การขี้ในอวกาศ

เนื่องด้วยในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นั้น ผู้เขียนก็ได้มีอาการท้องร่วงอย่างรุนแรง ซึ่งมันทำให้หมดความสนุกของช่วงเทศกาลแห่งความสุขไปเลย ทำให้ช่วงเวลานี้ไม่สามารถออกไปเที่ยวเทศกาลได้เหมือนคนทั่วไปเพราะต้องเสียเวลานั่งเล่นในห้องส้วมเหงาๆ เลยใช้เวลานั่งเหงาไปกับการศึกษาศาสตร์แห่งการขี้

เมื่อการขี้ไม่ใช่เรื่องขี้ๆ แต่เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่กว่าเรื่องขี้ ๆ เผลอๆ ใครหลายคนอาจเลิกความใฝ่ฝันไปอวกาศเลยก็เป็นไปได้

เรื่องราวนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก WitCast 21.4 ต้องขอบคุณทาง WitCast นี่นำเรื่องราวเหล่านี้มาเล่า WitCast เป็นรายการ Podcast เล่าเรื่องวิทยาศาสตร์รูปแบบใหม่ สามารถไปติดตามกันได้

กินแล้วต้องขี้

เมื่อเรากินอะไรเข้าไปแล้วก็ต้องขับถ่ายออกมาในรูปแบบของขี้เป็นธรรมดา หากกินอะไรที่ผิดธรรมชาติไปหน่อยก็อาจจะท้องเสีย ท้องร่วง อาเจียนออกมาได้เป็นปกติ มนุษย์นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่วิวัฒนาการเพื่ออยู่บนโลก โลกที่มีแรงโน้มถ่วงค่อยดึงเราอยู่กับพื้นตลอดเวลาแม้กระทั่งตอนขี้เรายังต้องใช้แรงโน้มถ่วงเลย

การที่ขี้จะออกจากรูทวารได้นั้นต้องมีปัจจัยช่วยให้ขี้ออกจากลำไส้ใหญ่เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นจะเป็นการบีบตัวของลำไส้ ความดันแก๊สภายในลำไส้ ความเข้มข้นของก้อนขี้ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือแรงโน้มถ่วง เพราะแรงโน้มถ่วงจะดึงขี้ให้มากระจุกอยู่ที่หูรูดที่ทวาร หากไม่มากระจุกเราจะไม่รู้สึกปวดขี้ และอีกอย่างแรงโน้มถ่วงทำให้ขี้หักและหลุดออกจากรูตูด ซึ่งหลายคนมักเจอบ่อยๆขณะที่เบ่งขี้ออกมาได้ระยะหนึ่งแล้วอยู่ๆขี้ก็หักออกจากกันเป็นฟิลลิ่งที่ไม่ค่อยฟินเท่าไหร่นักฃ

ขี้ในอวกาศ

เมื่ออยู่ในอวกาศ มันไม่มีแรงคอยดึงขี้ไหลลงมากองที่หูรูดความรู้สึกปวดขี้จึงหายไป(อ่าว) นักบินอวกาศในยุคแรกหลายคนที่เป็นไฟล์ทระยะสั้นจึงไม่ค่อยมีคนปวดขี้ในอวกาศสักเท่าไหร่ และอีกอย่างหนึ่ง ใน Space Race เราพยายามส่งนักบินอวกาศออกไปเร็วเกินไปจนไม่ได้พัฒนาวิธีขี้ให้กับนักบินอวกาศเสียด้วย

นักบินอวกาศยุคแรกหลายคนจึงต้องอดทนอดกลั้นจำใจอั้นขี้ไว้เพื่อเอามาปล่อยข้างล่างอย่างสบายใจ

สำหรับผู้ที่อดทนอดกลั้นในการอั้นขี้ไม่ไหว NASA ก็ใจดี ให้ผ้าอ้อมแปะตูดไปให้ และเมื่อคุณขี้แน่นอนขี้มันจะติดตูดคุณจนกระทั่งคุณลงมา กลิ่นแสนน่าดมก็จะอยู่กับคุณตราบนานเท่านานไปในความทรงจำของคุณและคุณจะนึกเอาไว้ตลอดว่า ขี้แฉะๆเหนียวๆอุ่นๆที่ติดตูดนี่แม่งไม่น่าอภิรมย์เลยจริงๆ

อีกประการหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือเมื่อคุณขี้ ขี้ที่ออกมาจากรูตูดมันไม่หักและหลุดออกจากรูตูด มันจะเป็นก้อนขี้ที่ติดอยู่กับรูตูดและไม่ยอมหลุดไปไหน เหมือนแฟนที่ผิดใจกับคุณทำให้คุณบอกเลิกกับเขาแต่เขาก็ตามตื้อคุณไม่ยอมไปไหน ทั้งๆที่คุณตัดใจจากเขาและพยายามสลัดเขาให้ออกจากตูดของคุณ

เมื่อไม่มีแรงโน้มถ่วงและขี้ไม่ขาดจากตูด นักบินอวกาศผู้เคราะห์ร้ายก็ได้ฟ้องเรื่องนี้ไปถึงเหล่าวิศวกรด้านสุขภัณฑ์เข้าจึงออกแบบสิ่งมหัศจรรย์ของเหล่านักบินอวกาศขึ้นมาสำหรับภารกิจระยะยาวในอวกาศ นั้นคือ ถุงขี้

ถุงขี้วิปริต

เคยนั่งเครื่องบินมั้ยครับ แล้วเคยเก็บถุงอ้วกที่เหน็บไว้ที่กระเป๋าข้างหน้าที่นั่งกลับบ้านมั้ย แน่นอนผมทำบ่อย (สารภาพบาป) แต่เคยเครื่องบินตกหลุมอากาศหนักๆมั้ยละครับ มันเป็นอาการที่อยากบอกตัวเองว่าไม่น่าลุกมานั่งกินของที่แอร์เสิร์ฟเลยน่าจะหลับๆไปตั้งแต่เมื่อกี้ก็ดีจะได้ตื่นมาเครื่อง landing เลย

