ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับโลกตะวันตกกรณีสงครามในยูเครน หนึ่งในตัวละครสำคัญในมิติด้านอวกาศก็คือ Dimitry Rogozin ผู้อำนวยการขององค์การสำรวจอวกาศรัสเซีย Roscosmos ที่ออกมาแสดงออกอย่างชัดเจนในการสนับสนุนการบุกยึดยูเครนของฝั่งรัสเซีย ไม่เพียงแต่เท่านั้น ยังจุดชนวนความขัดแย้งในวงการอวกาศครั้งสำคัญนับตั้งแต่ยุคสงครามเย็น ด้วยการประกาศตัดความสัมพันธ์กับองค์กรอวกาศยุโรป ESA และกล่าวโจมตีการทำงานของโครงการความร่วมมือต่าง ๆ เช่น โครงการสถานีอวกาศนานาชาติ (ถึงขั้นว่า รัสเซียไม่ต้องการชาติอื่นก็อยู่ได้)
ล่าสุด ได้มีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการว่า Dimitry Rogozin ไม่ได้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการของ Rocsosmos อีกต่อไปแล้ว วันที่ 15 กรกฎาคม 2022 เขาได้ออกมาโพสต์วิดีโอลงบน Telegram ส่วนตัวเป็นการบอกลาและขอบคุณ Roscosmos อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้กล่าวหรือให้ความเห็นว่าที่ทำงานใหม่ของเขาคือที่ไหน
Rogozin ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ Roscosmos ตั้งแต่ปี 2018 ต่อจากผู้อำนวยการ Igor Komarov ซึ่งการทำงานสไตล์ Rogozin ก็คือการเน้นความเป็นชาตินิยม จะสังเกตได้จากความดุเดือดในการทำงานช่วงหลัง ๆ ของ Roscosmos เช่น การถอนตัวออกจากโครงการ Artemis และ Lunar Gateway ของฝั่ง NASA, การประกาศร่วมมือการสำรวจอวกาศกับจีนอย่างเต็มรูปแบบ และแผนในการเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านอวกาศอันได้แก่ ฐานปล่อยแห่งใหม่ในฝั่งตะวันออก (Vostochny Cosmodrome), จรวดรุ่นใหม่อย่าง Angara และการก่อสร้างสถานีอวกาศแห่งใหม่ที่ชื่อว่า Russian Orbital Service Station (ROSS)
ชื่อเสียงของ Rogozin ในแวดวงการเมืองนั้นก็ดุเดือด เมื่อเขามักจะมีภาพปรากฎใกล้ชิดกับประธานาธิบดี Vladimir Putin อยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะเมื่อเกิดเหตุการณ์วิกฤติการณ์ไครเมียในช่วง 2014 ตลอดมาจนถึงการเข้าบุกยึดยูเครนอย่างเต็มรูปแบบในปี 2022 ที่ Rogozin ออกตัวอย่างชัดเจนในการสนับสนุนการใช้กำลังทางการทหาร และกิจกรรมหลาย ๆ อย่างที่เขาทำภายใต้หมวกขององค์กรตัวเองอย่างออกหน้าออกตา เช่น การติดสัญลักษณ์สนับสนุนปฏิบัติการทางการทหาร “V” และ “Z” บนฐานปล่อยจรวด, การจัดกิจกรรมแปรอักษร, การโจมตีว่าสถานีอวกาศนานชาติจะอยู่ไม่ได้หากไม่พึ่งรัสเซีย, การด่าว่าฝั่งสหรัฐฯ และยุโรปจะไม่มีจรวดใช้ และให้ไปใช้ไม้กวาดบินแทน, การเรียกวิศวกรจรวดของรัสเซียใน France Guiana ดินแดนโพ้นทะเลของฝรั่งเศสกลับบ้าน