หลังจาก Ingenuity ทำการสาธิตทางเทคโนโลยีเสร็จสิ้นทั้งหมด ตอนนี้มันก็เหมือนเป็นส่วนเสริมหนึ่งของภารกิจ Mars 2020 ที่มีประโยชน์อย่างมากในการช่วย Perseverance สำรวจพื้นที่ต่าง ๆ ของ Jezero Crater ล่วงหน้า เพื่อประเมินเส้นทางที่ปลอดภัยที่สุดให้ Perseverance หลบหลีกสิ่งกีดขวาง รวมถึงการหา Area of Interest หรือพื้นที่ที่มีจุดสนใจล่วงหน้าเพื่อให้ Perseverance มาสำรวจต่อ
นอกจากนี้ Ingenuity ยังสามารถช่วยสำรวจบางพื้นที่ที่ Perseverance ไม่สามารถเข้ามาสำรวจได้ด้วย เนื่องจากมีอุปสรรคหรือสิ่งกีดขวางที่เป็นอันตรายอยู่บนพื้น Ingenuity สามารถข้ามขีดจำกัดตรงนี้ไปได้เพราะมันบินอยู่ในอากาศ
ในเที่ยวบินที่ 9 เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2021 นั้น Ingenuity ได้เริ่มสำรวจเส้นทางล่วงหน้าที่ Perseverance กำลังเดินทางไปด้วยระบบ AutoNav โดยมันได้พบพื้นที่หลายพื้นที่ที่มีจุดน่าสนใจสำหรับ Perseverance ให้มาสำรวจต่อ ซึ่งเดิมทีจุดสนใจเหล่านี้ไม่ถูกพบโดยการถ่ายรูปทางดาวเทียม แม้แต่รูปจากกล้อง HiRISE (High Resolution Imaging Science Experiment) บนยาน Mars Reconnaissance Orbiter (MRO) ที่ขึ้นชื่อว่าละเอียดขนาดถ่ายรูปหินเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 เมตรได้ ถ่าย Perseverance ได้ ก็ไม่มีลายละเอียดมากพอให้ทำการสำรวจทางสันฐานวิทยาได้ จึงต้องพึ่งภาพถ่ายจาก Ingenuity หรือตัว Rover แทน
เมื่อมา Ingenuity เพิ่มขึ้นมา ทีมนักวิทยาศาสตร์และนักวางแผนจึงสามารถนำภาพจากทั้ง Ingenuity และ MRO มาปะติดปะต่อกันเป็นแผนที่ดาวอังคารแบบละเอียดได้นั่นเอง โดยภาพรวม ๆ แบบความละเอียดต่ำก็เอามาจาก MRO ส่วนภาพความละเอียดสูงก็เอามาจาก Ingenuity โดยภาพความละเอียดสูงของ Area of Interest จาก Ingenuity ในเที่ยวบินที่ 9 ถูกส่งมาถึงโลกเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2021
หน้าผาหินแตก (Raised Ridge)
Raised Ridge หรือหน้าผาหินแตกเป็นหินที่แตกตัวออกละเอียดจำนวนมากซึ่งทำให้เกิดช่องว่างระหว่างหินซึ่งน่าจะทำหน้าที่เป็นช่องทางการไหลของน้ำใต้บาดาลบนดาวอังคาร หาก Jezero Crater เคยเป็นทะเลสาบจริง เป็นไปที่น้ำจากทะเลสาบจะไหลผ่านระบบหินเหล่านี้และทิ้งผลึกแร่ตกตะกอนเอาไว้ซึ่งอาจเป็นแหล่งอาหารของจุลชีพในอดีตได้ และเป็นจุดที่ดีเลยสำหรับการสำรวจเพิ่มเติมโดย Perseverance รวมถึงการเก็บตัวอย่างเพื่อเตรียมส่งกลับโลกในภารกิจต่อ ๆ ไปด้วย
เนินทราย
เนินทรายที่เต็มไปด้วยทรายละเอียดจำนวนมาก อาจลึกถึงระดับเข่าหรือแม้แต่ถึงเอวของมนุษย์ และเมื่อไหร่ที่มีโรเวอร์น้ำหนักเป็นตัน ๆ อย่าง Perseverance มาจมทรายเข้า คงจะไม่ดีแน่เพราะถ้ามันมาอยู่ในเนินทรายพวกนี้ มีความเป็นไปได้สูงที่เราอาจจะต้องเรียก Perseverance ว่า Lander แทนคำว่า Rover
นี่เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ Perseverance ไม่สามารถเข้าไปสำรวจเองได้ เพราะถ้าสำรวจแล้วมันจะกลายเป็น Lander แทน (ติดหล่มทราย) แต่ Ingenuity สามารถสำรวจแทนได้ นอกจากนี้การพบเนินทรายในเส้นทางของ Perseverance แบบนี้จะทำให้วิศวกรที่ออกแบบเส้นทางของ Perseverance เปลี่ยนเส้นทางลีกเลี่ยงพื้นที่เหล่านี้ได้ทันท่วงที เพราะตอนนี้ Perseverance อยู่ในระบบ Autopilot ที่เรียกว่า AutoNav อยู่ โดยเป็นการขับเคลื่อนอัตโนมัติแทบจะ 100% ระบบ AutoNav เองสามารถตรวจจับหินและสิ่งกีดขวางได้เอง แต่มันตรวจเนินทรายไม่ได้ เพราะมันแยกไม่ออกว่าพื้นอันไหนเป็นพื้นทรายอันไหนพื้นดิน มนุษย์จึงจะต้องทำแทนไปก่อน
Bedrock
พื้นที่ที่มี Bedrock หรือพื้นหินบริเวณ Area of Interest ที่เรียกว่า “Séítah” ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีทรายเป็นจำนวนมาก จึงทำให้ Perseverance เสี่ยงต่อการติดหล่มในทรายและไม่สามารถเข้ามาสำรวจได้ Ingenuity จึงรับหน้าที่เขามาสำรวจทางอากาศ เพื่อศึกษาลักษณะพื้นหินของ Séítah โดยไม่ต้องให้ Perseverance มาเสี่ยง
อย่างไรก็ตามหากพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งที่เจอหินที่มันน่าสำรวจมาก ๆ NASA บอกว่าสามารถสั่งให้ Perseverance ทำ “Toe dip” หรือลุยทรายเขาไปสำรวจได้ โดยใช้ Ingenuity เข้าไปสำรวจก่อนว่าบริเวณไหนน่าจะเป็นทรายตื้นเพื่อสร้างเส้นทางให้ Perseverance ลุยทรายเข้าไปสำรวจได้นั่นเอง
Mars 2020 เรียกได้ว่าเป็นภารกิจการสำรวจดาวอังคารอันหนึ่งที่น่าติดตามมากเลยทีเดียว เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่มีการสำรวจร่วมกันระหว่างอากาศยานสำรวจ โรเวอร์พื้นดิน และยานสำรวจ (Orbiter) และนี่ยังไม่รวมภารกิจ Mars Sample Return ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้อีกด้วย
เรียบเรียงโดย ทีมงาน SPACETH.CO
อ้างอิง
NASA’s Mars Helicopter Reveals Intriguing Terrain for Rover Team