แล้วสักพักคุณก็รู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมามองไปทางเดินก็มีเพื่อนคุณนั่งขวางอยู่และท่าทางมันก็ไม่แย่น้อยไปกว่าคุณ มองไปที่ข้างหน้าคุณก็เห็นแอร์สาวหน้าตาดีควักยาดมออกมาสูดฟื้ดๆต่อหน้าคุณโดยที่สีหน้าพี่แกดูโทรมกว่าคุณอีก จะลุกออกไปห้องน้ำคงไม่ทันเพราะกว่าจะผ่านเจ้าเพื่อนกับทางเดินไปจนถึงห้องน้ำคงอ้วกแตกเสียก่อน

Fecal Bag หรือถุงขี้สำหรับนักบินอวกาศ ที่มา – NASA/KSC

ถูกต้องครับหยิบถุงอ้วกแล้วอ้วกออกไปให้สุดแรง อ้วกให้หมดกระเพาะแล้วค่อยขอของกินจากแอร์ก่อนเครื่อง Landing ควรดีใจที่เมื่อคุณนั่งเครื่องบินคุณยังมีแรงโน้มถ่วงคอยดึงอ้วกให้มันออกมาจากปากของคุณและหกลงไปภายในถุงอ้วก

ถุงขี้สำหรับนักบินอวกาศในโครงการ Gemini และ Apollo ก็มีหลักการทำงานไม่ต่างจากถุงอ้วกบนเครื่องบินหรอก แค่หน้าตาไม่ได้น่าพิศวาส มันคล้ายๆถุงยางด้วยซ้ำไป

เราเรียกมันว่า Fecal Containment Bag หรือถุงขี้

การใช้งานที่ถูกออกแบบมานั้นง่ายแสนง่ายเพียงคุณนักบินอวกาศดึงมันออกมา คลี่มัน ดีงแถบกาวที่ปากถุง แหกตูดของคุณให้กว้างๆเอาไว้ แปะมันไว้ที่ตูดโดนให้แถบกาวแนบชิดสนิทกับร่องก้นและตูด เบ่งขี้ให้เต็มแรง เมื่อรู้สึกขี้หมดแล้วขี้จะไม่หลุดจากตูดให้เอานิ้วสอดเข้าไปในรูสำหรับสอดนิ้วแล้วเขี่ยๆขี้ให้หลุดออกจากตูด จากนั้นดึงมันออกมาอย่างว่องไวแล้วนำสารปฏิชีวนะเทลงไปในถุงและขยี้ให้ขี้และสารปฏิชีวนะเนียนเป็นเนื้อเดียวกันเพื่อป้องกันแก๊สที่เกิดจากการย่อยของเหล่าแบคทีเรียจนถุงระเบิดคายาน แล้วปิดถุงก่อนเก็บไว้ในถังขยะ

ฟังดูง่ายแต่อย่าลืมว่าในยานมันพื้นที่แคบมากๆ และคุณอยู่กับเพื่อนอีก 2 คน อีกทั้งบนนั้นไม่มีแรงคอยดึงคุณให้อยู่กับที่ คุณจะลอยไปมาพร้อมกับขี้ของคุณ และไม่นานหลังจากโครงการ Apollo NASA ก็ยกเลิกการใช้ถุงนี้และหันไปใช้ส้วมแทน จะอธิบายให้ฟังว่าทำไม NASA ถึงเลิกใช้ถุงขี้นี้

  • ร่องตูดของคุณไม่ได้ขนาดเท่ากันทุกคน ร่องตูดและตูดเราไม่ได้ใหญ่เท่ากันทุกคน วิศวกรผู้แสนฉลาดนั้นพยายามทำให้ปากถุงนั้นแนบไปกับร่องตูดมากที่สุดจึงออกแบบให้ปากมีพื้นที่เยอะๆ และออกแบบให้มีส่วนโค้งเว้าเข้ากับร่องตูด เพื่อป้องกันขี้ลอยออกจากตูดไปจ๊ะเอ๋กับเพื่อนอีก 2 คนที่กำลังนอนอยู่ แต่เขาลืมคิดไปว่าเมื่อใช้งานจริงนักบินอวกาศไม่ได้มีร่องตูดใหญ่และยาวและลึกเท่ากันทุกคน ถ้าคนไหนร่องตูดเยอะ มันก็ไม่พอ ก็ต้องเอามือรองกันขี้หกจากถุงอีก ใครร่องตูดน้อย มันก็ไม่พอดีอีก เดี๋ยวเบ่งแรงแล้วหลุด ซึ่งการขี้ผ่านถุงนั้นช่างไร้ความสะดวกสบายเสียจริง
  • เสียเวลา เหล่านักบินอวกาศผู้น่าสงสารหารู้ไม่ว่าไอ้ถุงขี้นี่มันกินเวลาชีวิตพวกเขาไปอย่างมากมายมหาศาลระหว่างการทำภารกิจ เหมือนที่เราได้บอกวิธีการใช้งานข้างบนสิ ถุงขี้ไม่ใช่ขี้เสร็จปิดถุงแล้วสะบัดตูดหนีได้เลย คุณต้องเอาสารฆ่าเชื้อเทลงไปเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในถุงด้วย เพื่อป้องกันถุงขี้อุ่นๆจะแตกแค่เทสารฆ่าเชื้อมันไม่พอหรอกครับ ต้องนวดขี้ครับ ใช่ครับต้องนวดขี้อุ่นๆในถุงครับ นวดให้สารฆ่าเชื้อผสมกับขี้และฆ่าแบคทีเรียในขี้จนหมด
    ใช่โอเคครับ มันคือถุงใสๆ ถุงใสๆเหมือนถุงยาง ดังนั้นมันจะมองเห็นขี้ครับ ขี้เหนียวๆอุ่นๆจากลำไส้ใหญ่ของเรา
    อีกอย่างมันไม่ใช่เขย่าๆแล้วเสร็จ กระบวนการในการนวดขี้นี่เหล่านักบินอวกาศต้องมีการฝึกมาจากบนโลกและต่อให้ฝึกปรือมาดีแค่ไหนกระบวนการนวดขี้ก็กินเวลาไปอย่างน้อยๆก็ 45 นาทีไปแล้ว
    นานครับ นานจนบางครั้งนักบินอวกาศบนยานในเวลาเร่งรีบทำภารกิจต่อต้องฝากให้เพื่อนช่วยนวดขี้แทน แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์และความสนิทชิดเชื้ออันเหนียวแน่นของเหล่านักบินบนยานที่ต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวจนสามารถเรียกได้ว่า “สนิทกันจนเล่นขี้”
  • แทบกาวไม่ได้ดีต่อตูดของคุณ ใช้งานเสร็จแล้วต้องดึงมันออกครับ “แคว่ก!” น่าจะนึกภาพความเจ็บปวดออกนะครับ
  • กลิ่นและของอันไม่พึงประสงค์ผู้เล็ดลอดออกมาจากถุงเสมอ ว่ากันว่าสิ่งที่หนัง Apollo 13 ขาดไปคือกลิ่นขี้ เมื่อขี้เสร็จระหว่างก่อนที่จะหยิบไปสารฆ่าเชื้อมาเทใส่ถุง กลิ่นที่แสนสุดจะบรรยายก็จะออกมาจากถุงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อากาศในยานนั้นเป็นระบบหมุนเวียนดังนั้นกลิ่นขี้จะยังคงไหลเวียนให้เหล่านักบินอวกาศสูดดมกันอย่างหน้าเหลืองหน้าเขียวกันไปตลอดทั้งเที่ยวบิน นักบินอวกาศถึงขั้นบอกกับนักวิทยาศาสตร์ว่าช่วยหาทางจัดการกับกลิ่นพวกนี้เถอะ มันเหม็นไปจนจมูกไม่ได้กลิ่นอะไรนอกจากขี้แล้ว เหม็นจนอยากตาย แม้แต่ในชุดอวกาศยังเหม็น ไม่ว่าอยู่ที่ใดกลิ่นขี้จะตามติดตัวไปตลอด กว่าจะหมดเคราะห์กรรมจากกลิ่นได้ก็เมื่อหน่วยกู้ชีพเปิดประตูยานนั้นแหละ ซึ่งจะด่าเพื่อนคนอื่นในยานขี้เหม็นก็ไม่ได้ เพราะคุณก็ขี้เหมือนกัน และทุกคนก็ต้องทนด้วยเหมือนกันกับคุณ อีกอย่างคือคุณกลายเป็นที่จับตามองของคนทั่วโลกในนามหน้าตาของประเทศการจะมาพูดว่า “เชี่ย กูเหม็นขี้” มันก็ไม่เหมาะสมและสุดท้ายบ่นไปก็ไม่มีประโยชน์ทนนั่งดมขี้และเก๊กหล่อถ่ายรูปยังดีกว่า

บางครั้งคุณอาจหาสารฆ่าเชื้อไม่เจอเลยเปิดถุงนานไปหน่อย เหล่าขี้อุ่นๆอาจหลุดออกมาสร้างความวุ่นวายได้ เราเรียกก้อนขี้อุ่นๆที่หลุดออกมาว่า “นักโทษแหกคุก” เหมือนเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นบนยาน Apollo 10

บทสนทนาว่าด้วยเรื่องขี้ในภารกิจ Apollo 10

นี่คือ Transcript บทสนทนาจาก Apollo 10 (ซึ่งแปลไทยแล้ว) จาก Paper Transcript ตัวเต็มจาก NASA ตั้งแต่หน้า 414 เป็นต้นไป

CERNAN:
คุณก็รู้ว่าเมื่อยานออกจากวงโคจรของดวงจันทร์แล้วคุณจะทำอะไรต่าง ๆ ได้อีกมากมาย คุณจะปิดเครื่อง …
นี่มันอะไรเนี่ย!

STAFFORD:
โอ้—ใครทำวะเนี่ย

YOUNG:
ใครทำอะไร

CERNAN:
อะไร

STAFFORD:
ใครทำเนี่ย [ขำ]

CERNAN:
มันมาจากไหนเนี่ย

STAFFORD:
หยิบผ้าเช็ดปากมาให้หน่อย เร็ว
มีขี้ลอยผ่านหน้าอยู่เนี่ย

YOUNG:
ผมไม่ได้ทำ
มันไม่ใช่ของผม

YOUNG:
ผมไม่ได้ทำ มันไม่ใช่ของผม

CERNAN:
ฉันก็คิดว่ามันไม่ใช่ของฉัน

STAFFORD:
ของฉันมันน้อยและเหนียวกว่านี้
โยนมันทิ้งไปซะ

YOUNG:
โอ้ พระเจ้า
[มือก่ายหน้าผาก]

แล้วหลังจากนั้น 8 นาทีก็มีขี้อีกก้อนลอยผ่านหน้า Cernan อีกครั้ง

YOUNG:
พวกเขาบอกว่าเราสามารถทำมันได้ตลอดเวลา?

CERNAN:
เขาหมายถึงประตูที่ 135 พวกเขาบอกเราว่า —
เฮ้ยก้อนขี้แม่งลอยมาอีกก้อนแล้ว 
พวกมึงเป็นเชี่ยไรกันเนี่ย เฮ้ย หยิบ—

YOUNG และ STAFFORD:
[ขำ] …

STAFFORD:
มันลอยไปรอบๆหรอ

STAFFORD:
มันลอยไปรอบๆหรอ

CERNAN:
ใช่

STAFFORD:
[ขำ]
ของกูแม่งเหนียวกว่านี้

YOUNG:
ของกูก็ด้วย
มันอยู่ในถุงนั้น—

CERNAN:
[ขำ] กูไม่รู้ว่าใครทำ
แต่กูก็ไม่แน่ใจว่าใช่ของกูเปล่า [ขำ]