และยุติการขายจรวดและการปล่อยในเชิงการค้า ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นของสิ่งที่ Rogozin แสดงออกมาอย่างเปิดเผย ในช่วงไม่กี่เดือนก่อนการออกจากตำแหน่งของเขา แม้กระทั่งเพียง 2 วันก่อนการออกจากตำแหน่ง Rogozin ยังออกมาห้ามไม่ให้นักบินอวกาศรัสเซีย ใช้งานแขนกลของ ESA (ซึ่งก็ติดอยู่บน Module Nauka ของฝั่งรัสเซีย ไม่ใช้แล้วจะใช้อะไร – วะ)
อย่างไรก็ตาม การออกจากตำแหน่งของเขานั้น คงไม่ใช่ว่าเป็นบทลงโทษแต่อย่างใด เนื่องจาก Rogozin นั้นทำสิ่งที่รัฐบาลเครมลินชื่นชอบอย่างมาก Loren Grush จาก The Verge ได้รายงานลงในข่าวล่าสุด ว่า Rogozin นั้น มีข่าวลือหนาหูว่าจะได้เข้ารับตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการจัดการยูเครนโดยตรง (อาจจะเป็นในภูมิภาค Donbas ที่เป็นชนวนความขัดแย้งสำคัญ) ซึ่งนี่ก็จะทำให้ Rogozin เป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพในยูเครนโดยตรงมากกว่าการเป็นผู้อำนวยการ Roscosmos ที่ทำได้เพียงแซะ ด่า และคว่ำบาตรความร่วมมือ เราก็คงต้องรอติดตามกันต่อไป
ในวงการอวกาศตอนนี้ เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า Roscosmos กับ ESA ผิดใจกันสนิท จนล้มโครงการ ExoMars และดูท่าทีแล้วว่าไม่น่าจะกลับมาร่วมมือกันเร็ว ๆ นี้ ในขณะที่ความสัมพันธ์กับฝั่งสหรัฐฯ ยังต้องมีการพึ่งพากันอยู่ (จะสังเกตว่า Roscosmos เอง โจมตี NASA ไม่เต็มปากเต็มคำเท่า ESA) ล่าสุด เพิ่งมีการผ่านสัญญาการแลกเปลี่ยนนักบินอวกาศ ระหว่างโครงการ Commercial Crew ที่ใช้ยาน Dragon ของ SpaceX กับการส่งยาน Soyuz ของฝั่งรัสเซีย เพื่อเทียบท่าสถานีอวกาศนานชาติ โดยจะมีการแบ่งนักบินรัสเซีย มาบินกับฝั่งสหรัฐฯ และให้นักบินสหรัฐฯ ไปบินในฝั่งรัสเซีย
กรณีนี้เป็นที่จับตามองหลังจากที่หลายคนเกิดข้อกังวลเมื่อเดือน เมษายนที่ผ่านมาที่นักบินอวกาศ Mark Vande Hei มีกำหนดเดินทางกลับโลกบนยาน Soyuz ของรัสเซีย ซึ่งจะต้องลงจอดบนแผ่นดินคาซักสถานและรัสเซีย แต่ภายหลังก็ไม่ได้เกิดข้อพิพาทในกรณีดังกล่าวแต่อย่างใด
ตอนนี้ Roscosmos ก็ได้ผู้อำนวจการคนใหม่ก็คือ Yury Borisov ซึ่งมีพื้นหลังมาจากฝั่งกลาโหมและการทหารมาคล้ายคลึงกับ Rogozin (ในการทำงานอวกาศในฝั่งรัสเซีย จะมีความใกล้ชิดกับการทหารเป็นอย่างมาก) ซึ่งก็ต้องจับตาในแนวทาง (และความปากจัด) กันต่อไป เพราะรัสเซียตอนนี้ก็มีโครงการใหญ่ในฝั่งอวกาศอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็น Vostochny Cosmodrome, จรวด Angara, และโครงการสถานีอวกาศ ROSS ที่หลังจากนี้จะต้องพึ่งพาตัวเองสูงมาก ๆ
เรียบเรียงโดย ทีมงาน Spaceth.co