ใครที่เคยไปพิพิธภัณฑ์อวกาศของรัสเซีย คงจะเคยเห็นอาคารที่สูงใหญ่ และเป็นสะพานขึ้นไปแตะยังดวงดาว แต่ถ้าเราเดินไปมองใกล้ ๆ สะพานที่สูงใหญ่นี้ฐานของมันคือภาพแกะสลักเรื่องราวของมนุษย์ มนุษย์ที่มีเลือดเนื้อเหมือนกับเรา มีความรัก และความกล้าหาญ
“หญิงสาวเดินท่ามกลางหมอกริมน้ำ ในวันที่ต้นไม้ผลิบาน เธอร้องเพลงถึงเพื่อนชายของเธอ คนที่เธอรักสุดหัวใจ เธอขอให้เพลงนี้เดินทางไปถึงเขา ให้ความรักโบยบินไปไกลแสนไกลถึงทหารกล้าคนนั้น นำความรักของสาวน้อยคนนั้นไปให้”
เนื้อหาจากเพลงชื่อกาตยูชา เพลงที่โด่งดังเพลงหนึ่งในสหภาพโซเวียตโดยเฉพาะในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เพลงนี้จึงสะท้อนเรื่องราวความรักของชายหนุ่มและหญิงสาวหลายคู่ในสมัยนั้นได้เป็นอย่างดี หากแต่มีเรื่องราวอีกเรื่องราวหนึ่ง ที่ทำให้เรานึกถึงบทเพลงนี้ เรื่องราวนี้เป็นของชายหนุ่มกับหญิงสาวที่ตกหลุมรักกันในวัย 23 ปี ก่อนที่จะแต่งงานกันในไม่กี่เดือนถัดมา ในขณะที่ชายหนุ่มต้องรับหน้าที่ในการทำสิ่งที่ไม่มีมนุษย์คนใดเคยทำมาก่อน คือการเดินทางไปอวกาศ
เรื่องราวนี้เป็นของชายหนุ่มที่ชื่อยูริ กาการิน และวาเลนตินา ภรรยาของเขา เรารู้จักมุมของกาการิน ชายหนุ่มผู้กล้าหาญที่เดินทางขึ้นสู่อวกาศและกลายเป็นนักบินอวกาศคนแรกของโลกในวัยเพียงแค่ 27 ปี และเปลี่ยนโลกไปตลอดกาล แต่มีอีกมุมที่เราไม่เคยรู้ คือเรื่องราวของยูริ และวาเลนตินา ที่เต็มไปด้วยห้วงแห่งอารมณ์
วันที่ 17 มีนาคม 2020 Roskosmos หน่วยงานอวกาศของรัสเซียได้ออกมาประกาศผ่าน Twitter เมื่อช่วงดึกของวันที่ 17 มีนาคม เวลาประเทศไทยว่าวาเลนตินา กาการินา (ในนามสกุลรัสเซีย ถ้าเป็นผู้หญิงจะลงท้ายด้วยสระอา) ได้เสียชีวิตในวัย 85 ปี อย่างสงบ
วาเลนตินา คือคู่รักของยูริ กาการิน เธอและสามีแต่งงานกันตั้งแต่ปี 1957 ซึ่งเป็นปีที่เธอได้เจอกับกาการินครั้งแรก ก่อนหน้าภารกิจการเดินทางสู่อวกาศครั้งแรกของกาการินเพียงแค่ 4 ปี ในตอนนั้นกาการินและวาเลนตินาเป็นคู่รักหนุ่มสาวทั่วไปที่สามีต้องไปทำภารกิจเสี่ยงตายในการเป็นนักบินอวกาศกลุ่มแรกชองสหภาพโซเวียต
เรื่องราวส่วนตัวของกาการิน ไม่ได้หาได้ง่ายนัก แต่มีหนังสือชื่อ The First Soviet Cosmonaut Team เล่าเรื่องราวความรักของยูริ กับวาเลนตินา ว่าเกิดขึ้นในฤดูร้อนปี 1957 ตอนนั้นเขาอายุเพียงแค่ 23 ปี กาการินพบกับวาเลนตินา กอร์ยาเชฟวาที่เพิ่งจบการศึกษาด้านเทคนิคการแพทย์ จาก Orenburg Medical School ณ จตุรัสแดง ในการฉลองวันแรงงาน วาเลนตินา อายุน้อยกว่ากาการิน 1 ปี (22) เขาและเธอพบรักและแต่งงานกันในวันที่ 7 พฤศจิกายนปีเดียวกัน ทันทีที่ทั้งคู่เรียนจบ
กาการิน เข้ารับการคิดเลือกเป็นนักบินอวกาศในโครงการอวกาศของโซเวียต ซึ่งคัดเลือกทหารหนุ่ม 6 คน ในสารคดี BBC Space Race ที่เล่าถึงในช่วงต้นของการสำรวจอวกาศ การแข่งขันการสำรวจอวกาศระหว่างสหรัฐอเมริกากับสหภาพโซเวียต สหภาพโซเวียตคัดเลือกนักบินอวกาศยุคแรก สหภาพโซเวียตต้องการชายหนุ่มอายุระหว่าง 25 ถึง 30 ปี ผู้มีร่างกายแข็งแรง เป็นนักบินอวกาศชุดแรกในโครงการวอสตอก ปัจจุบันเอกสารเหล่านี้ถูกรวมรวมไว้ใน NASA History Archive ส่วนเอกสารต้นฉบับภาษารัสเซียก็หาอ่านได้ไม่ยากบนอินเทอร์เน็ต เพราะหลังจากที่โซเวียตล่มสลาย เอกสารมากมายก็ได้ถูกเผยแพร่ออกมา
กาการิน ถูกคัดเลือกเข้าโปรแกรมตอนที่เขาอายุเพิ่งจะ 25 ปี 2 ปีก่อนภารกิจการเดินทางไปอวกาศ ในตอนนั้น กาการินได้รับการฝึกเป็นเวลา 2 ปีร่วมกับนักบินอวกาศอื่น ๆ ในสหภาพโซเวียต การเสียชีวิตของนักบินอวกาศระหว่างการฝึกเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ นั่นหมายความว่า วาเลนตินาคือหนึ่งในหญิงสาวที่ต้องรอฟังข่าวทุกวันที่สามีของเธอออกจากบ้าน นักบินอวกาศรุ่นแรกอย่าง วาเลนติน บอนดาเรนโก เสียชีวิตในอุบัติเหตุไฟไหม้ระหว่างทดสอบ
ระหว่างการคัดเลือกเป็นนักบินอวกาศทั้งคู่ก็ได้มีลูกด้วยกันสองคน เป็นผู้หญิงทั้งคู่ได้แก่เยเลนา และกาลินา ในช่วงระหว่างปี 1959-1961 เป็นเรื่องน่าสนใจที่กาการิน ยังคงมีเวลาให้กับครอบครัว ในระหว่างการฝึกเป็นนักบินอวกาศที่หนักหน่วง
แต่ด้วยความเชี่ยวชาญวาเลนตินาทำงานในศูนย์ควบคุมภารกิจในฐานะเจ้าหน้าที่เทคนิคการแพทย์ ทำให้เธอไม่ต้องอยู่ห่างจากสามีของเธอมากนัก
แม้การเดินทางสู่อวกาศครั้งแรกของกาการินในปี 1961 จะประสบความสำเร็จ แต่กาการินเองก็เกือบต้องเอาชีวิตไปทิ้งแล้วเช่นกัน เมื่อเขาต้องดีดตัวออกจากยานในขณะที่ยานกลับลงสู่โลก (โซเวียตให้ความสำคัญตอนขึ้นแต่ไม่ใช่ตอนลง) ความลับนี้ถูกเปิดเผยภายหลัง เพราะโซเวียตไม่ต้องการให้โลกรู้ว่ามีวิธีขึ้นให้แต่ไม่มีวิธีลง
