เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2018 ที่ผ่านมา มีข่าวว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติของบราซิลในนครรีโอเดจาเนโร ซึ่งมีของสะสมอยู่กว่า 20 ล้านชิ้น และหนึ่งในนั้นก็คืออุกกาบาต Bendegó อุกกาบาตชิ้นใหญ่ที่สุดที่ถูกค้นพบในประเทศบราซิล
ค้นพบในปี 1784 อุกกาบาต Bendegó มีความยาวถึง 2.2 เมตรและมีน้ำหนักมากถึง 5 ตัน และถ้านับเมื่อตอนที่ถูกค้นพบนั้นมันถือเป็นอุกกาบาตที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สองในโลกเลยทีเดียว แต่ระหว่างที่ชาวบ้านพยายามขนย้ายอุกกาบาตชิ้นนี้โดยรถม้า ก็ดันได้เกิดอุบัติเหตุที่ส่งให้ก้อนหินพลิกตกลงในไปหน้าผาริมน้ำ และแช่อยู่ในน้ำนานนับศตวรรษ ก่อนจะได้รับคำสั่งให้ย้ายโดยจักรพรรดิแห่งบราซิล Pedro II ในปี 1888
สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อพิพิธภัณฑนั้นยังไม่สามารถประเมินค่าได้ แต่มีเจ้าหน้าที่ท่านหนึ่งกล่าวกับ The Guardian ว่าประมาณ 90% ของสิ่งที่จัดแสดงนั้นถูกทำลายลงไปในกองเพลิง นั่นรวมถึงโครงกระดูกมนุษย์ที่มีอายุกว่า 12,000 ปีซึ่งถือว่าเก่าแก่ที่สุดที่เคยพบในทวีปอเมริกาอีกด้วย
#MuseuNacional: O meteorito Bendegó, o maior do Brasil, é um dos principais atrativos do acervo do Museu. Pelas imagens, é possível observar que ele resistiu ao incêndio. #BandNewsFM pic.twitter.com/TMuda3nc4n
— BandNews FM – Rio (@bandnewsfmrio) September 3, 2018
ในส่วนของอุกกาบาต Bendegó นั้นถูกพบว่าตั้งอยู่อย่างปกติบนแท่นวางของมันในพิพิธภัณฑ์ รวมกับอุกกาบาตอีกชิ้นที่มีขนาดเล็กกว่าในห้องถัดไป ซึ่งก็เป็นสิ่งเดียวที่ยังคงสภาพเดิมอยู่ท่ามกลางอาคารที่ปกคลุมไปด้วยเถ้าถ่านและซากปรักหักพัง
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่อุกกาบาตชิ้นนี้จะสามารถทนทานความร้อนจากไฟไหม้ได้ เนื่องจากมันต้องทนกับอุณหภูมิสูงถึง 1,650 องศาเซลเซียสในขณะที่มันกำลังพุ่งผ่านชั้นบรรยากาศของโลก ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่สูงพอจะหลอมเหล็กและนิกเกิลที่พบในก้อนอุกกาบาตได้เลย
อุกกาบาตชิ้นอื่น ๆ ที่ถูกจัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์เช่นเดียวกัน – ที่มา Dornicke
อ้างอิง:
