SpaceX เพิ่งจะปิดท้ายปี 2024 ไปด้วยการทำสถิติการปล่อยจรวดที่มากที่สุดเป็นประวัติกาล รวมทั้งสิ้น 134 เที่ยวบิน บ่งชี้ถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาดการปล่อยจรวด Falcon 9 และ Falcon Heavy แต่นอกจากการปล่อยแล้ว สิ่งหนึ่งที่ทำให้ SpaceX กลายเป็น SpaceX ได้ในทุกวันนี้นั่นก็คือการนำจรวดท่อนแรกกลับมาลงจอดเพื่อใช้ซ้ำ
ปัจจุบัน SpaceX มีฐานสำหรับลงจอดจรวดบนพื้นดินอยู่ 3 แห่งด้วยกัน ในฝั่งตะวันออกได้แก่ Landing Zone 1 และ 2 ณ แหลมคะเนอเวอรัล ส่วนฝั่งตะวันออกนั้นได้แก่ Landing Zone 4 ที่ตั้งอยู่ที่ Vandanberg Space Force Base (สาเหตุที่ข้าม 3 ไปเพราะ Landing Zone 3 ควรจะอยู่กับ 1 และ 2 ที่คะเนอเวอรัล เพื่อรองรับการลงจอดจรวด Falcon Heavy สามท่อนพร้อมกัน แต่ Landing Zone 3 ยังไม่ได้ถูกสร้าง)
ในแต่ละโปรไฟล์ภารกิจ SpaceX จะต้องเลือกว่าจะนำจรวดกลับมาลงจอดบนเรือโดรน หรือว่าจะนำกลับมายังฐานปล่อย ซึ่งตัวแปรก็ได้แก่วงโคจร น้ำหนักของ Payload และปัจจัยอื่น ๆ ซึ่งจะคอยกำหนดว่า Falcon 9 จะบินกลับมาอย่างไร (หรือในบางภารกิจจะใช้แล้วทิ้ง เรียกว่า Expendable)

Landing Zone ของ SpaceX ที่ใช้สำหรับลงจอดจรวด Falcon 9 และ Falcon Heavy มีขนาดประมาณ 282 ฟุต (86 เมตร) เส้นผ่านศูนย์กลาง ซึ่งเทียบเท่ากับพื้นที่ขนาดสนามฟุตบอลขนาดเล็กหนึ่งสนาม
แต่ข่าวล่าสุดนั้น เปิดเผยแล้วว่า SpaceX มีแผนที่จะคืนพื้นที่ Landing Zone 1 และ 2 ให้กับกองทัพอวกาศสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ และหันไปสร้าง Landing Zone แห่งใหม่ด้านข้างฐานปล่อย SLC-40 ใน Cape Canvaral Space Force Station และฐาน LC-39A ใน NASA Kennedy Space Center แทน ซึ่งทั้งสองเป็นฐานที่ SpaceX ได้เช่าเพื่อใช้สำหรับการปล่อยอยู่แล้ว
ดังนั้นภาพที่จะออกมาหลังจากนี้ก็คือ Landing Zone ที่ตั้งอยู่ข้าง ๆ กับฐานปล่อย เหมือนกับที่ Landing Zone 4 นั้นตั้งอยู่ข้าง ๆ Space Launch Complex 4E ใน Vandenberg Space Force Base ที่แคลิฟอร์เนีย

รายละเอียดดังกล่าวนั้นได้รับการระบุไว้ในเอกสารที่ SpaceX กับบริษัทวางแผนก่อสร้าง Kimley-Horn ยื่นไปยัง Saint Johns River Water Management District ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านชลประทานท้องถิ่นในบริเวณแหลมคะเนอเวอรัล ระบุถึงแผนในการปรับหน้าดิน และก่อสร้างบนพื้นที่แห่งใหม่ที่ปัจจุบันยังไม่ได้รับการพัฒนาชายขอบบริเวณฐานปล่อย LC-39A และ LC-40

โดยในเอกสารได้มีการระบุอย่างชัดเจนว่า พื้นที่จะถูกใช้เป็น “Landing Zone” ทำให้เดาเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้อีกแล้ว โดยพื้นที่ Landing Zone ของ LC-39A นั้นจะอยู่ทางทิศเหนือของฐานปล่อย ในบริเวณที่ยังคงเป็นป่า และยังไม่มีการปรับพื้นที่แต่อย่างใด และอยู่นอกถนนที่เรียกว่า Perimeter Road ที่วนรอบฐานปล่อย LC-39A
ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือ SpaceX เองก็มีแผนปล่อย Starship จากฐาน LC-39A ด้วยเช่นกัน และได้มีการสร้างหอคอยสำหรับปล่อยหรือ Orbital Launch Mount อยู่ด้านข้างฐานปล่อย LC-39A เดิมด้วย ทำให้ฐาน LC-39 นี้จะรองรับทั้งการปล่อย Falcon 9, Falcon Heavy และ Starship เป็นอาณาจักรการปล่อยที่แข็งแกร่งมากของ SpaceX ที่แหลมคะเนอเวอรัล โดยปัจจุบัน หอ Orbital Launch Mount นั้นก็สร้างใกล้จะเสร็จแล้ว

