8 เมษายน 2024 จะเป็นการกลับมาของสุริยุปราคาเต็มดวงเหนือแผ่นดินสหรัฐ อีกครั้ง หลังจากที่รอบล่าสุดที่ได้เกิดขึ้นไปคือในปี 2017 ที่ในตอนนั้นเราได้เห็นภาพอันโด่งดังของประธานาธิบดี Donald Trump หยีตามองสุริยุปราคาด้วยตาเปล่าซึ่งอาจเป็นสัญญะความไม่เกรงกลัวใครของ Trump
ในสหรัฐฯ จะมีการเรียกการเกิดสุริยุปราคาที่พาดผ่านแผ่นดินสหรัฐฯ ในลักษณะนี้ว่า Great American Total Solar Eclipse หรือ Great American Eclipse ซึ่งในรอบนี้ก็ได้ถูกเรียกด้วยชื่อดังกล่าวเช่นกัน
สำหรับสุริยุปราคาในรอบนี้นั้น จะมีทิศพาดผ่านตั้งแต่มหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ ขึ้นมาถึงชายฝั่งประเทศเม็กซิโก พาดผ่านตอนกลางของสหรัฐฯ ไล่ขึ้นไปทางทิศเหนือ ขึ้นไปจนถึงฝั่งตะวันออกของประเทศแคนาดา และจบลงในมหาสมุทรแอตแลนติกตอนเหนือ โดยศูนย์กลางที่จะเกิดการบดบังนานที่สุดนั้นจะอยู่ที่ เมือง Nazas ประเทศเม็กซิโก ซึ่งจะกินระยะเวลา 4 นาที 28 วินาที โดยยิ่งอยู่ห่างจากจุดนี้มากเท่าไหร่ Eclipse ก็จะเกิดเร็วขึ้นเท่านั้น
โดยในปี 2023 ที่ผ่านมา ก็ยังได้เกิดปรากฎการณ์สุริยุปราคาแบบวงแหวน (annular) พาดผ่านในสหรัฐฯ ซึ่งก็กระตุ้นความสนใจให้คนอยากรอรับชมสุริยุปราคาแบบเต็มดวงในวันที่ 8 เมษายน 2024 เป็นอย่างมาก
สุริยุปราคารอบนี้ เป็นรอบซารอส (Saros) ที่ 139 ซึ่งจะเกิดขึ้นซ้ำทุก ๆ 18 ปี 11 วัน มีการเกิดขึ้น 71 ครั้ง ซึ่ง 16 ครั้งจะเป็นสุริยุปราคาแบบบางส่วน (partial) 12 ครั้งจะเป็นแบบผสม (hybrid) และ 43 ครั้งจะเป็นแบบสุริยุปราคาเต็มดวง (total)
สามารถเห็นได้จากเมืองไหนบ้าง เวลากี่โมง
สำหรับเวลาที่จะเกิดสุริยุปราคานั้น ก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละเมือง (เนื่องจากพาดผ่านสหรัฐฯ ในทั้ง 3 Time Zone ด้วยกัน ทั้ง Eastern, Central และ Western Time)
สำหรับการดูสุริยุปราคาในรอบนี้ เงามืดแบบเต็มดวงจะพาดผ่านเมืองใหญ่ ๆ อย่าง
- เมือง Mazatlán ในเม็กซิโก (12:20 Central Standard Time ของเม็กซิโก)
- เมือง San Antonio, Austin และ Dallas รัฐเท็กซัส (13:42 CDT)
- เมือง Little Rock รัฐอาคันซอ (13:52 CDT)
- เมือง Indianapolis รัฐมินิโซตา (15:06 EDT)
- เมือง Cleveland รัฐโอไฮโอ (15:06 EDT)
- เมือง Buffalo รัฐนิวยอร์ค (15:06 EDT)
- เมือง Montreal และ Gander (16:35 เวลา Atlantic Daylight Time ของแคนาดา)
โดยเงามืดจะปรากฎเฉลี่ยอยู่ที่ระหว่าง 1-2 นาทีโดยประมาณในสหรัฐฯ ซึ่งยิ่งอยู่ใต้ (แถวเท็กซัส) ก็จะสามารถเห็นปรากฎการณ์เงามืดได้นานเกือบ 3 นาทีเลยทีเดียว
โดยเราได้พบว่า ในการเดินทางไปชมสุริยุปราคาในเมืองเหล่านี้ ตั๋วเครื่องบินมีราคาแพงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทีมงานจึงใช้วิธีการบินไปลงยังเมืองใกล้เคียงที่มีราคาตั๋วถูกกว่า และขับรถต่อไปแทน ซึ่งถ้าใครที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับเมืองเหล่านี้แนะนำว่า ให้เดินทางไปดูเถอะ โชคดีมาก ๆ
อย่างไรก็ตาม เราสามารถสังเกตปรากฏการณ์สุริยุปราคาแบบเห็นบางส่วนได้จากทั้งทั่วแผ่นดินสหรัฐฯ ซึ่งจะเห็นอัตราการบดบังตั้งแต่ 10% โดยในเมืองหลวงอย่าง Washington DC (เวลา 15:20) จะเห็นการบดบังอยู่ที่ 70% ในเมืองใหญ่อย่าง New York (เวลา 15:16) จะเห็นการบดบัง 80% หรือทางฝั่งแปซิฟิกอย่าง Los Angeles, San Francisco (เวลา 11:13) จะเห็นการบดบังอยู่ที่ 50% โดยประมาณ
สำหรับใครที่ติดตามจากประเทศไทย ช่วงการเกิดนั้นจะอยู่ที่เวลา ช่วงดึกของไทย ประมาณตีสอง ของวันที่ 9 เมษายน 2024 (ดูสดผ่าน Live เนื่องจากในฝั่งเอเชีย ไม่สามารถเห็นปรากฎการณ์ได้)
ดูสุริยุปราคาอย่างไรให้ปลอดภัย
สำหรับวิธีการดูสุริยุปราคา ก็คือการดูผ่านฟีล์มแบบพิเศษ หรือผ่าน Solar Filter เท่านั้น ไม่สามารถดูได้ด้วยตาเปล่า (และขอร้องว่าอย่าทำ) รวมถึงการดูผ่านกล้องดูดาวที่ติดตั้ง Solar Filter เท่านั้น ซึ่งทาง NASA และหน่วยงานต่าง ๆ เองก็ได้มีการแจกจ่ายแว่นตาสำหรับการชมให้ประชาชนในสหรัฐฯ
รวมถึงเรายังสามารถดูปรากฎการณ์ดังกล่าวได้ผ่านการสังเกตเงาที่เกิดขึ้นจากการฉายภาพดวงอาทิตย์ลงบนพื้นผิวเรียบ เช่น กระดาษ หรือแม้กระทั่งพื้นได้เช่นกัน
แต่สิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดของสุริยุปราคาแบบเต็มดวงนั้น อาจไม่ใช่การสังเกตดวงอาทิตย์ด้วยซ้ำ แต่เป็นการมองสภาพแวดล้อมโดยรอบ ที่จะมืดลงฉับพลันเหมือนเป็นกลางคืน รวมถึงอุณหภูมิที่จะต่ำลงอย่างสัมผัสได้ และพฤติกรรมของสัตว์ต่าง ๆ ที่จะสับสนต่อสิ่งที่เกิดขึ้น แถมในช่วงที่เกิดสุริยุปราคาเต็มดวง เรายังสามารถมองดวงอาทิตย์ได้ด้วยตาเปล่า (แต่ไม่แนะนำเพราะเสี่ยง)
สำหรับการถ่ายภาพสุริยุปราคา จำเป็นต้องถ่ายภาพ Filter เช่นกัน ยกเว้นในช่วงการบดบังแบบเต็มดวง จึงจะสามารถถอด Filter ได้ โดยแนะนำให้ซ้อมถ่ายกับดวงอาทิตย์ปกติก่อน เพื่อหาค่า Settings ต่าง ๆ มีคำแนะนำก็คือให้ใช้แอพตระกูลดูดาวในการหาตำแหน่งของดวงอาทิตย์บนท้องฟ้าในวันนี้เกิดปรากฎการณ์เพื่อวางแผนถ่ายดวงอาทิตย์กับฉากหลังอื่น ๆ ซึ่งเราสามารถนำภาพดวงอาทิตย์ที่ถ่ายผ่าน Filter มาซ้อนทับกับภาพในขณะเกิดปรากฎการณ์แบบเต็มดวงได้ ซึ่งในตอนนั้นเราจะถอด Filter ออก เพื่อเก็บบรรยากาศแสงโดยรอบ
เรียบเรียงโดย ทีมงาน Spaceth.co