YOUNG:
เหี้ยอะไรวะเนี่ย

หน้าตาของ 3 ผู้กล้ากับสองนักโทษแหกคุก ที่มา – NASA/KSC

ซึ่งเรื่องขี้ๆ ที่ไม่ใช่ขี้ๆมันก็สร้างปัญหาใหญ่ให้กับนักบินอวกาศเป็นอย่างมาก ถึงขั้นนักบินอวกาศรวมตัวกันเขียนจดหมายร้องเรียน NASA เนื่องด้วยปัญหาเรื่องการขี้ ให้ช่วยหาวิธีขี้ให้กับพวกเราให้ดีกว่านี้หน่อยเพราะมันได้สร้างปัญหาให้กับเรามาก ซึ่งแน่นอนว่ามันส่งผลกระทบต่อการทำงานของเรา กลิ่นของมันช่างรุนแรงและทำร้ายโพรงจมูกของเราเป็นอย่างมาก ได้โปรดช่วยหาอะไรหามาจัดการกับกลิ่นของมันหน่อย

ส้วมบนยานโซยุส

ระหว่างที่ฝั่งโลกเสรีพยายามเร่งร้อนไปดวงจันทร์ ฝั่งโลกคอมมิวนิสต์ได้มองแตกต่างไป วิศวกรโซเวียตพยายามหาทางทำให้การขับถ่ายของนักบินอวกาศเป็นไปอย่างธรรมชาติที่สุด พยายามให้เหมือนบนโลกมากที่สุดในยานที่เล็กอย่างกับรูหนู

วิศวกรออกแบบส้วมบนยานโซยุส ส้วมจริงๆและทุกวันนี้มันยังคงถูกใช้งานอยู่ในยานโซยุส ทำไมละ ? เพราะโซเวียตกำลังวางแผนในการสร้างโคโลนีบนดวงจันทร์ยังไงละ การสร้างส้วมสำหรับนักบินอวกาศจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากเพราะคงไม่มีใครพกผ้าอ้อมขึ้นไปเป็นร้อยเป็นพันชุดหรอกนะ รกตายเลย

การสร้างส้วมบนยานโซยุสเป็นสิ่งหนึ่งซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเตรียมพร้อมในการสร้างอารยธรรมบนดวงจันทร์ได้เป็นอย่างดี แต่ส้วมมัน….หน้าตามันดูเหมือนโถฉี่มากกว่าส้วมนะ มันเป็นโถฉี่ที่ขี้ได้

คลิปเป็นการสาธิตวิธีในการขับถ่ายผ่านส้วมบนยานโซยุส ส้วมถูกติดตั้งอยู่ในส่วนของ Orbital module ซึ่งเป็นส่วนเสริมที่ไว้สำหรับการ Docking ต่อการสถานีอวกาศ

หลักการทำงานของส้วมคือ เมื่อเราปวดขี้เราต้องนำส้วมครอบประกบกับตูดของเรา เมื่อประกบอย่างดีแล้วก็เปิดเครื่องดูดอากาศ ทำไมถึงต้องมีเครื่องดูดอากาศ ก็อย่างที่ได้อธิบายไปแล้ว ในอวกาศไม่มีแรงดึงให้ขี้ขาดจากรูตูดดังนั้นเราจึงใช้อากาศเป็นตัวดูดขี้แทนแรงโน้มถ่วง เหมือนเอาเครื่องดูดฝุ่นดูดขี้ให้หลุดจากตูดจะว่าอย่างนั้นก็ได้ มันก็จะเย็นตูดหน่อยๆ

สภาพของระบบโถส้วมภายในยานอวกาศโซยูส จะเห็นได้ถึงความซับซ้อน ยุบยับของระบบการกรองของเสีย ภาพถ่ายจากพิพิธภัณฑ์ Chabot Space & Science Center ในแคลิฟอเนียร์ ที่มา Don DeBold

เมื่อขี้เสร็จแล้วเหล่าก้อนขี้จะเข้าไปอยู่ในถังเก็บขี้ซึ่งถังเก็บขี้จะอยู่ภายในส่วน Service Module เมื่อกลับโลกยานจะแยกตัวออกจาก Orbital module และ Service Module เหล่าขี้น้อยๆในถังจะถูกเผาไหม้จนหมดเมื่อยานกลับโลก

สบายใจได้ว่าเราจะไม่เจอขี้จากอวกาศตกกระแทกหัวแตกถูกส่งหามเข้าโรงพยาบาล

ส้วมซึมกลางอวกาศ

หลังจากที่ได้ทราบอดีตอันเลวร้ายเกี่ยวกับเรื่องขี้ ๆ ของนักบินอวกาศไปแล้ว เหล่าวิศวกรจึงต้องหาทางออกแบบส้วมจริงๆจังๆแล้วละเพราะการอาศัยอยู่ในอวกาศเป็นระยะเวลานานการที่จะแบกถุงขี้อันแสนวิปริตขึ้นไปเยอะๆทีละมากๆย่อมไม่คุ้มค่าต่อค่าเชื้อเพลิงแน่นอน อีกทั้งยังทำให้รกพื้นที่ในยานไปเปล่าๆอีก การสร้างส้วมเหมือนในยาน Soyuz และสถานีอวกาศ Salyut จึงเป็นการดีกว่ามากๆ แต่ประเด็นคือ อเมริกาไม่เคยทดสอบใช้งานจริง แต่เอาไปใช้งานจริงๆเลย ความสยดสยองจังบังเกิดขึ้น ส้วมอวกาศของชาวอเมริกันใช้งานครั้งแรกในโครงการ Skylab

วิศวกรคงคิดว่าในอวกาศมันไม่มีทางรู้ว่าทิศไหนเป็นบนเป็นล่าง ติดมันไว้ในผนังเลยแล้วกันจะได้ประหยัดพื้นที่ ซึ่งถามว่าพอใช้งานจริงมันเป็นยังไง มันเหมือนนั่งยอง ๆ บนส้วมซึมที่เราใช้ ๆ กันแค่มันจะดูผิดที่ผิดทางก็เท่านั้น

การทำงานของส้วมตัวนี้คือจะมีใบพัดขนาดใหญ่หมุนอย่างรวดเร็วเพื่อให้เกิดลมมาดูดก้อนขี้ให้หลุดออกจากรูตูด แต่ประเด็นที่น่าหวาดเสียวคือ … ใบพัดของมันอยู่ห่างจากตูดของเราแค่ 6 นิ้วเท่านั้น …

เสียวตูด

ภาพโถส้วมน่าอนาถาของสถานีอวกาศ Skylab ที่แปะติดผนังของยานแบบไม่สนการออกแบบใด ๆ ที่ถูกจำลองในพิพิธภัณฑ์ Space Center Houston ที่มา Pi3.124

หลังจากก้อนขี้นั้นหลุดจากตูด มันจะลอยเข้าไปชนกับใบพัดแล้วถูกปั่นสลายจนแหลกเป็นโคลนเละๆที่บินเข้าไปแปะผนังถังเก็บขี้เป็นประติมากรรมฝาผนัง

ประเด็นคือวิศวกรลืมฝาชักโครกและอากาศภายในสถานีอวกาศเป็นระบบปิด ดังนั้นกลิ่นจากถังขี้จึงค่อยๆไหลออกมาและทำลายบรรยากาศแห่งการทำงาน มันจึงแทบไม่ต่างกับการขี้ผ่านถุงขี้เลย เผลอๆอาจแย่กว่ามากด้วยซ้ำเพราะว่า ฝาถังมันเปิดตลอดเวลากลิ่นขี้จึงออกมาตลอดเวลา ถึงขั้นว่าก่อนเปิด Airlock ของ Skylab นักบินอวกาศจำใจกลั้นหายใจแล้วเปิดประตูเพราะไม่อยากให้กลิ่นแสนจะทานทนมันทำลายโพรงจมูกของตัวเอง

เนื่องด้วยในถังขี้มีแต่ขี้เราเลยไม่จำเป็นต้องรักษาระดับอุณหภูมิกับขี้นัก จึงปล่อยให้มันอยู่เย็นๆอย่างนั้นก็ได้ พอประติมากรรมเหล่านั้นแข็ง เมื่อคุณเปิดพัดลมอีกครั้ง ขี้ที่แข็งก็แตกหักกลายเป็นฝุ่นขี้ (Fecal Dust) ออกมาให้คุณสูดดม และฝุ่นขี้ไม่ได้ออกมาเพียงอย่างเดียว มันยังออกมาพร้อมกับเชื่อจุลินทรีย์ที่อยู่ในขี้อีกด้วย

เหล่านักบินอวกาศจึงกลัวการขี้ในอวกาศมาก มากจนถึงบางคนไม่กล้ากินอะไรเพราะกลัวปวดขี้และต้องทนทุกข์ทรมารจากขี้

แต่สุดท้ายต่อให้คุณไม่ขี้เพื่อนคุณก็ขี้ รู้สึกส้วมแสนโสโครกแห่งเขาชนไก่ยังจะดีกว่าส้วมซึมอวกาศอีกนะ

ส้วมในยุคกระสวยอวกาศ

สิ่งที่ภาคภูมิใจที่สุดของ NASA อันดับต้น ๆ คือโครงการกระสวยอวกาศ มันคือจรวดที่ไม่ใช่จรวด มันคือยานอวกาศที่กลับมาใช้งานใหม่ได้และไม่คุ้มค่ากับค่าบำรุงรักษามากที่สุดเท่าที่เคยใช้งานมา

แต่ถ้าถามว่าโครงการกระสวยอวกาศนี้ให้อะไรกับเราบ้างบอกได้เลยว่าเยอะแยะมากมาย เป็นคุณูปการที่เรียกได้เลยว่าไม่เคยมีโครงการไหนสร้างความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และส่งมนุษย์ออกนอกโลกมากเท่าโครงนี้มากก่อน

กล้องโทรทัศน์ฮับเบิล ยานกาลิเลโอ ยานแมกเจลเลน รวมถึงสถานีอวกาศนานาชาติ ก็ได้ขึ้นสู่อวกาศได้เพราะโครงการนี้ จรวดลำนี้เป็นจรวดที่ต้องใช้คนในการบังคับ ดังนั้นเรื่องอาหารการกิน ระบบยังชีพต้องพร้อม ซึ่งต้องรวมไปถึงการขี้ด้วยในช่วงแรกของโครงการนี้ เป็นช่วงที่ทดสอบระบบการทำงานของยาน นักบินอวกาศที่ขึ้นไปทำภารกิจจำนวนแค่ 2 คน อีกทั้งยังเป็นทหารอีกด้วย จึงไม่จำเป็นต้องให้ความสะดวกสบายมากนัก การขี้และฉี่จึงใช้วิธีที่ง่ายมากที่สุดคือการใช้ Fecal Containment Device

ถุงขี้สมัยโครงการ Apollo ที่น่าเกลียดน่ากลัวนั้นแหละ

ต่อมา NASA ต้องการให้โครงการกระสวยอวกาศนี้ระยะเวลาทำงานในอวกาศยาวนานมากขึ้น อีกทั้งจำนวนนักบินที่ขึ้นไปในแต่ครั้งมากขึ้น ทำให้วิศวกรเห็นพ้องต้องกันว่าเราควรพัฒนาวิธีในการขี้ให้นักบินอวกาศที่ดีและเหมาะสมสำหรับนักบินอวกาศจริง ๆ จัง ๆ แล้วละ

แผนผัง Space Shuttle Waste Collection System ที่มา NASA/JSC
ภาพโถส้วมและถังขี้ของกระสวยอวกาศเอนเดฟเวอร์ (Space Shuttle Endeavour) ที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ Space Shuttle Endeavour ของ California Science Center ที่มา Scarlet Sappho

ส้วมในกระสวยอวกาศคือส้วมที่ดีจนทุกวันนี้ NASA ยังคงใช้งานมันอยู่ในสถานีอวกาศนานาชาติในส่วนโมดูมของอเมริกัน วิศวกรได้รื้อระบบการทำงานของส้วมในสถานีอวกาศ Skylab ทิ้งทั้งหมดเพราะมันสร้างปัญหาให้กับนักบินอวกาศมาก พวกเขาออกแบบส้วมใหม่จนหมด ซึ่งระบบการทำงานนี้ทำให้รับรองได้ว่ามีดราม่าน้อยกว่า แต่ใช้งานยาก