วาเลนตินาและยูริ ใช้ชีวิตอย่างปกติหลังจากนั้นในขณะที่สามีของเธอกลายเป็นฮีโร่ และเป็นสัญลักษณ์ของการเดินทางสู่อวกาศ วาเลนตินาคงจะเข้าใจว่าการเดินทางของสามีเธอนั้น โชคดีแค่ไหน เพราะหลังจากการเดินทางของกาการินซึ่งเป็นเที่ยวแรก หายนะในอวกาศก็เกิดขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากนั้น ไม่ว่าจะเป็นการที่อเล็กซี ลีโอนอฟ เกือบกลับเข้ายานไม่ได้ในภารกิจการทำ Space Walk ครั้งแรก หรือการเสียชีวิตของวลาดิเมียร์ คามารอฟ ในปี 1967 ที่ภรรยาของคามารอฟ ถูกโทรเรียกให้มาบอกลาสามีของเธอเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่คามารอฟจะกลายเป็นชายคนแรกที่ตกจากอวกาศสู่ความตาย เนื่องจากเหตุร่มไม่กาง
แม้กระทั่งในฝั่งของสหรัฐอเมริกาเอง การเป็นภรรยาของนักบินอวกาศก็ไม่ใช่เรื่องง่ายใครที่เคยดูภาพยนตร์เรื่อง First Man ก็คงจะเห็นความตึงเครียดในการที่ทุกวันจะต้องเห็นสามีออกจากบ้านโดยที่ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาหรือเปล่า โครงการ Apollo ที่คร่าชีวิตนักบินอวกาศมามากมายก็เป็นหนึ่งในตัวอย่าง
อย่างไรก็ตาม เรื่องที่วาเลนตินาไม่อยากให้เกิดขึ้นก็เกิดขึ้นในปี 1968 เมื่อยูริ กาการิน ฮีโร่แห่งสหภาพโซเวียต ได้เสียชีวิตในเหตุเครื่องบินตก
วาเลนตินา ใช้ชีวิตหลังจากนั้นและยังคงเป็นเพื่อนกับนักบินอวกาศแห่งสหภาพโซเวียตอยู่ หลายครั้งปรากฎภาพของเธอกับนักบินอวกาศเพื่อนของกาการินอย่างลีโอนอฟ หรือในวันฉลองครบรอบการเดินทางขึ้นสู่อวกาศ เธอและลูกสาวก็จะปรากฏตัวอยู่เสมอ ๆ อย่างไรก็ตาม เราพยายามหาบทสัมภาษณ์ แต่กลับไม่เจอบทสัมภาษณ์ใด ๆ แม้จะค้นหาจากฝั่งรัสเซียด้วยภาษารัสเซียแล้วก็ตาม
ข้อมูลส่วนมากบนอินเทอร์เน็ตแปลมาจากหนังสือชื่อ 108 минут и вся жизнь (ร้อยแปดนาทีในทั้งชีวิต – 108 นาทีคือเวลาที่กาการินใช้ในภารกิจครั้งแรก) สิ่งนี้อาจจะทำให้เรา เดาสิ่งที่อยู่ในใจของวาเลนตินาได้ยาก แต่การที่เธอไม่แต่งงานใหม่ และยังใช้ชีวิตที่เหลือชื่นชมงานของสามีเธอ เลี้ยงลูกทั้งสอง และเป็นเพื่อนกับนักบินอวกาศเพื่อนรักของสามีเธอ นานถึง 52 ปี สิ่งเหล่านี้ก็อาจจะแทนความหมายบางอย่างได้แล้ว
วาเลนตินา เสียชีวิตในเดือนมีนาคมปี 2020 รวมอายุ 85 ปี สุดท้ายแล้วภาพของเรื่องราวเหล่านี้ ชายหญิงคู่หนึ่ง ตกหลุมรัก และแต่งงานกันในวัย 23 ปี ผู้ชายต้องทำภารกิจที่ไม่มีมนุษย์คนใดทำมาก่อนคือการเป็นนักบินอวกาศคนแรกของโลกในวัยแค่ 27 ปี เป็นเรื่องราวของคู่รักที่เป็นเอกลักษณ์ และน่าสนใจไม่ต่างไปจากเที่ยวบินแรกของกาการินเลย
“ให้เขาจดจำหญิงสาวผู้นี้ไว้ ให้เขาได้ยินเสียงของเธอทุกครั้งครา ให้ชายผู้นั้นปกป้องแผ่นดินบ้านเกิดสุดหัวใจ เหมือนกับที่หญิงสาวผู้นี้ปกป้องความรักของสองเรา” – ท่อนจบของเพลงกาตยูชา