ในขณะที่ Landing Zone ของ LC-40 นั้นจะอยู่ทางทิศตะวันออกของฐานปล่อย และอยู่ในพื้นที่ที่ปัจจุบันเป็นลานโล่ง ๆ อยู่ใกล้เข้ามากับถนนที่เรียกว่า Beach Road ที่วิ่งตลอดแนวชายฝั่งของบริเวณฐานปล่อยใน NASA Kennedy Space Center ลงมายัง Cape Canaveral Space Force Station
ในภาพด้านล่าง เราได้ลองชี้ให้ดูถึงจุดที่ SpaceX จะวางแผนก่อสร้าง Landing Zone แห่งใหม่ จากภาพที่ถ่ายจากยอดอาคาร Vehicle Assembly Building เพื่อให้เห็นภาพว่าบริเวณใหม่ที่เราจะเห็นจรวดพุ่งกลับมาลงจอดจะอยู่ตรงไหน ข้อดีก็คือถ้าเราถ่ายภาพตั้งแต่การปล่อย มาจนถึงการลงจอดมันจะต้องสวยมาก ๆ แน่ ๆ

อีกหนึ่งข้อดีของการนำจรวดกลับมาลงจอดที่ฐานปล่อย LC-40 และ 39A ก็คือ SpaceX นั้น สามารถเอาจรวด Falcon 9 กลับมา Refurbish ได้รวดเร็วกว่าการลงจอดที่ Landing Zone 1 และ 2 เพราะว่าโรงเก็บจรวดที่ SpaceX ใช้ในการ Refurbish หรือตรวจสอบความพร้อมของจรวดก่อนจะนำมาบินใหม่ หรือที่เรียกว่า Hangar X นั้น จะอยู่ในส่วนของ NASA Kennedy Space Center ซึ่งใกล้กว่าการนำจรวดกลับมาจาก Landing Zone 1 และ 2 ปัจจุบันพอสมควร

Landing Zone 1 นั้น ได้เป็นพื้นที่ลงจอดจรวดสำหรับ SpaceX มาตั้งแต่การลงจอดครั้งแรกของเที่ยวบิน Orbcomm OG2 ในช่วงปลายปี 2015 ซึ่งเป็นการลงจอดครั้งแรกของจรวด Falcon 9 และถูกใช้งานต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งมีการสร้าง Landing Zone 2 ด้านข้างแต่อยู่ในบริเวณเดียวกันเพื่อรองรับการลงจอดจรวด Booster สองลำพร้อมกัน ในเที่ยวบินของ Falcon Heavy
ประวัติศาสตร์ที่ดินของ Landing Zone 1 และ 2 นั้นต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงต้นปี 2015 เมื่อ SpaceX ได้เช่าพื้นที่ฐานปล่อย LC-13 ในบริเวณ Cape Canaveral Space Force Station ซึ่งในอดีตเคยใช้เป็นฐานปล่อยขีปนาวุธข้ามทวีป Atlas และถูกใช้งานร่วมกับ NASA ในภารกิจตระกูล Atlas-Agena
ประวัติศาสตร์ที่ดินของแหลมคะเนอเวอรัล และทำไม NASA ต้องปล่อยจรวดที่นั่น
ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับการคืนฐานปล่อย LC-13 หรือ Landing Zone 1 และ 2 นั้น รายละเอียดล่าสุดได้ถูกระบุไว้บนเว็บไซต์ของกองทัพฯ ใน Eastern Range Launch Pad Allocations Drive Innovation and Development บอกว่าฐานปล่อย LC-13 นั้นจะถูกปล่อยเช่าให้กับบริษัท Phantom Space และ Vaya Space เพื่อเป็นฐานปล่อยจรวดขนาดเล็ก อย่างไรก็ดี ไม่ได้มีรายละเอียดออกมาว่า สองบริษัทอวกาศหน้าใหม่นี้จะเข้ามาใช้พื้นที่ดังกล่าวเมื่อไหร่ ในปีใด
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับการลงจอด Falcon 9
พาบุกฐานปฏิบัติการทางทะเลของ SpaceX ดูการเก็บกู้จรวด Falcon 9
Autonomous Spaceport Drone Ship ฐานลงจอดกลางมหาสมุทรของ SpaceX
เรียบเรียงโดย ทีมงาน Spaceth.co