอน เพราะเดิมทีภารกิจการส่งลูกเรือครั้งแรกของ Boeing ที่เรียกว่า Starliner-1 (เทียบเท่ากับ SpaceX Crew-1) ถูกวางแผนไว้ว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2024 ก็ถูกเลื่อนออกไปเป็นช่วงปี 2025 และก็คาดว่าคงถูกเลื่อนไปอีก โดยรายชื่อของลูกเรือชุดล่าสุดที่จะบินกับ Starliner-1 นั้นก็ได้แก่ Scott Tingle, Michael Fincke จาก NASA, Joshua Kutryk จาก Canadian Space Agency หรือ CSA และ Kimiya Yui จาก JAXA ญี่ปุ่น
สุดท้าย ก็คงต้องรอดูว่า Boeing จะออกมาแสดงออกอย่างไรต่อเหตุการณ์นี้ เพราะ ณ ตอนนี้ วันที่ 26 สิงหาคม 2024 ก็ยังไม่ได้มีแถลงการณ์ใด ๆ ออกมา นอกจากการ ประกาศลงบน Social Media ว่า Boeing นั้นทำตามแผนของ NASA และโฟกัสบนความปลอดภัยของลูกเรือและนักบินอวกาศ โดยจะพายานอวกาศ Starliner กลับสู่โลกอย่างปลอดภัยโดยไม่มีลูกเรือเดินทางมาด้วย
สำหรับวันและเวลาในการนำยาน Starliner กลับมา ก็ต้องรอทั้ง Boeing และ NASA ประกาศในลำดับถัดไป
เรียบเรียงโดย ทีมงาน Spaceth.co