ยาน OSIRIS-REx ได้ใช้ระยะเวลาช่วงกลางเดือนสิงหาคม ถึงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ในการหันอุปกรณ์วิทยาศาสตร์สามตัวบนยานไปที่ดาวเคราะห์น้อยเบนนู เพื่อเริ่มการสำรวจทางวิทยาศาสตร์เป็นครั้งแรกของยาน ซึ่งก็ทำให้มันค้นพบบางสิ่งบางอย่างที่มันไม่ได้คาดคิดไว้ เมื่อเบนนูนั้นเคยเป็นส่วนหนึ่งของดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่ ที่ครั้งหนึ่งเคยมีน้ำในรูปของของเหลวปรากฏอยู่
หลักฐานสำคัญในครั้งนี้มาจากอุปกรณ์ที่ชื่อ OVIRS และ OTES เครื่อง spectrometer ทั้งสองเครื่องบนยาน OSIRIS-REx ที่ได้พบโมเลกุลของไฮดรอกซิล ที่ประกอบไปด้วยอะตอมของออกซิเจนและไฮโดรเจน ปรากฏกระจายอยู่ทั่วบนผิวดาว ซึ่งนี่เป็นร่องรอยสำคัญว่าในอดีตนั้นชั้นดินเหนียว (ซึ่งเป็นผิวชั้นบนของเบนนู) ได้เคยมีปฏิสัมพันธ์กับน้ำมาก่อน ทว่าเบนนูนั้นมีขนาดเล็กเกินกว่าจะรองรับน้ำในรูปของ ๆ เหลวได้ นั่นแปลว่าเบนนูต้องเคยเป็นส่วนหนึ่งของดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่กว่า ซึ่งเคยมีน้ำในรูปของ ๆ เหลวอยู่
แม้จะเป็นช่วงตอนต้นของภารกิจ แต่การค้นพบครั้งสำคัญในหนนี้ก็เป็นสัญญาณที่ดีว่า OSIRIS-REx มาสำรวจได้ถูกดาวแล้ว และนอกจากจะได้ค้นพบร่องรอยของน้ำบนผิวดาว การเปิดเผยข้อมูลในครั้งนี้ยังรวมถึงโมเดลของดาวแบบ 3 มิติ ที่มีความคล้ายคลึงกับที่นักวิทยาศาสตร์ได้เคยคาดการณ์เอาไว้เมื่อปี 2013 ที่ผ่านมา ซึ่งก็เป็นเรื่องดี เนื่องจากทีมภารกิจของ OSIRIS-REx ได้วางแผนภารกิจนี้ไว้โดยอ้างอิงจากโมเดลที่สร้างขึ้นมานี้ และไม่จำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนภารกิจมากมายนัก
เบนนูนั้นเป็นดาวเคราะห์น้อยที่เต็มไปด้วยก้อนหินขนาดใหญ่ และหลุมอุกกาบาตที่กระจายอยู่รอบดาว ซึ่งมีมากกว่าที่นักดาราศาสตร์ได้คาดการณ์เอาไว้ ซึ่งยานจะถูกส่งไปสำรวจอย่างใกล้ชิดอีกครั้ง ก่อนที่มันจะลดระดับลงไปเก็บตัวอย่างจากผิวดาวในปี 2020 นี้ และนำกลับมาศึกษาต่อยังโลกในปี 2023 ซึ่งในตอนนั้นนักวิทยาศาสตร์ก็จะได้ศึกษาชิ้นส่วนใหม่ ๆ ที่เสริมความเข้าใจในประวัติศาสตร์และวิวัฒนาการของระบบสุริยะได้ดียิ่งขึ้น และเราก็อาจได้คำตอบของคำถามที่ว่า สรุปแล้วน้ำบนโลกมาจากดาวเคราะห์น้อยหรือไม่? กันเสียที
นอกจากนี้การศึกษาเบนนูยังอาจช่วยให้เราเข้าใจ ว่าในอนาคตนั้นมนุษย์สามารถไปทำเหมืองขุดน้ำจากดาวเคราะห์น้อย ซึ่งอาจได้ใช้เพื่อเติมเชื้อเพลิงและใช้งานกับภารกิจสำรวจอวกาศลึกได้ รวมทั้งเบนนูยังเป็นหนึ่งในดาวเคราะห์น้อยที่ยังมีโอกาสจะพุ่งชนโลกได้ (แม้จะโอกาสน้อยมากก็ตาม) ดังนั้นการเข้าใจเกี่ยวกับมวลและวงโคจรของดาวที่ดียิ่งขึ้นสามารถช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถคำนวณและประเมินความเสี่ยงที่โลกจะเผชิญได้
ยาน OSIRIS-REx นั้นย่อมาจาก Origins, Spectral Interpretation, Resource Identification, Security, Regolith Explorer เป็นยานอวกาศลำแรกของนาซาที่ถูกส่งไปเพื่อเก็บตัวอย่างจากดาวเคราะห์น้อยกลับโลก โดยออกเดินทางในเดือนกันยายนปี 2016 และกำลังจะเข้าสู่วงโคจรรอบดาวเคราะห์น้อยเบนนูในปลายเดือนธันวาคมนี้
อ้างอิง:
NASA’s Newly Arrived OSIRIS-REx Spacecraft Already Discovers Water on Asteroid