ฝึกซ้อมก่อนออกนอกโลก

เป็นนักบินอวกาศนั้นแสนจะลำบาก ก่อนออกนอกโลกยังต้องฝึกขี้เลย เนื่องด้วยรูโถส้วมมีขนาดแค่ 4 นิ้ว เท่านั้น !!! ใช้ส้วมซึมก็เลอะเรี่ยราดบ้าบอแล้ว นี่ส้วมรู 4 นิ้ว

แล้วในรู 4 นิ้วนั้นจะมีท่ออากาศอยู่ ซึ่งท่ออากาศนั้นจะทำหน้าที่ในการดูดขี้ให้หลุดออกจากรูตูด ทำให้มือไม่ต้องไปจับขี้ให้เลอะมือ เลอะตูด และมีฝาไว้สำหรับปิดหลังขี้เสร็จเรียบร้อยแล้วเพื่อป้องกันกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ลอยออกมาทำลาย olfactory bulb จนพังพินาศ แน่นอนว่ามันก็ต้องมีปัญหาอีกอะ

คือเนื่องด้วยท่อนี้มันรวมระบบทุกอย่างเพื่อให้สะดวกสบาย แต่ประเด็นคือเวลาคุณใช้งานมันต้องระมัดระวังมากๆ เนื่องด้วยรูดูดอากาศมันอยู่ใกล้กับท่อที่จะนำขี้ไปยังถังขี้มากๆ หากปล่อยของเสียผิดองศา ขี้อุ่นๆของคุณจะเข้าไปติดอยู่ในท่ออากาศและติดเละอยู่ตรงนั้น มือจะเอื้อมไปหยิบก็ไม่ได้เพราะท่อเล็กและอยู่ลึก เป็นสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่แท้จริง หากคุณยังคงหน้าด้านปิดประตูถังขี้ละก็บอกได้เลยคุณมันฆาตกร เพราะขี้อุ่นๆของคุณจะเข้าไปติดในช่องว่างของบานเลื่อนและอย่างทราบกัน ถังขี้ไม่จำเป็นต้องรักษาอุณหภูมิให้อุ่นตลอดเวลา มันจะหนาว ขี้ของคุณจะเป็นน้ำแข็งและกลายเป็นกาวแข็งที่ทำให้คนต่อไปที่จะเติมขี้ลงไปในถังเปิดไม่ออก

นี่มันเรื่องคอขาดบาดตายถึงขนาดต้องรีบนำยานกลับโลกโดยทันทีเพราะคนหน้าด้านขี้ไม่ลงส้วมทำให้เพื่อนที่เหลือปวดขี้จนทนไม่ไหว NASA ไม่อยากเห็นปัญหาคอขาดบาดตายบ้าบอแบบนี้ในวงโคจรและแน่นอนต่อให้เป็นคุณก็ไม่อยากให้มันเกิด วิธีแก้ปัญหาคือสอนให้คนขี้ให้ถูกองศาเสียตั้งแต่ก่อนขึ้นไปในอวกาศ

หน้าตาของส้วมที่ไว้ใช้สำหรับการฝึกหัด ที่มา – NASA

ในศูนย์ฝึกนักบินอวกาศของ NASA จะมีชั่วโมงในการฝึกซ้อมนักบินอวกาศในการขี้ โดยจะมีห้องสำหรับในการฝึกซ้อม มีส้วมหน้าตาเหมือนกับที่ใช้ในยานกระสวยอวกาศทุกประการเพียงแต่มันจะมีกล้องถ่ายภาพกับไฟส่องเพิ่มเข้ามานั้นเอง

เมื่อถึงชั่วโมงฝึกซ้อมคุณจะต้องเข้าไปในห้องฝึกที่มีส้วมฝึกกับทีวีที่ตั้งอยู่ข้างหน้าส้วม

หน้าที่ของคุณคือถอดกางเกงออกแล้วหย่อนก้นลงไปในนั่งบนส้วม จากนั้นกล้องจะทำการถ่ายรูตูดของคุณมาให้คุณดูที่หน้าจอทีวี หน้าที่ต่อจากนี้คือขยับรูตูดในตรงกับเป้าเล็งและอย่าเผลอเบ่งขี้ละ เดี๋ยวจะเลอะเทอะกล้อง

TV หน้าส้วมสำหรับฝึกหัดเล็งรูตูดให้ถูกองศา ที่มา NASA

เคยมีตำนานว่าขณะที่ศูนย์ฝึกเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม มีนักท่องเที่ยวคนหนึ่งได้ทิ้งขี้กองโตไว้ในส้วมฝึกหัดนี้แล้วหนีไป สร้างความปวดหัวไว้กับแม่บ้านทำความสะอาดและผอ. NASA เลยทีเดียว

แทบพลิกแผ่นดินตามหาไอ้บ้าที่ทิ้งขี้เอาไว้เลยทีเดียว

เมื่อส้วมมีปัญหา จะขี้ยังไง ปัญหาขี้ไม่ได้ในภารกิจ STS-33

ส้วมกดไม่ลง ส้วมเต็ม ส้วมตัน ส้วมแตก ส้วมระเบิด มันเป็นปัญหาที่กระทบต่อจิตใจของพวกเราหลังขี้ลงไปเป็นอย่างมากที่ไม่ได้เห็นก้อนขี้น้อยๆโบกไม้โบกมือ บ๊าบบาย ลาจากเราไหลหายไปตามท่อระบายน้ำ คิดว่าเรื่องขี้ๆพวกนี้มีปัญหาเฉพาะบนโลกหรอ ไม่เลย บนอวกาศก็มีปัญหาเหมือนกันและดูมันจะเลวร้ายกว่าที่โลกมากๆเลยด้วย

ภารกิจ STS-33 เป็นภารกิจลับของกองทัพสหรัฐ โดยขึ้นไปทำภารกิจบนอวกาศเป็นเวลา 5 วัน ระหว่างเช้าที่สดใสบนยาน เสียงปลุกดังขึ้นเป็นเพลงกล่อมบรรเลงให้รับรู้ถึงเวลาเช้า กัปตันยาน Frederick D. Gregory กำลังเข้าส้วมอยู่ ทันใดนั้นเขารู้สึกเย็นตูดผิดปกติจากการขี้ปกติ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ส้วมรั่ว!!! รั่วไปไหน รั่วไปนอกยาน

