Virgin Galactic ทำสำเร็จแล้ว เที่ยวบิน Unity 22 ที่ในครั้งนี้ Sir Richard Branson ได้เดินทางไปด้วยพร้อมกับลูกเรืออีก 3 คน กลายเป็นเที่ยวบินประวัติศาสตร์ที่เปิดโลกของการเดินทางไปอวกาศที่เราเข้าถึงได้ง่ายที่สุด ซึ่งตอนนี้พร้อมเปิดตัวในราคาเที่ยวละ 7-8 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2021 ที่ผ่านมา องค์การบริหารการบินแห่งสหรัฐอเมริกาหรือ FAA ได้อนุมัติให้บริษัท Virgin Galactic สามารถขนส่งนักท่องเที่ยวขึ้นไปยังอวกาศได้เป็นครั้งแรก หลังจากที่ Virgin Galactic ประสบความสำเร็จอย่างสวยงามในการทดสอบเที่ยวบินครั้งที่ 3 ในเดือนพฤษภาคม 2021
และอีกไม่กี่วันต่อมาทาง Virgin Galactic ก็ได้ประกาศว่า เซอร์ ริชาร์ด แบรนสัน (Sir Richard Branson) ผู้ก่อตั้งบริษัทและทีมงานจะเดินทางไปอวกาศในเที่ยวบินโดยสารแรกของ Virgin Galactic ในวันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม 2021 ด้วยเครื่องบินอวกาศของบริษัทที่มีชื่อว่า VSS Unity ที่ได้ตัดหน้าการไปอวกาศของ เจฟฟ์ เบซอส (Jeff Bezos) ผู้ก่อตั้ง Blue Origin ที่ได้ประกาศว่าจะไปเดินทางไปอวกาศด้วยจรวด New Sheperd เพียง 9 วันเท่านั้น ทำให้ ริชาร์ด แบรนสัน ขึ้นแท่นเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทการบินอวกาศคนแรกที่จะได้เดินออกนอกโลกเป็นคนแรก
นับตั้งแต่ปี 2004 ที่ ริชาร์ด แบรนสัน (Richard Branson) ได้ก่อตั้งบริษัท Virgin Galactic ขึ้นมาเพื่อที่จะนำร่องธุรกิจการท่องเที่ยวอวกาศ โดยการนำนักท่องเที่ยวจำนวน 6 คนขึ้นไปแตะขอบอวกาศที่ความสูงราว 90 กิโลเมตรด้วยเครื่องบินจรวด หลังจากการทดสอบที่ล้มลุกคลุกคลานมายาวนานมากกว่า 20 ครั้งตลอดระยะเวลา 17 ปีที่ผ่านมา จนในที่สุดเที่ยวบินโดยสารแรกของ Virgin Galactic ก็มาถึง ซึ่งเที่ยวบินนี้ประกอบไปด้วยผู้โดยสารทั้งหมด 4 คนและนักบินอีก 2 เรียงจากซ้ายไปขวาตามรูปภาพด้านล่าง ได้แก่
- Dave Mackay กัปตันเครื่องบินอวกาศ VSS Unity
- Colin Bennett หัวหน้าวิศวกร ผู้ที่จะประเมินสภาพแวดล้อมของเที่ยวบิน
- Beth Moses ผู้เตรียมความพร้อมให้กับนักท่องเที่ยวอวกาศของ Virgin Galactic ในเที่ยวบินนี้เธอจะเป็นผู้ดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสาร
- Sir Richard Branson ผู้ก่อตั้ง Virgin Galactic ที่มีหน้าที่ประเมินประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยวจะได้รับ
- Sirisha Bandla รองประธานฝ่ายบริหารและการปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ของ Virgin ผู้ที่จะประเมินศักยภาพการทดลองงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในเที่ยวบินแรกนี้
- Michael Masucci นักบินผู้ช่วย VSS Unity
ในเช้าวันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม 2021 ตามเวลาท้องถิ่น เซอร์ ริชาร์ด แบรนสัน (Sir Richard Branson) และทีมงานได้รวมตัวกันที่ Spaceport อาคารโดยสารสุดหรูของ Virgin Galactic ที่สร้างมาเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวอวกาศในอนาคตท่ามกลางทะเลทราย รัฐนิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา โดยที่ผู้โดยสารทุกคนนั้นล้วนใส่เครื่องแบบของ Virgin Galactic โดยเฉพาะ ซึ่งออกแบบโดย Under Armour ก่อนที่จะดำเนินการขึ้นรถโดยสารวิ่งออกไปตามรันเวย์เพื่อที่จะเริ่มทำการ Boarding เครื่องบินอวกาศ SpaceShipTwo ที่มีชื่อว่า VSS Unity
การเดินทางไปแตะขอบอวกาศของ Virgin Galactic นั้นได้เปลี่ยนวิธีการปล่อยจรวดแนวตั้งแบบดั้งเดิมที่เราคุ้นชินกันมาเป็น เครื่องบินจรวดแทน ซึ่งจะแนบติดเครื่องบินแม่ที่มีขนาดใหญ่กว่าอีกทีหนึ่ง หลังจากที่ผู้โดยสารทุกคนขึ้นเครื่องแล้ว เครื่องบินแม่ WhiteKnightTwo ที่มีชื่อว่า VMS Eve ได้ทำการบินออกจาก Spaceport เหมือนกับเครื่องบินโดยสารทั่วไป และใช้เวลาประมาณ 45 นาทีไต่ระดับพายาน VSS Unity ขึ้นไปที่ความสูงราว 18 กิโลเมตรเหนือพื้นดิน สูงกว่าระดับที่สายการบินทั่วไปบินเกือบ 2 เท่า
หลังจากที่เครื่องบินแม่ WhiteKnightTwo ไต่อยู่ในระดับที่เหมาะสม เครื่องบินอวกาศ VSS Unity ก็ได้แยกตัวออกมากลางอากาศและจุดระเบิดเครื่องยนต์จรวดอันทรงพลัง พุ่งขึ้นไปสู่ขอบอวกาศที่ระดับความสูงราว 90 กิโลเมตรด้วยความเร็วเหนือเสียงที่ 3,700 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อที่จะชนะสนามโน้มถ่วงของโลกออกไปแตะขอบอวกาศ ภาพจากภายในเครื่องบินอวกาศจะเห็นได้ว่าท้องฟ้าจะค่อย ๆ กลายเป็นสีดำลงอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งเครื่องยนต์จรวดดับลง แล้วทุกสิ่งทุกอย่างตกอยู่ในสภาวะไร้น้ำหนักของอวกาศ
ผู้โดยสารของ Virgin Galactic ทุกคนจะได้สัมผัสประสบการณ์สุดเหลือเชื่อนี้ราว 5 นาที ซึ่งสามารถปลดเข็มขัดลอยเคว้งไปมาในห้องโดยสารได้ ก่อนที่ตัวเครื่องบินอวกาศจะเริ่มพลิกตัวกลับและลดระดับร่อนลงสู่พื้นโลกเบื้องล่าง ที่มีสื่อและคนดูหลายร้อยคนคอยจับตาอยู่เบื้องล่าง โดยหนึ่งในแขกรับเชิญที่ได้มาดูเที่ยวบินครั้งนี้ด้วยก็คือ อีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งบริษัท SpaceX
“ถึงเด็ก ๆ ทั้งหลายข้างล่าง ผมเคยเป็นเด็กที่มีความฝันมองขึ้นไปยังดวงดาว ตอนนี้ผมเป็นผู้ใหญ่ที่กำลังนั่งยานอวกาศกับผู้ใหญ่ที่มหัศจรรย์คนอื่น ๆ มองลงไปยังโลกอันสวยงามของเรา ถึงเหล่าคนช่างฝันรุ่นต่อไป: ถ้าพวกเราสามารถทำสิ่งนี้ได้ ลองจินตนาการดูว่าพวกเธอสามารถทำอะไรได้”
“เราอยู่ที่นี่เพื่อทำให้ทุกคนเข้าถึงอวกาศได้มากกว่านี้ เราต้องการเปลี่ยนเหล่านักฝันรุ่นต่อไปให้เป็นนักบินอวกาศแห่งวันนี้และพรุ่งนี้ เราทุกคนบนเวทีนี้เพิ่งได้รับประสบการณ์อันน่าอัศจรรย์ และเราก็จะยินดีถ้าพวกคุณได้รับมันเช่นกัน””ถ้าพวกคุณมีความฝัน ตอนนี้มันคือเวลาทำมันให้เป็นจริง ผมขอบอกลา ด้วยการยินดีต้อนรับสู่รุ่งอรุณของยุคใหม่แห่งการสำรวจอวกาศ”
แบรนสันทิ้งท้ายภายหลังจากการเสร็จสิ้นภารกิจ Unity 22
อนาคตของการท่องเที่ยวอวกาศ
เที่ยวบินโดยสารครั้งแรกของ Virgin Galactic นี้จะถือเป็นการทดสอบครั้งสุดท้ายที่จะจุดชนวนธุรกิจการท่องเที่ยวอวกาศของ Virgin Galactic ที่จะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการในปี 2022 จากข้อมูลล่าสุดในปี 2021 ได้มีผู้จองที่นั่งเดินทางไปแตะขอบอวกาศกับ Virgin Galactic มากกว่า 600 คนแล้ว ด้วยราคาที่นั่งละ 250,000 ดอลล่าห์สหรัฐ หรือประมาณ 8 ล้านบาท ซึ่งก็ถือว่าไม่ได้เป็นราคาที่แพงมากสำหรับเศรษฐีทั่วโลก (อาจจะถูกกว่าราคารถยนต์ของพวกเขาด้วยซ้ำ)
สำหรับคนธรรมดาอย่างเราก็อย่าพึ่งเสียใจไป เพราะการที่เหล่าคนรวยสามารถเดินทางไปอวกาศได้เป็นสัญญาณที่ดีว่าในอนาคตคนธรรมดาก็จะสามารถขึ้นไปได้เช่นกัน ในกรณีอาจเปรียบได้ว่าการท่องเที่ยวอวกาศก็เหมือนสายการบินสมัยก่อนที่คนมีเงินเท่านั้นที่จะเอื้อมซื้อตั๋วเครื่องบินเดินทางไปต่างประเทศได้ ส่วนคนธรรมดาก็ต้องใช้เรือเดินสมุทรเอา แต่พอเทคโนโลยีการบินมีการพัฒนาขึ้น เครื่องบินสามารถจุคนได้เยอะกว่าเดิม ราคาตั๋วเครื่องบินก็ตกลงมาทำให้คนธรรมดาสามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ทั่วโลกอย่างในปัจจุบัน จึงเป็นสาเหตุที่น่าจับตามองว่าอนาคตของการท่องเที่ยวอวกาศจะเติบโตไปในทิศทางไหน
เรียบเรียงโดย ทีมงาน Spaceth.co