อากาศในยานกำลังหายไปนอกยานผ่านทางส้วมที่เขากำลังนั่งขี้อยู่ สิ่งที่เขาต้องทำคือพยายามทำอย่างไรก็ได้ไม่ให้อากาศในยานออกไปมากกว่านี้ เขาจึงต้องพยายามเอาตูดของเขายัดเข้าไปในรูส้วมนั้นให้แนบสนิทมากที่สุดยอมสละตูดอันอ่อนนุ่มเพื่อทุกชีวิตในยานเพราะทุกชีวิตบนยานขึ้นอยู่กับตูดของเรา

ต่อให้พยายามเอาตูดปิดบังรูรั่วดีแค่ไหน ตูดเราก็ยังคงเป็นตูด ส่วนโค้งเว้าของเราไม่ได้เสมอราบเรียบเท่ากัน สุดท้ายมันจะเหลือช่องว่างอยู่ดี อากาศก็ไหลออกนอกยานได้อยู่ดี เซนเซอร์ในยานตรวจจับได้ว่าความดันภายในยานตกลงเพราะมีอากาศรั่วไหล ทำให้สัญญาณเตือนอากาศรั่วไหลดังขึ้นทั้งยาน

สัญญาณเหล่านี้ไม่ได้แค่ดัง มันยังปล่อยอากาศออกจากท่ออีกด้วย แล้วถามว่าท่ออากาศนั้นอยู่ส่วนไหนบ้าง ก็มีเยอะแยะไม่ว่าจะเป็นใน Cockpit ห้องนอนและที่สำคัญในห้องน้ำ แถมไม่ได้อยู่ในโซนธรรมดา วิศวกรได้ออกแบบให้ท่อปล่อยอากาศฝังอยู่เหนือโถชักโครก กัปตันผู้โชคร้ายผู้ถูกส้วมดูดตูดแถมยังโดนลมเย็นๆอัดหัว เหมือนโชคชะตากลั่นแกล้งและเล่นตลกใส่

สถานการณ์นี้จบลงด้วยการที่กัปตันตะโกนแหกปากเรียกเพื่อนมาช่วยแล้วหาเทปกาวมาปิดรูส้วมได้อย่างมิดชิดก่อนจะวิทยุไปหา Houston ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อให้เหล่าวิศวกรส่งวิธีในการซ่อมส้วมเพื่อให้นักบินคนอื่นได้ใช้งานต่อไป

STS-46 ก็ขี้ไม่ได้เช่นกัน

Claude Nicollier กับคู่มือการใช้งานและการซ่อมส้วมของกระสวยอวกาศ ที่มา NASA Archived

ส้วมรั่วกันไปแล้ว คราวนี้ส้วมตันบ้าง ส้วมตันคราวนี้จะปวดกบาลกับปวดท้องหน่อยๆเพราะพัดลมเสีย อย่างที่บอกไปว่าหากไม่มีแรงดูดขี้จะไม่หลุดออกจากตูด ก่อนที่นักบินอวกาศจะขี้ทุกครั้งเขาต้องเริ่มจากเปิดพัดลม ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่มีขี้ที่หลุดออกมาเป็นก้อนใดๆให้เหม็น มีแต่คนปวดขี้ที่ไม่ได้ขี้แต่อย่าลืมว่าเราต้องเปิดส้วมและถังขี้ ดังนั้นมันจะเหม็น

สรุปคือภารกิจทุกอย่างต้องหยุดชะงักลงเพราะว่านักบินต้องซ่อมส้วมและติดต่อวิศวกรจากภาคพื้นเพื่อช่วยระดมสมองในการจัดการกับพัดลมเพื่อให้พัดลมกลับมาหมุนได้อีกครั้งซึ่งกว่าจะซ่อมเสร็จก็ทำเอาอากาศยานเหม็นใช้ได้อยู่

Fecal Pop-corning & Fecal Decapitation

ยังจำนักโทษแหกคุกจาก Apollo 10 ได้มั้ย มันกลับมาแล้วแต่มันไม่ได้มาในรูปความสะเพร่า ความเบร้อ มันมาในรูปของกฏฟิสิกส์และดวงซวย ถังเก็บขี้มีหน้าที่คือเก็บขี้และฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่อยู่ในขี้ไม่อย่างนั้นถังขี้จะทั้งเหม็นและระเบิดเมื่อกลับเข้าสู่โลก

การฆ่าเชื้อจุลินทรีย์คือปล่อยให้อุณหภูมิที่หนาวจัดจากอวกาศมาสัมผัสกับขี้ในถังแล้วทำการลดความดันในถังให้เป็นสูญญากาศเหมือนภายนอกยาน เอาจริงมันก็ฆ่าไม่หมดหรอกแต่ฆ่าไปได้เยอะเลยละ

ประเด็นคือเมื่อมันอยู่สภาวะนั้นขี้จะกลายเป็นน้ำแข็ง แข็งและแห้ง เหมือนขี้หมาข้างถนนที่ตากแดดจนแห้งแล้วเมื่อมีนักบินอวกาศคนนึงในยานปวดท้องขี้กระทันหัน เขาจะลอยมาเปิดพัดลมในส้วมเพื่อเตรียมพร้อมก่อนหย่อนตูดนั่งบนโถส้วม

ทันทีที่พัดลมทำงาน ขี้ในถังมันจะเริ่มลอยไปมาชนกับผนังถังบ้าง ชนกันเองบ้าง เป็นเสียงกรุกกรักๆ เหมือนป๊อปคอร์นที่ถูกคั่วแล้วส่งเสียงกรุกกรักในหม้อและหากเราเปิดประตูส้วมออกเพื่อเติมขี้ลงไปในถังแต่จังหวะเราช้าไปเพียงเล็กน้อยพร้อมกับขี้ในถังนั้นชนกันได้องศามันจะวิ่งพุ่งออกจากถังเหมือนนักโทษแหกคุก พุ่งทะยานออกจากท่อขี้สู่อิสระภาพนอกถังขี้ ก่อนมันจะโผล่ที่ไหนสักแห่งในยาน อาจจะเป็นในห้องน้ำหรือใน Cockpit ขณะกำลังทำภารกิจสำคัญ ซึ่งก็คงจะวุ่นวายเหมือนตอน Apollo 10 ไม่น้อย

เหตุการณ์ขี้พุ่งทะยานออกจากถังขี้เราเรียกว่า Fecal Pop-corning ส่วนหากคุณขี้เสร็จแล้วและกำลังเลื่อนปิดประตูส้วม ทันใดนั้นมีขี้ก้อนหนึ่งพุ่งทะยานออกมาจากท่อแล้วคุณปิดประตูทัน ทันแบบตัดก้อนขี้ แล้วขี้ขาดเป็นสองท่อน ท่อนหนึ่งหลุดลอยออกนอกท่อขี้ได้สำเร็จและอีกส่วนหนึ่งยังคงติดอยู่ในท่อ

ใช่ครับ “ขี้ขาด” ท่อนที่หลุดออกมานั้นก็จะล่องลอยไปโผล่จะเอ๊ะกับนักบินระหว่างปฏิบัติภารกิจตามสถานที่ต่างๆภายในยานซึ่งแล้วแต่ดวงชะตาฟ้าลิขิต

ท่อนส่วนที่ติดอยู่กับประตูปิดนั้นมันจะถูกบีบอัดเข้ากับส่วนที่เป็นช่องบานเลื่อน เนื่องด้วยขี้เหล่านี้มีสมบัติแปลกประหลาดมันจะกลายเป็นกาวเหนียวๆติดแน่นสนิททำให้คุณไม่สามารถเลื่อนเปิดประตูส้วมได้อีก นี่คือประสบการณ์ Fecal Decapitation 

NASA แก้ปัญหาเหตุการณ์ทั้งสองด้วยวิธีที่สามัญสุดคือติดกระจกเงาไว้ให้นักบินอวกาศหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจคอยดูว่ามันมีนักโทษแหกคุกหลุดรอดออกมามั้ย ถ้ามีก็จับมันแล้วยัดกลับเข้าไปใส่ในส้วมเหมือนเดิมซะ รับผิดชอบกับความซวยของคุณเองด้วย

ปัญหาควรแก้ไขที่ต้นเหตุ

ปัญหาเรื่องขี้ทุกอย่างมันเริ่มต้นจากการไร้ซึ่งแรงโน้มถ่วงคอยดึงขี้ให้หลุดจากตูด หากใครไม่เชื่อเรื่องแรงโน้มถ่วงคอยดึงขี้ให้หลุดจากตูดผมแนะนำให้ทดลองด้วยการกลับหัวขี้ดูครับ แล้วจะเห็นว่าขี้จะเลอะตูดและไม่ยอมขาดจากรูตูด

การที่มนุษย์อาศัยอยู่ในอวกาศทำให้ร่างกายขาดแรงโน้มถ่วง ผลกระทบทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง มวลกระดูกลดลง ระบบย่อยอาหารทำงานได้ไม่เต็มที่ ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ต่ำลง ฯลฯ ซึ่งอาการเหล่านี้เกิดจากการไม่ได้รับแรงโน้มถ่วงคอยดึงเอาไว้

การขี้ก็เช่นกันทุกปัญหาเกี่ยวกับการขี้จะหมดลงหากสร้างสถานีอวกาศที่สามารถสร้างแรงโน้มถ่วงเทียมได้

ซึ่งมันรวมไปถึงการเดินทางระยะไกลไปยังดาวอังคารอีกด้วยเพราะหากคุณขาดแรงโน้มถ่วงเป็นระยะเวลานานมันจะไม่ใช่แค่ดราม่าเรื่องการขี้อย่างเดียว ปัญหาด้านสุขภาพมันจะตามมารุมเร้าตัวของคุณและอาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้

เมื่อคุณนักบินอวกาศงานยุ่งเกินไปจนต้องขี้ไปทำงานไป ล้อเล่น นี่เป็นแค่การซ่อมถังขี้ของสถานีอวกาศนานาชาติในภารกิจ Expedition 53 ที่มา Randolph Bresnik

มนุษย์คือนักเดินทาง เราทุกคนล้วนคือผลผลิตจากบรรพบุรุษนักเดินทางมาก่อน เดินทางเพื่อออกแสวงหาโอกาส เดินทางเพื่อออกแสวงหาอาหาร เดินทางเพื่อออกแสวงหาเงินทอง ทุกครั้งที่บรรพบุรุษของเราออกเดินทางย่อมแบกรับมาซึ่งความเสี่ยง บ้างก็อดอยากระหว่างทาง บ้างก็เจ็บปวดจากโรคภัยชนิดใหม่ บ้างก็ถูกภัยพิบัติกวาดล้างหายไป ผู้ที่เหลือรอดนั้นก็เป็นบรรพบุรุษผู้ส่งถ่ายสายเลือดมาสู่เรา

และมันจะเป็นเช่นนั้นเสมอ ทุกการเดินย่อมมีความเสี่ยงเสมอ แต่ยิ่งความเสี่ยงมาก ผลที่ได้รับกลับมาย่อมหอมหวานและคุ้มค่ากับความเสี่ยงเสมอ

จากผืนดินสู่ดวงดาว มนุษย์มองความเสี่ยงคือปัญหาหนึ่งที่ต้องใช้ปัญญาในการแก้ไข ยิ่งความเสี่ยงน้อยแต่ผลลัพท์ที่ได้คุ้มค่ามันย่อมได้กำไรมหาศาล

สุดท้ายทุกทางออกมีปัญหารอเสมอ

อ้างอิง

Apollo 10 Mission Transcript | NASA

Spacecraft | Toilet Guru

Trouble Fecal Containment Systems | Popsci

Udvar Hazy Center

China.org 

 

Jirasin Aswakool | Researcher Assistant | นักวิจัยอยากผันตัวกลับมาทำงานสื่อสารวิทยาศาสตร์